ใบตองตึง สร้างใหม่ให้มากกว่า
เราคงเคยเห็นบ้านชาวเขาหรือคนท้องถิ่นในภาคเหนือที่มุงหลังคาด้วยวัสดุจากธรรมชาติอย่างใบตองตึง
โดย โยโมทาโร่
เราคงเคยเห็นบ้านชาวเขาหรือคนท้องถิ่นในภาคเหนือที่มุงหลังคาด้วยวัสดุจากธรรมชาติอย่างใบตองตึง ซึ่งหลายคนอาจจะยังสงสัยว่าจะกันแดดกันฝนได้ดีแค่ไหน แต่คำร่ำลือจากทุกคนที่เคยได้อยู่ใต้ชายคาใบตองตึงแห้ง ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เย็นสบายกว่าหลังคาบ้านในปัจจุบันเป็นไหนๆ ทว่าจะให้จบแค่การเป็นหลังคาก็น่าเสียดาย
นักออกแบบมากฝีมืออย่าง ปรเมศร์ สายอุปราช เจ้าของแบรนด์ "Mr.Leaf" จากดินแดนล้านนา จึงนำใบตองตึงมาใช้เป็นวัสดุตั้งต้นในการทำเป็นกระเป๋าได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่ใช่แค่ลวดลายใบตองตึงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้นแต่ยังสามารถนำมาตกแต่งตัดเย็บให้มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะของผู้ใช้งาน
เมื่อได้สัมผัสจะได้รับรู้ถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมและกลิ่นอายของดินแดนล้านนาแฝงอยู่ในตัว
โดยปกติแล้ว ต้นตองตึง เป็นไม้ป่ายืนต้น มีใบคล้ายๆ กับต้นสัก แต่ใบตองตึงไม่มีขน ชาวบ้านนิยมนำใบสดมาเช็ดให้สะอาด แล้วใช้ห่อข้าว เหมือนกับใบตอง หรือใบบัวในภาคกลางนั่นแหละ ใบตองตึงเมื่อแก่และหล่นจากต้น เก็บมาจำนวนมากๆ นำมาทำเป็นตับมุงหลังคากระท่อมคล้ายจากหรือแฝก มีความทนทานได้ 4-5 ปี
เมื่อมีคุณสมบัติที่ดี ชาวบ้านในภาคเหนือสมัยโบราณใช้มุงหลังคาบ้าน ใช้ห่อข้าวเหนียวและของอื่นๆ และสามารถนำมารังสรรค์เป็นข้าวของเครื่องใช้ได้ แต่หากลองทำแล้วจะพบว่าสามารถทำได้และใช้งานได้จริง หากรู้จักนำมาประยุกต์รวมกับวัสดุสมัยใหม่ เพราะเป็นใบไม้ที่มีเส้นใยหนามาก
ปรเมศร์ จึงมีไอเดียที่จะนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่น หลังจากผ่านประสบการณ์ ลองผิดลองถูกและเรียนรู้วิชาจากญี่ปุ่นเกี่ยวกับการใช้เส้นใยธรรมชาติมากว่า 10 ปี นำใบตองตึงมาทำเป็นหมวก ร่ม เสื้อ ของใช้จิปาถะอื่นๆ
อย่างเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และตู้ ในแบรนด์ที่ชื่อ "Mr.Leaf" ด้วยความพิเศษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้สินค้าเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ในแถบตะวันออกอย่างไต้หวัน จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย อีกด้วย
ส่วนประเทศไทยนั้น ไม่ได้มีวางจำหน่ายมากนัก เพราะเทียบแล้วกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะให้ความสนใจมากกว่า นอกจากดีไซน์ที่ทำให้ขายดี ก็คือเรื่องราคาที่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นที่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันบาท ส่งออกจนได้รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2560 Best OTOP
ปรเมศร์ เผยว่า แม้สินค้ายากต่อการเลียนแบบ เนื่องจากใบตองตึงมีรูปแบบและเส้นใยเฉพาะตัว และได้รับความนิยมแต่ก็ยังต้องจะพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ชูจุดเด่นของสินค้าที่ต้องการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นชุมชนและสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากใบตองตึงก็ยังมีการนำกล้วยมาตัดเย็บร้อยเรียงเป็นของใช้ ทั้งกาบกล้วย ใบตอง เพราะมองว่ากล้วยกับชุมชนเป็นของคู่กัน และคนในชุมชนจะใช้กล้วยทำประโยชน์ตั้งแต่การทำพิธีกรรมตอนเกิด จนถึงงานศพ ซึ่งผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ "Mr.Leaf" ก็จะสามารถรับรู้และบอกต่อแก่คนใกล้ตัวได้
นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของผู้รักในความเป็นธรรมชาติและท้องถิ่น ที่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับรู้ ผ่านสิ่งของเครื่องใช้ ไม่ใช่เพียงเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณ แต่ยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย


