ส่อง 12 สังเวียนฟาดแข้ง ฟุตบอลโลก 2018
ศึกฟุตบอลโลก 2018 เจ้าภาพ “รัสเซีย” ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท ในการจัดการแข่งขัน
โดย ชมณัฐ
ศึกฟุตบอลโลก 2018 เจ้าภาพ “รัสเซีย” ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท ในการจัดการแข่งขัน โดยเงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการปรับปรุงและก่อสร้างสนาม เพื่อเตรียมรับมือสตาร์ลูกหนังทั้ง 32 ทีม ตลอดจนแฟนบอลจากทุกทวีปที่เดินทางมาชมเกมการแข่งขัน เบ็ดเสร็จแล้วมีทั้งหมด 12 สังเวียน ใน 11 เมืองทั่วแดนหมีขาว และเป็นการก่อสร้างใหม่ถึง 6 สนาม ซึ่งแต่ละสนามก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
1.ลุจนีกี สเตเดี้ยม (มอสโก) : สนามที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียตั้งอยู่ในเมืองหลวง ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อใช้เป็นสังเวียนสำหรับนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงรอบตัดเชือกสามารถรองรับแฟนบอลได้ถึง 8.1 หมื่นที่นั่ง โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ในระดับ 4 ดาว
2.ออตคริติเย อารีนา (มอสโก) : รังเหย้าในปัจจุบันของสโมสร สปาร์ตัก มอสโก แชมป์ลีกสูงสุดรัสเซีย 22 สมัย เปิดใช้เมื่อปี 2014 รองรับแฟนบอลได้ถึง 45,360 คน โดยในฟุตบอลโลกครั้งนี้จะใช้ในรอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย
3.โอลิมปิกฟิชต์ (โซชิ) : ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของรัสเซีย ตั้งอยู่ในเมืองโซชิ ทางตอนใต้ของประเทศ เปิดใช้งานเมื่อปี 2013 พร้อมถูกใช้เป็นสนามกีฬาหลักของศึก โอลิมปิก ฤดูหนาว ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2014 โดยมีความจุถึง 47,659 คน
4.คาซาน อารีนา (คาซาน) : อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้จากกรุงมอสโก เปิดใช้เมื่อปี 2013 ปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของสโมสร รูบิน คาซานจุแฟนบอลได้ 45,379 คน ครั้งนี้ถูกใช้ในรอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย
5.เครสตอฟสกี สเตเดี้ยม (เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) : รังเหย้าแห่งใหม่ของสโมสร เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเดือน พ.ค. 2017 โดยสนามนี้มีจุดเด่นคือหลังคาสามารถพับเก็บได้ และรองรับแฟนบอลได้ถึง 68,134 คน เคยใช้เป็นสังเวียนนัดชิงชนะเลิศ ศึกคอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ 2017 มาแล้ว โดยฟุตบอลโลกครั้งนี้จะใช้ในรอบชิงอันดับ 3 ด้วยเช่นกัน
6.คาลินินกราด สเตเดี้ยม (คาลินินกราด) : สนามที่สร้างขึ้นมาใหม่ความจุ 35,212 คน โดยมี อัลลิอันซ์ อารีนา ของสโมสรบาเยิร์น มิวนิก ในเยอรมนี เป็นต้นแบบ อยู่ในแคว้นคาลินินกราด ซึ่งเป็นดินแดนที่ไม่มีอาณาเขตติดกับรัสเซีย โดยตั้งอยู่ระหว่างประเทศลิทัวเนียและโปแลนด์ในทะเลบอลติก
7.นิจนีนอฟโกรอด สเตเดี้ยม (นิจนีนอฟโกรอด) : อีกหนึ่งสนามที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ความจุ 44,899 คน สนามแห่งนี้จะใช้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งรัฐบาลรัสเซียได้ขยายสถานีรถไฟใต้ดินให้มาถึงบริเวณหน้าสนาม เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
8.คอสมอส อารีนา (ซามารา) : ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2014 ก่อนจะแล้วเสร็จในปี 2017 มีความจุ 44,918 ที่นั่ง ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย และรอบ 8 ทีมสุดท้าย
9.วอลโกกราด อารีนา (วอลโกกราด) : สนามเก่าแก่ ก่อสร้างเมื่อปี 1958 ในชื่อ เซ็นทรัล สเตเดี้ยม ก่อนจะมีการรื้อสร้างใหม่ จนมีความจุ 45,568 คน โดยทัวร์นาเมนต์นี้ใช้งานเพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
10.เซ็นทรัล สเตเดี้ยม (เยคาเตรินเบิร์ก) : สนามกีฬาอเนกประสงค์ ก่อตั้งเมื่อปี 1957 ซึ่งเดิมทีสนามแห่งนี้จุได้ 2.7 หมื่นที่นั่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเป็นสนามแข่งขันในฟุตบอลโลก รัสเซียจึงได้ปรับปรุงใหม่จนมีความจุ 35,696 ที่นั่ง โดยสร้างอัฒจันทร์ชั่วคราวเพื่อให้รองรับแฟนบอล
11.มอร์โดเวีย อารีนา (ซารันสค์) : สนามกีฬาแห่งใหม่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมันมีดีไซน์เป็นรูปทรงชาม ภายนอกสร้างด้วยกระจก ในฟุตบอลโลกครั้งนี้รองรับคนดูได้ถึง 44,442ที่นั่ง แต่หลังจบทัวร์นาเมนต์จะมีการรื้อถอนให้เหลือเพียง 2.8 หมื่นที่นั่งเท่านั้น โดยสแตนด์ด้ายซ้ายจะถูกเปลี่ยนเป็นทางเดินและพื้นที่สำหรับร้านค้า
12.รอสตอฟ อารีนา (รอสตอฟ-ออน-ดอน) : สนามใหม่ความจุ 4.5 หมื่นคน ที่จะกลายเป็นรังเหย้าของเอฟซี รอสตอฟ ทีมดังของประเทศในอนาคต และจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง ซึ่งรอสตอฟ-ออน-ดอน นับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของแคว้นรอสตอฟ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศรัสเซีย


