‘พะงัน’ ตะวันเต็มดวง
นอกจากฟูลมูนปาร์ตี้ มีใครคิดถึงพะงันในภาพอื่นบ้าง
โดย /ภาพ : กาญจน์ อายุ
นอกจากฟูลมูนปาร์ตี้ มีใครคิดถึงพะงันในภาพอื่นบ้าง
นี่เป็นคำถามที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย และสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ในฐานะ “คนในพื้นที่” ต้องการป่าวประกาศคำตอบออกไปว่า “มี!” เพราะคืนวันเพ็ญมีเพียงเดือนละครั้ง วันอื่นนอกเหนือจากนั้นจึงเป็นคำตอบ
เกาะพะงันเป็นเกาะขนาดใหญ่ 168 ตร.กม. เป็นรองเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้าง และเกาะตะรุเตา มีสภาพภูมิศาสตร์ที่สมบูรณ์ทั้งชายหาดที่มีอยู่เกือบรอบเกาะ มีแนวปะการังอยู่ทางด้านทิศตะวันตก มีที่ราบเชิงเขาเหมาะแก่การทำสวนมะพร้าว สวน
ผลไม้ และยางพารา ทั้งยังมีต้นน้ำลำธารและน้ำตกหล่อเลี้ยงชีวิตคนเกาะพะงัน
เพื่อง่ายต่อการหาคำตอบ ทางสมาคมโรงแรมฯ จึงแบ่งพื้นที่บนเกาะพะงันออกเป็น 5 โซน ตามคาแรกเตอร์ของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ โซน 1 Centre of Lifestyles โซน 2 Full Moon Destination โซน 3 Heritage and Nature โซน 4 Into the Sea และโซน 5 Healthy and Wellness โดยการท่องเที่ยวบนเกาะพะงันสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งปี (ยกเว้นช่วงมรสุมตั้งแต่กลาง ต.ค.-พ.ย.) แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกลับเป็นช่วงสั้นๆ ระหว่าง ก.พ.-เม.ย. เวลานี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะลงพื้นที่และหาคำตอบ
Centre of Lifestyles ตะวันรอนท้องศาลา
โซนแรกกินพื้นที่ตามแนวชายหาดท้องศาลาไปจนถึงชุมชนบ้านใต้ บ้านค่าย ซึ่งบริเวณหาดท้องศาลาถือเป็นศูนย์กลางความเจริญของเกาะพะงัน ด้วยมีท่าเรือเฟอร์รี่ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม อย่างในช่วงเทศกาลสงกรานต์เช่นนี้ หาดท้องศาลาจะเป็นที่รวมตัวเล่นสาดน้ำเหมือนถนนข้าวสารหรือสีลมในกรุงเทพฯ
รวมทั้งช่วงวันออกพรรษา จุดนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานประเพณีชักพระ ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ที่กำเนิดขึ้นบนเกาะพะงันและยังยึดถือปฏิบัติกันสืบมา
ขาดไม่ได้สำหรับแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่จะมีถนนคนเดิน ที่นี่เปิดบนถนนตลาดเก่า ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-21.00 น. ถนนสายนี้เป็นย่านการค้าโบราณ สภาพบ้านเรือนสองฟากถนนยังเป็นห้องแถวเรือนไม้ บางหลังเคยเป็นร้านค้าของคหบดี จึงให้บรรยากาศย้อนยุค โดยพ่อค้าแม่ขายจะจำหน่ายสินค้าราคาถูกและอาหารท้องถิ่นอย่าง ขี้หมาต้วง และข้าวตู ก็มีให้ลองชิม
ส่วนวิถีชีวิตดั้งเดิมของผู้คนแถบท้องศาลายังมีให้เห็นแถวท่าเรือเฟอร์รี่ กับวิถีของพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้รถเข็นขายอาหาร เครื่องดื่ม และอาหารทะเลตากแห้ง เมื่อตกเย็นบรรดาร้านรถเข็นจะไปรวมตัวที่ตลาดพันธ์ทิพย์ ศูนย์อาหารท้องถิ่นในบรรยากาศชาวบ้านร้านถิ่นราคาย่อมเยา
ขณะเดียวกันอย่าพลาดชมช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกที่หาดท้องศาลา ยิ่งหน้าร้อนตะวันจะกลมโตใหญ่สาดแสงแดงรอนทิ้งไว้บนท้องฟ้านานกว่าและงามกว่าฤดูกาลอื่น
โซนที่ 1 ยังรวมไปถึงพื้นที่ชุมชนบ้านใต้ 1 ใน 3 ชุมชนเก่าแก่บนเกาะพะงัน เป็นชุมชนชาวจีนไหหลำที่อพยพมาตั้งรกราก ทำอาชีพประมง และแต่งงานกับคนในท้องถิ่นจนกลายเป็นชุมชนคนเลเชื้อสายจีนขนาดใหญ่ ใกล้กันมีพื้นที่เชื่อมต่อกับบ้านค่าย จนบางครั้งถูกเรียกเป็นที่เดียวกันว่า ชุมชนบ้านใต้ บ้านค่าย โดยทั้งสองชุมชนมีชายหาดที่ทอดยาวต่อมาจากหาดท้องศาลา รวมความยาวไม่ต่ำกว่า 7 กม.
ศูนย์กลางของเกาะพะงัน ถูกจัดให้เป็นโซนแรก นักท่องเที่ยวที่ลงเรือเฟอร์รี่สามารถค้นหาตัวตนของเกาะพะงันในโซนนี้ได้ทันที ผ่านอาหารการกินและชุมชนเก่าแก่บนผืนหาดเดียวกัน
Full Moon Destination ฟื้นคืนการกินห่อ
ปาร์ตี้บนหาดริ้นในคืนพระจันทร์เต็มดวง กลายเป็นอีเวนต์ระดับนานาชาติที่วัยรุ่นทั่วโลก อยากมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต โดยข้อมูลจาก ททท. ระบุว่า ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวมาเกาะพะงันรวม 974,131 คน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาเพื่อร่วมกิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ และเป็นกลุ่มวัยรุ่น รองลงมาคือ กลุ่มแก๊ปเยียร์ (Gap Year) หรือคนที่ออกท่องโลกหาประสบการณ์ชีวิต 1 ปีก่อนเรียนมหาวิทยาลัย เป็นชาวอังกฤษ อิสราเอล เยอรมัน ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย ตามลำดับ
เหตุที่หาดริ้นเป็นจุดชมพระจันทร์เต็มดวงสวยงามกว่าหาดอื่นบนเกาะพะงัน เป็นเพราะสภาพภูมิศาสตร์ที่มีชายหาดยาว 700 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์จะลอยผุดขึ้นมาจากผืนน้ำ เด่นตระหง่านเป็นสปอตไลต์เปลี่ยนทะเลสีดำให้เป็นสีทอง
ส่วนเหตุที่ต้องมีปาร์ตี้ในคืนวันเพ็ญนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ย้อนกลับไปประมาณปี 2519 ชาวเกาะพะงันพบปะกับกลุ่มคนแปลกหน้าผมทองเป็นครั้งแรก พวกเขาเป็นฝรั่งแบ็กแพ็กเกอร์ 3-4 คน ที่ข้ามเรือมาเที่ยวบนเกาะพะงัน โดยชาวบ้านให้ฝรั่งพักอยู่ในบ้านตามอุปนิสัยของชาวชนบท หรือบางครั้งก็ให้เช่ากระต๊อบในสวนมะพร้าวใกล้ชายหาดเป็นที่หลับที่นอน
ผู้มาเยือนกลุ่มแรกใช้ชีวิตอยู่กับชาวพะงันเป็นแรมปี ทั้งออกเรือหาปลา ทำอาหารกินข้าวด้วยกัน และบางครั้งที่ชาวบ้านมีนัด ‘กินห่อ’ บนชายหาดก็จะมีฝรั่งร่วมวงด้วย
การกินห่อ เป็นคำเรียกของชาวเกาะพะงันถึงการนัดแนะมากินข้าวปลาอาหารกันบนชายหาด บ้านไหนทำกับข้าวอะไรมาก็ใส่ห่อมากินด้วยกัน เหมือนเป็นการปิกนิกระดับชุมชน แต่คำที่ฝรั่งกลุ่มนั้นใช้ได้เรียกการกินห่อว่า ‘ปาร์ตี้’ จนชาวเกาะพะงันติดหูและติดปากว่า วัฒนธรรมที่ตัวเองทำสืบทอดต่อกันมาในภาษาฝรั่งเรียกว่า ปาร์ตี้
จากนั้นเมื่อฝรั่งกลุ่มแรกกลับไป การเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเกิดขึ้นบนเกาะพะงัน เมื่อฝรั่งได้นำรูปภาพและบันทึกประสบการณ์ไปถ่ายทอดลงไกด์บุ๊กเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เหล่าแบ็กแพ็กเกอร์ที่ไม่เกี่ยงที่จะใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติเดินทางมาเกาะพะงันมากขึ้น
จากหลักสิบคนกลายเป็นร้อยคน จนชาวบ้านเองเริ่มมองเห็นลู่ทางทำมาหากินจึงสร้างที่พักแบบบังกะโล หลังคามุงจาก ผนังกั้นด้วยไม้ไผ่ ราคาหลักสิบถึงร้อยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติพักอาศัย
บังกะโลแห่งแรกเกิดขึ้นบนหาดริ้นชื่อ บูรณ์ บังกะโล เปิดเมื่อปี 2523 กระทั่งปัจจุบัน 38 ปีผ่านไป บนเกาะพะงันมีที่พักรวม 383 แห่ง คิดเป็นจำนวน 9,025 ห้อง
