ณัฐณิชา บุญเลิศ ชวนมากินข้าวบ้านเชฟ
เชฟรุ่นใหม่ใบหน้าคมเข้ม คุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างแล้ว กับความสามารถผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย จากรายการ Master Chef Thailand
เชฟรุ่นใหม่ใบหน้าคมเข้ม คุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างแล้ว กับความสามารถผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย จากรายการ Master Chef Thailand เชฟพลอย-ณัฐณิชา บุญเลิศ วันนี้เลือกปรุงอาหารในกระแสสุขภาพ นำเสนอสลัดจานเล็กในสไตล์ฝรั่งเศส จัดจานสวยน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอาหารตา บ่งบอกความละเมียดละไมสไตล์เชฟหญิงบุคลิกอ่อนหวาน
ในวันที่คนเราไม่มีแค่ตัวเลือกเดียว ทำงานเพียงอย่างเดียว เชฟพลอย ณัฐณิชา บอกพร้อมรอยยิ้มเขินๆ ในแบบฉบับสาวพูดน้อยขี้อาย อาชีพเชฟเป็นอาชีพรอง ส่วนอาชีพหลักคือ แอร์โฮสเตสสายการบินประจำชาติ ซึ่งทั้งสองอาชีพล้วนมาจากการชี้แนะของคุณแม่ ที่อยากนำทางให้ลูกสาวทำงานด้านสายอาชีพ
“คุณแม่แนะนำให้พลอยเลือกเรียนทางด้านการโรงแรมค่ะ พลอยจบปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการโรงแรม สถาบันวาแตล (Vatel International Business School) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งการเรียนคณะนี้ก็ได้เรียนทุกๆ อย่างเกี่ยวกับงานบริการสายโรงแรม เริ่มไปตั้งแต่เรียนการจัดเตียงปูเตียง เรียนเรื่องเครียดๆ เกี่ยวกับไฟแนนซ์ การตลาด เพื่อไปทำงานในสายการบริหารจัดการโรงแรม
ได้เรียนเรื่องการครัวด้วยค่ะ และกลายเป็นการค้นพบเส้นทางใหม่ๆ ในชีวิต พลอยมีความสุขมากกับการเรียนการทำอาหาร ไม่มีความเครียดเลย จากที่เคยคิดว่าอาหารฝรั่งเศสเป็นเรื่องยากมาก ก็กลายเป็นว่าพลอยก็ทำได้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถเลยค่ะ ซึ่งแต่ก่อนนั้นพลอยทำอาหารไม่เป็นเลยนะคะ”
เชฟพลอย บอกอีกครั้งว่า หน้าที่เชฟกำลังอยู่ในช่วงน่าตื่นเต้น กับการเริ่มต้นร้านอาหารทางเลือกแนวใหม่ ที่เรียกว่า Chef’s Table เปิดรับนักชิมจำนวนจำกัด แต่ละเมนูเมื่อปรุงเสร็จสรรพ เชฟพร้อมเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองทันที ถือเป็นการดื่มด่ำกับอรรถรสของอาหาร พร้อมกับการนำเสนอการปรุงพิถีพิถัน ได้ทั้งความอร่อย และจานอาหารสวยลงตัว
“โชคดีมากค่ะ เราได้ทำตามความฝันทั้งสองอาชีพ ตอนเรียนจบก็บอกคุณแม่ค่ะ พลอยขอไปสมัครแอร์โฮสเตสก่อนนะคะ เพราะคือความฝัน แล้วมีอายุงานการเป็นแอร์ที่มีกำหนดอายุการสมัครงานแค่ 26 ปีเท่านั้น ก็ต้องรีบสมัคร ซึ่งขณะที่การเป็นเชฟสามารถต่อยอดทำงานนี้ได้ตลอดชีวิต และการผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย รายการมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ก็ทำให้อาชีพเชฟมาเร็วขึ้นด้วยค่ะ
คุณแม่ให้คำแนะนำดีๆ อีกครั้งค่ะ โดยให้เปิดบ้านทำเป็นร้านอาหาร ในสไตล์จัดโต๊ะมื้อดินเนอร์สวยงาม ระดับโรงแรม 5 ดาว คัดเลือกเมนูพิเศษที่เราอยากนำเสนอ
การทำอาหารคือ การต่อยอด พลอยเก็บประสบการณ์ได้เรื่อยๆ ค่ะ ย้อนไปตอนเรียนวาแตล พลอยได้ขึ้นแข่งขันการทำอาหาร และเป็นตัวแทนติดทีมไปแข่งระหว่างมหาวิทยาลัย ก็เก็บรางวัลเล็กๆ มาเรื่อยๆ จนรู้สึกติดการแข่งขันที่อยากขึ้นเวทีประกวดทุกๆ ปี และอยากเรียนเพิ่มเติมความรู้เรื่องการทำอาหารให้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ จึงเลือกเรียนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ แต่ถ้าเรียนเมืองไทยก็จะไม่ได้ภาษา เพราะอีกเป้าหมายของเราคืองานสายการบิน จึงเลือกไปเรียนที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เรื่องการปรุงอาหารก็ได้แสดงฝีมือจริงๆ ก็ตอนแข่งขันรายการมาสเตอร์เชฟ ติด 1 ใน 4 ก็ได้คำชมค่ะว่าทำซอสได้ดี และทำตามโจทย์ได้ดี คือหลักการทำอาหารฝรั่งทำต้องตามสูตรอยู่แล้วนะคะ พลอยเพลย์เซฟมากค่ะ ตามสูตรไว้ก่อนนะคะ (หัวเราะ) และอีกเรื่องโดดเด่นคือการจัดจาน ก็แบบที่เห็นค่ะพลอยจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จานสลัดอโวคาโด ซอสชาเขียวพานาคอตตา ก็เลือกหาดอกไม้น่ารักๆ ประกอบจานค่ะ”
ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table เชฟพลอยกล่าวถึงแรงบันดาลใจมาจากตำรับไทยโบราณ ฝีมือคุณยาย ที่จะมาผสมผสานกับอาหารยุโรป เป็นแนวทางนำเสนอให้ประสบการณ์การกินในรูปแบบใหม่
“ที่บ้านคนทำกับข้าวให้ทุกคนกินกันอร่อยๆ ไม่ใช่พลอยค่ะ แต่เป็นคุณยายรับหน้าที่หลักนี้ คุณยายทำอาหารไทย ขนมจีนน้ำพริกฝีมือคุณยายอร่อยมากค่ะ ก็อยากชวนคนมากินข้าวบ้านเชฟกันนะคะ (บอกพร้อมรอยยิ้มหวาน) เป็นอาหารในสไตล์ที่พลอยฟิวชั่นกับคุณยาย ข้าวตังหน้าตั้งตำรับยายแทนที่จะใส่หมู ยายใส่กุ้งหนักๆ เครื่องก็เยอะ กลายเป็นอาหารรสมือของยาย แต่หน้าตาการจัดจานจะเป็นสไตล์ยุโรปแบบพลอยค่ะ”
เชฟพลอย ณัฐณิชา กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานในครัวสนุกที่ได้จินตนาการรสชาติ สลัดจานนี้ก็คิดไว้ก่อนปรุงว่า อโวคาโดเข้ากันได้ดีกับน้ำผึ้ง นม โดยมีวิธีปรุงคือทำด้วยกรรมวิธีดูง่ายๆ แต่ก็มีความซับซ้อนในทุกๆ ขั้นตอน และกลายเป็นรสมือที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับนักชิมที่รู้สึกถูกใจแนวคิด หรือชอบสไตล์แบบเชฟพลอย ติดต่อ อินสตาแกรม nichaploii เฟซบุ๊ก Ploy Natnicha B. และเฟซบุ๊กเพจ ploysfooddiary &O5532;


