posttoday

"นพพล ตู้จินดา" เรื่องยากนั้นท้าทาย ถ้าทำได้ก็ภูมิใจ

09 ตุลาคม 2560

ตรรกะในความคิดของคนเรานั้นมีหลายรูปแบบ อยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน ไม่มีอะไรถูกหรืออะไรผิด

 

โดย....อณุสรา ทองอุไร

ตรรกะในความคิดของคนเรานั้นมีหลายรูปแบบ อยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน ไม่มีอะไรถูกหรืออะไรผิด ขึ้นอยู่ความลงตัวชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น บางคนชอบทำจากเรื่องง่ายไปหายาก จะได้ไม่หมดกำลังใจเสียก่อน แต่บางคนชอบทำจากเรื่องยากไปหาง่ายเพราะเป็นความท้าทาย ถ้าผ่านเรื่องยากไปได้แล้วที่เหลือก็ง่ายไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ที่เขาชอบทำงานจากยากให้ได้ก่อนที่เหลือก็เป็นงานสบายๆเพราะผ่านเรื่องยากมาหมดแล้ว เขาจึงมารับงานที่ท้าทายครั้งล่าสุด

นพพล ตู้จินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอโฟ่ (ofo) ประเทศไทย ผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี หรือที่เรียกว่า Dockless bike sharing  ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทแม่จากประเทศจีน เปิดตัวตั้งแต่ปี 2557 โดยเป็นผู้ให้บริการเช่าจักรยานผ่านทางแอพพลิเคชั่นมือถือรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของโลก  ปัจจุบันมีจักรยานให้บริการรวมกว่า 10 ล้านคัน ครอบคลุมการให้บริการในเมืองใหญ่กว่า 170 เมืองใน 9 ประเทศ โดยในแต่ละวันมีจำนวนการใช้บริการสูงถึง 25 ล้านครั้ง/วัน จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้งานจักรยานโอโฟ่ร่วมแล้วกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก และมีจำนวนการใช้งานรวมแล้วกว่า 4,000 ล้านครั้ง 

เขา กล่าวว่า จนถึงเดือน ส.ค. 2017 โอโฟ่มีให้บริการแล้วในจีน สิงคโปร์ สหรัฐ อังกฤษ คาซัคสถาน มาเลเซีย ไทย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ได้ติดตั้งระบบ NB-IoT ไว้ที่จักรยานเพื่อระบุพิกัดได้แม่นยำยิ่งขึ้นถึงน้อยกว่า 0.5 เมตร

"นพพล ตู้จินดา" เรื่องยากนั้นท้าทาย ถ้าทำได้ก็ภูมิใจ

จักรยานที่นำเข้ามาให้บริการในเมืองไทยในครั้งนี้ถือเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อรุ่น Smart Lock ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานในประเทศไทยโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ คือ ระบบล็อกอัจฉริยะ ที่ทำงานผ่านแอพด้วยระบบบลูทูธ เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดบนจักรยานก็สามารถปลดล็อกได้ทันที และระบบจีพีเอสที่ติดตั้งในจักรยาน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและจอดจักรยานได้อย่างสะดวกและง่ายดายขึ้นอีกด้วย ลงทะเบียนข้อมูลพื้นฐานและวิธีชำระเงิน จากนั้นใช้แอพนี้ค้นหาจักรยานที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เมื่อพบแล้วให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการปลดล็อก เพียงเท่านี้สามารถใช้จักรยานได้แล้ว เมื่อใช้เสร็จ จอดจักรยานในจุดที่เหมาะสม ล็อกจักรยาน แล้วแตะปุ่ม Trip Complete ในแอพแค่นี้ก็เรียบร้อย! โดยสามารถโหลดแอพพลิเคชั่นโอโฟ่ มีทั้งบนแอนดรอยด์และไอโอเอส

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โอโฟ่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเดินทางด้วยจักรยานเป็นอีกหนึ่งวิธีของการสัญจรในเมืองที่มีประสิทธิภาพ ลดข้อจำกัด และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ในอัตราค่าใช้จ่ายที่เข้าถึงได้ในคนทุกระดับ และแน่นอนที่สุดนี่คือหนึ่งในรูปแบบการสัญจรและคมนาคมที่ดีกับผู้ใช้บริการทั้งในเรื่องสุขภาพและความสะดวกสบาย และยังดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เขาบอกว่าที่ประเทศจีนการให้บริการรถจักรยานเช่าได้รับความสนใจมากมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจทุกปี ถือเป็นจักรยานอัจฉริยะที่สามารถปลดล็อกด้วยการโหลดแอพพลิเคชั่นของบริษัทหลายประเทศในเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น หรือหลายประเทศในยุโรป ทั้งสวีเดน เนเธอร์แลนด์ ประชาชนทั้งวัยรุ่น คนทำงานแม้ในระดับผู้บริหารก็ยังใช้จักรยานไปทำงาน เพราะมีความประหยัดพลังงาน งบประมาณ สะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญยังช่วยลดมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เป็นเทรนด์ของโลก ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศ

“ผมเองก็หวังว่าในประเทศไทยก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยิ่งบ้านเราเองก็รถติดมาก การใช้จักรยานจะช่วยย่นเวลาบรรเทาเรื่องรถติดไปได้เยอะ รวมทั้งลดมลพิษลงได้อีกด้วย  ในบ้านเราก็มีคนสนใจขี่จักรยานเพื่อออกกำลังกาย และเริ่มเห็นมีคนหนุ่มสาวขี่จักรยานไปทำงานกันมากขึ้น แรกๆ อาจจะยากหน่อยแต่ผมมั่นใจว่าในระยะยาวมันจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ได้ออกกำลังกายกันทางอ้อมอีกด้วย”

"นพพล ตู้จินดา" เรื่องยากนั้นท้าทาย ถ้าทำได้ก็ภูมิใจ

 ในระยะเริ่มต้น 4-6 เดือนแรกนี้ โอโฟ่เปิดให้บริการฟรีและมีจุดเปิดให้บริการใหญ่ๆ อยู่ 2 แห่งนำร่องในตอนนี้ก็คือที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่รังสิต 1,000 คัน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เฉลี่ยมีนักศึกษาใช้กันวันละ 2 ชั่วโมง มียอดใช้ซ้ำสูง และที่ จ.ภูเก็ต อีก 1,000 คัน เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกันมาก อีกทั้งที่ภูเก็ตค่าแท็กซี่แพง คนก็หันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น

ที่ประเทศจีนโอโฟ่เปิดตัวในกลุ่มนักศึกษาก่อน แล้วขยายไปยังกลุ่มคนทำงาน คาดว่าที่ประเทศไทยก็จะใช้แนวทางการทำตลาดเช่นเดียวกัน จักรยานของโอโฟ่ออกแบบมาด้วยน้ำหนักที่เบา สีสันเหลืองสดใสน่าใช้ หลังจากหมดโปรโมชั่นเปิดตัวให้บริการฟรีจนถึงสิ้นปีนี้ สำหรับปีหน้าจะเริ่มคิดค่าบริการชั่วโมงละ 10 บาท โหลดใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นฟรีไม่ต้องมีมัดจำในระยะแรก หลังจากนั้นอาจจะมีเสียค่ามัดจำแรกเข้าเพียง 99 บาท เขาคาดการณ์ว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2-3 ปี  ซึ่งบริษัทวางแผนระยะยาวไว้ 5 ปี เพื่อปลดล็อกทุกมุมโลกด้วยจักรยานที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

“ตอนนี้ก็ไปคุยกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายที่ ในกรุงเทพฯ เพื่อขอความร่วมมือในการเป็นจุดคืนรถ ซึ่งที่จอดรถยนต์เพียง 1 คัน สามารถจอดจักรยานได้ถึง 20 คัน  ตอนนี้เราก็พยายามจะสร้างตลาดให้ผู้คนเห็นรถแล้วลองใช้ ยิ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับหลายหน่วยงานเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี” เขากล่าวอย่างตั้งใจ

ทางด้านการศึกษานั้นเขาจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทจากคณะบริหารธุรกิจ สถาบันศศินทร์ หลังจากเรียนจบทำงานทางด้านการตลาดมาโดยตลอด ก่อนจะมาทำธุรกิจของตัวเองอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งถูกทาบทามมาทำที่โอโฟ่ ซึ่งเขาบอกว่าตลอด 15 ปีของการทำงานของนั้น ล้วนจะเจองานที่ยากๆ และท้าทายเสมอ  กว่าจะผ่านมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้ความมุ่งมั่นอดทนเป็นอย่างมาก แต่เมื่อผ่านมาได้ก็จะรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

ทุกครั้งเมื่อเจออุปสรรคปัญหาเขาจะไม่ย่อท้อ พยายามที่จะเรียนรู้และเติบโตจากปัญหาที่เข้ามา เนื่องจากเขาเชื่อว่าคนเราจะเติบโตและประสบความสำเร็จได้นั้นมักจะเรียนรู้จากปัญหาอุปสรรคมากกว่าความสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเรื่องยาก ไม่กลัวความผิดพลาด เพราะจะทำให้เขาแข็งแกร่งและเติบโต ยิ่งผ่านเรื่องยากๆ ผ่านความผิดพลาดมาเยอะๆ จะยิ่งสตรองไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆ

“ผมเชื่อว่าชีวิตไม่มีทางลัดนะ ไม่มีสูตรสำเร็จด้วย เราต้องเรียนรู้และลงมือทำ จะดูโง่หรือพลาดก็ไม่เป็นไร ทุ่มเทให้สุดๆ ไปเลย ยิ่งยาก ยิ่งท้าทาย ยิ่งภูมิใจ ถ้าคิดว่าทำเต็มที่แล้วทำดีที่สุดแล้วจะพลาดก็สุดวิสัย แต่ถ้าผ่านไปได้เราก็จะภูมิใจอย่างที่สุด” เขากล่าวอย่างมั่นใจ 

 

ข่าวล่าสุด

'SIRIN MUSEUM' พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเทพรัตนราชสุดาฯ ณ ม.วลัยลักษณ์