ส่วนกิจกรรมกินห่อก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นงานพบปะสังสรรค์ของชาวต่างชาติ ไม่มีใครห่ออาหารมาล้อมวงกินกันเหมือนแต่ก่อน แต่เปลี่ยนเป็นปาร์ตี้อย่างที่ฝรั่งกลุ่มแรกเรียกขานอย่างเต็มรูปแบบ
กระทั่งประมาณปี 2532 ปาร์ตี้ธรรมดามีคำนำหน้าเพิ่มเข้ามาเป็น ฟูลมูนปาร์ตี้ ตามไอเดียของผู้ประกอบการ พาราไดซ์ บังกะโล ที่จัดปาร์ตี้บนหาดริ้นนอกในคืนพระจันทร์เต็มดวงเป็นครั้งแรก เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวต่างชาติจนถูกพูดต่อขจรไปไกลว่า
พะงันมีฟูลมูนปาร์ตี้แห่งเดียวในโลก
ปัจจุบันสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ต้องการพลิกฟื้นวัฒนธรรมกินห่อให้กลับมา เพื่อตามหารากเหง้า และให้มองกิจกรรมคืนวันเพ็ญอีกด้าน ถึงประวัติอันยาวนานและแสนอบอุ่นระหว่างชาวไทยและต่างชาติ ก่อนมีไฟนีออนเรืองแสงและเพลงอีดีเอ็มเข้ายึดหัวหาดทุกเดือน
Heritage and Nature เกาะแห่งน้ำตก รอยจารึก และมะพร้าว
เกาะพะงันมีชายหาดล้อมรอบไม่ต่ำกว่า 20 หาด ส่วนบนเกาะก็ไม่น้อยหน้าอุดมไปทั้งป่าไม้และสวนมะพร้าวตามธรรมชาติ มีต้นน้ำก่อเกิดเป็นลำธารหลายสาย น้ำตกหลายแห่ง และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด
น้ำตกที่คนนิยม เช่น น้ำตกแพง น้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าครึ้ม จากน้ำตกมีเส้นทางตัดชันขึ้นไปยังจุดชมวิวโดมศิลา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและเห็นทิวทัศน์เกาะแก่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า เกาะสมุย และเกาะพะงันทางด้านใต้และตะวันตก
ยังมีน้ำตกพุแดง โดดเด่นด้วยสายธารไหลลงมาจากหน้าผาหินด้านบนเป็นทางยาว ด้านล่างเป็นแอ่งใหญ่ให้ลงเล่นน้ำประหนึ่งสระว่ายน้ำกลางไพร โดยน้ำตกนี้เป็นสายธารเดียวกันกับน้ำตกธารเสด็จ มีลักษณะเป็นลานหินกว้าง สายน้ำจะลัดเลาะซอกหินรวมกันเป็นธารน้ำยาวกลายเป็นแหล่งน้ำจืดตามธรรมชาติที่มีให้ใช้ตลอดทั้งปี ทั้งยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
กล่าวคือชื่อ ธารเสด็จ เป็นนามพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์เคยเสด็จประพาสหลายครั้ง หากกล่าวถึงเกาะพะงัน ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสมาถึง 14 ครั้ง ระหว่างปี 2431-2452 เพราะเป็นทางผ่านตามเส้นทางเสด็จสู่แหลมมลายู
สำหรับการเสด็จประพาสมายังเกาะพะงันครั้งแรกในปี 2431 พระองค์ได้เสด็จไปที่น้ำตกธารเสด็จ และโปรดให้จารึกอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ‘หิน จปร ที่ ๑’ ไว้ที่โขดหิน เพื่อเป็นการบันทึกประวัติการเดินทาง และประกาศพระราชอาณาเขตด้วยอีกนัยหนึ่ง
อีกทั้งบริเวณปลายลำธารของน้ำตกธารเสด็จยังพบจารึกอักษรพระปรมาภิไธย ‘จปร. ๑๐๘ ต่อไปมีไร่’ ดังความปรากฏในพระราชหัตถเลขาเรื่อง เสด็จประพาสแหลมมลายูคราว ร.ศ. 108 ว่า “... ขึ้นถึงหลังเขาเป็นที่ราบ พบไร่พริกมะเขือกล้วย ซึ่งพวกบ้านใต้ขึ้นมาทำ เรียกว่าท้องชะนาง อยู่ในระหว่างยอดเขาสูงล้อม พื้นที่นี้สูงกว่าทเล ๕๕๐ ฟิต จึงได้ให้จารึกก้อนศิลาที่ปลายธารนั้นไว้อีกว่าต่อไปมีไร่...”
