“อาร์แกน” น้ำมันแห่งความงามอันทรงคุณค่า
ความเป็นมาและประโยชน์อันล้ำค่าของน้ำมันอาร์แกน
ความเป็นมาและประโยชน์อันล้ำค่าของน้ำมันอาร์แกน
หากพูดถึงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติอันล้ำค่า หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น "น้ำมันอาร์แกน" (Argan Oil) ที่เหล่าแบรนด์ความงามระดับโลกเลือกใช้ วันนี้เฮดแอนด์โชว์เดอร์ มาเผยเรื่องราวความพิเศษของน้ำมันอาร์แกน
1. ชาวโมร็อกโกเชื่อกันว่าต้นอาร์แกนเปรียบเสมือน "ต้นไม้แห่งชีวิต" เพราะเป็นพืชที่เติบโตท่ามกลางทะเลทราย รากที่ยั่งลึก และใบมีขนาดเล็ก ลำต้นเต็มไปด้วยหนามคดเคี้ยว ทำให้ต้นอาร์แกนมีความทนต่อสภาพแวดล้อมค่อนข้างสูง แม้อยู่ในสภาวะขาดน้ำ หรือท่ามกลางลมแล้ง แต่กลับมีอายุยืนยาวหลายร้อยปี จากการเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่พิเศษของต้นอาร์แกนนี้นำมาซึ่งน้ำมันบริสุทธิ์
2. ในหนึ่งวันชาวเบอร์เบอร์ (Berbers) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศโมร็อกโก สามารถผลิตน้ำมันอาร์แกนได้ในปริมาณน้อยมาก เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ยุ่งยาก โดยจะนำผลอาร์แกนสุกจำนวน 35 กก. ไปตากแห้งแล้วแกะให้เหลือแต่เมล็ดอาร์แกนเปลือกแข็ง จากนั้นต้องกระเทาะเปลือกเพื่อนำแต่เนื้อในของเมล็ดไปผ่านกระบวนการสกัดเย็นจนได้น้ำมันบริสุทธิ์เหลือเพียง 1 กก.เท่านั้น
3. น้ำมันอาร์แกนถือเป็น Magic Oil หรือ Liquid Gold ของชนเผ่าเบอร์เบอร์ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งอาหารสำคัญแล้ว ยังเป็นเคล็บลับความงามของผู้หญิงในชนเผ่านี้มาตั้งแต่ยุคโบราณอีกด้วย
4. เมื่อได้ทำการศึกษาพบว่าน้ำมันอาร์แกนอุดมไปด้วยวิตามินอี และกรดไขมันสำคัญที่ช่วยชะลอริ้วรอย รักษาความยืดหยุ่น และให้ความชุ่มชื้นและเอิบอิ่มให้กับผิว บำรุงให้เส้นผมและเล็บแลดูนุ่มนวล สุขภาพดี ทำให้น้ำมันอาร์แกนถูกขนานนามว่าเป็นน้ำมันแห่งความงาม
5. นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา สมเด็จพระราชาธิบดีฮะซันที่ 2 แห่งโมร็อกโก สนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจส่งออก ทำให้น้ำมันอาร์แกนเป็นที่นิยมและโด่งดังไปทั่วโลก กลายเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่ใช้ในเครื่องประทินความงาม
ที่มา: M2F