ในครั้งต่อๆ มา พระองค์ได้ทรงสำรวจน้ำตกแห่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก และพระราชทานนามว่า น้ำตกธารประพาส และน้ำตกธารประเวศ ส่วนบริเวณน้ำตกธารเสด็จยังพบจารึกพระปรมาภิไธยย่อของพระเจ้าอยู่หัว 3 รัชกาล คือ รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 บนแผ่นหินจำนวน 10 แห่งโดยรอบน้ำตก
โซนที่ 4 จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ควบคู่ไปกับธรรมชาติ และด้วยพื้นที่ของโซนนี้อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน จึงต้องกล่าวถึงความสวยงามของชายหาดรูปโค้งเป็นวงพระจันทร์เสี้ยวชื่อ หาดท้องนายปานใหญ่ และท้องนายปานน้อย
หาดท้องนายปานน้อยมีความยาวราว 700 เมตร มีเม็ดทรายขาวเนียนและละเอียดกว่าหาดอื่นบนเกาะพะงัน จึงถูกยกให้เป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะ ส่วนหาดท้องนายปานใหญ่จะถูกกั้นด้วยเนินเขาและโขดหิน มีความยาวประมาณ 1,000 เมตร ปัจจุบันทั้งสองหาดเป็นที่ตั้งของโรงแรมห้าดาวหลายแห่ง ทางเลือกที่หรูหราเพื่อชายหาดงามและทะเลสงบ
ปัจจุบัน มะพร้าวเกาะพะงันได้รับมาตรฐาน GI (Geographical Indications) หรือมาตรฐานสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จากการวิจัยพบว่า มะพร้าวเกาะพะงันมีความมัน มีคุณค่าทางอาหารสูง เนื้อหนานุ่ม มีเนื้อ 2 ชั้น มีน้ำที่หอมอร่อย ไม่หวานจัด และอุดมด้วยแร่ธาตุบำรุงสุขภาพ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรกำลังสนับสนุนและหวังให้เกษตรกรปลูกมะพร้าวแบบอินทรีย์ทั้งเกาะ จำนวนกว่า 3 หมื่นไร่เศษ
ขณะเดียวกันก็มีเรื่องน่าเป็นห่วง เนื่องจากต้นมะพร้าวบนเกาะพะงันกำลังถูกโค่นเพื่อใช้เป็นพื้นที่สร้างที่พักมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่ไม่มีขีดจำกัด ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติที่จะหายไป และวิถีชีวิตคนกับมะพร้าวก็มีแนวโน้มจะสูญหายด้วย
Into the Sea ดำดิ่งใต้ทะเล
ช่างเป็นการรังสรรค์จากธรรมชาติ เพราะโซนที่ 4 เต็มไปด้วยจุดดำน้ำดูปะการังนอกชายฝั่ง เริ่มต้นจากหาดเจ้าเภา หาดสน หาดยาว หาดสลัด ไปจรดแม่หาด จะเป็นแนวปะการังที่ทอดตัวยาวเหยียดต่อกันจึงดำน้ำได้ต่อเนื่องเป็นแนวเหนือจรดใต้
บริเวณแม่หาดยังเป็นจุดที่มีทะเลแหวกเกือบตลอดปี ปรากฏเป็นสันทรายจากแม่หาดเชื่อมไปยังเกาะม้าความยาวราว 350 เมตร จนสามารถเดินเชื่อมถึงกัน ซึ่งเกาะม้าเป็นจุดดำน้ำตื้นสำคัญของเกาะพะงัน พบปะการังหลายชนิดทั้งปะการังสมอง ปะการังโขดหิน ปะการังเห็ด และฝูงปลาหลากสีสันทั้งปลานกแก้ว ปลาสินสมุทร ปลาอินเดียนแดง ปลาสลัดหิน ปลาตะกรับลายเสือ และหนอนดอกไม้พู่ฉัตรสุดงดงาม
คนละบรรยากาศกับชายหาดโฉลกหลำ บริเวณนี้มีชายหาดเป็นครึ่งวงกลมราวจันทรา และเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวประมงเก่าแก่ที่ใช้ชีวิตยึดโยงกับท้องทะเล มิใช่การท่องเที่ยว อาชีพหลักคือ ประมง ออกเรือหาปลาและเรือไดหมึก โดยทุกค่ำคืนจะเห็นแสงไฟสีเขียวจำนวนมากอยู่กลางทะเลบ่งบอกถึงความชุกชุมของหมึกและสัตว์น้ำ
สินค้าขึ้นชื่อคือ หมึกตากแห้ง ทุกเช้าชาวประมงจะบรรทุกหมึกกลมสดมาเต็มเรือ ขายยกลำให้ร้านค้าริมหาด แต่ละเจ้าจะล้างหมึกด้วยน้ำทะเล เป็นเคล็ดลับให้หมึกโฉลกหลำมีรสชาติอร่อยเฉพาะตัว จากนั้นนำวางเรียงบนตาข่ายกลางแดดแรงกล้า และแพ็กขายวันต่อวัน ทั้งยังเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพราะตากแห้งเป็นการถนอมอาหารไว้กินยามหน้ามรสุมที่ออกเรือหาปลาไม่ได้
โซน 4 อินทู เดอะ ซี จึงเข้าถึงเกาะพะงันด้วยการลงไปดูให้เห็นกับตา และสัมผัสความอร่อยจากท้องทะเลแบบธรรมชาติโดยไม่ปรุงแต่งใดๆ
Healthy and Wellness
โยคะ สมาธิ
เส้นทางท่องเที่ยวโซนสุดท้ายอยู่ทางด้านทิศตะวันตก วกกลับมาใกล้กับจุดเริ่มต้นที่ศูนย์กลางของเกาะหาดท้องศาลา แต่ดูเหมือนว่าในโซนนี้จะรักความเงียบและการขยับเขยื้อนที่เชื่องช้า สำหรับคนรักสุขภาพและบำบัดจิตใจ
พุ่งเป้าไปที่ จรัลโยคะ สถานที่เอกชนของหญิงสาวผู้หลงใหลโยคะและการบำบัดสุขภาพ จิตใจ ด้วยธรรมชาติ ที่นี่ให้บริการอาหารมังสวิรัติ โดยเก็บผักผลไม้จากสวนที่ปลูกเอง ให้บริการคอร์สโยคะ และคอร์สบำบัดจิตใจทางเลือกหลายรูปแบบทั้งของไทยและต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่ต้องการวิปัสสนาและฝึกตนตามหลักพระพุทธศาสนา วัดสมัยคงคา เป็นสถานที่แห่งนั้นที่เปิดรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จนเป็นภาพชินตาที่จะเห็นฝรั่งเดินจงกลมอยู่ภายในรั้ววัดผ่านรูปปั้นเปรตสองตนไปอย่างสงบนิ่ง และเป็นภาพอันน่าทึ่งที่กลับตาลปัตรจากภาพแห่งความครึกครื้นริมหาดริ้น
ความพยายามในการป่าวประกาศว่าเกาะพะงันมีมากกว่าปาร์ตี้ โดยการแบ่งพื้นที่บนเกาะออกเป็น 5 โซนให้เห็นภาพชัดถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และการนำเสนอภาพพะงันในอดีตเพื่อระลึกถึงตัวตนที่ถูกลืม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้อง เพราะไม่มีบ้านเมืองไหนจะเจริญอย่างยั่งยืนได้โดยปราศจากการให้คุณค่ากับภูมิปัญญาและประวัติศาสตร์
การบันทึกเหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะกลาย เป็นอดีตในวันข้างหน้าคือตัวกำหนดรากเหง้าใหม่ จึงขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะจดจำเกาะพะงันในภาพไหน และคนท้องถิ่นเลือกใช้ชีวิตบนเกาะพะงันอย่างไร ภาพของเกาะพะงันก็จะเป็นไปตามแรงคลื่นที่ซัดมานั่นเอง


