posttoday

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร

29 กรกฎาคม 2560

ตามรอย “4 ธรรม” อาจเป็นคำเชิญชวนที่เคยได้ยินมาก่อนกับโครงการ “จตุธรรมธาตุ” ของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด 4 จังหวัด

โดย...กาญจน์ อายุ

 ตามรอย “4 ธรรม” อาจเป็นคำเชิญชวนที่เคยได้ยินมาก่อนกับโครงการ “จตุธรรมธาตุ” ของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด 4 จังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง ที่ได้ดำเนินโครงการมาเป็นปีที่ 3

 ด้วยเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของทั้ง 4 จังหวัดประสบปัญหาในเรื่องของฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงมรสุมที่อาจเป็นอุปสรรคในการเดินทาง จึงมีแนวคิดนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวบนบกมาเป็นจุดขายผ่านแนวทางท่องเที่ยว 4 พระธาตุ คือ พระธาตุสวี จ.ชุมพร พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุนครศรีธรรมชาช จ.นครศรีธรรมราช และวัดเขียนบางแก้ว จ.พัทลุง ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายบุญเข้าจังหวัดแบบไม่มีไฮหรือโลว์ซีซั่น

 จากนั้น 4 จังหวัดจะสามารถแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ จับคู่ระหว่างชุมพร-สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช-พัทลุง ตามแนวคิดวันเดียวเที่ยวได้ ซึ่งนอกจากพระธาตุที่เป็นจุดขาย แต่ละคู่จังหวัดก็ยังมี “อะไร” อีกมากให้ตามรอย

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร หุ่นขี้ผึ้งท่านพุทธทาสภายในสวนโมกขพลาราม

 อย่างในพื้นที่ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ที่ต้องขอยืมคำว่า 4 ธรรมมาใช้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้หมายถึง ธรรมะ ธรรมราชา ธรรมดา และธรรมชาติ มาเที่ยวแค่ 2 จังหวัดจัดไปถึง 4 บรรยากาศแบบครบรส

ธรรมมะ ธรรมชาติ "สุราษฎร์ธานี"

 ใครมาสุราษฎร์ฯ ต้องไปกราบ พระบรมธาตุไชยา ปูชนียสถานสำคัญของภาคใต้ที่ปรากฏเป็นหลักฐานแสดงถึงการรับพระพุทธศาสนาในคาบสมุทรแดนใต้ตั้งแต่ราวปี 1300 ในยุคที่เมืองไชยายังเป็นเมืองสำคัญเก่าแก่บนแหลมมลายู โดยรับวัฒนธรรมของอาณาจักรศรีวิชัยและสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองไว้ในงานศิลปกรรมอย่างเด่นชัด

 องค์พระบรมธาตุไชยา แสดงหลักฐานทางศิลปะศรีวิชัยไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เจดีย์จตุรมุของค์เดียว สูง 24 เมตร ตั้งอยู่เหนือฐานสี่เหลี่ยมย่อเก็จ ด้านในประดิษฐานองค์พระเจดีย์หลวง ผนังก่ออิฐไม่สอปูน ที่มุมฐานด้านทิศใต้มีเจดีย์บริวารสร้างซ้อนอีกชั้น หลังคาเป็น 3 ชั้นลดหลั่นกันไป แต่ละชั้นประดับรูปวงโค้งและสถูปจำลอง 24 องค์

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร ลายปูนปั้นรูปเทพพนมบนเพดานถ้ำวัดถ้ำสิงขร

 ไม่ไกลจากพระบรมธาตุไชยายังมีสองวัดร้าง ซึ่งเป็นโบราณสถานร่วมสมัยเดียวกัน คือ วัดหลงและวัดแก้ว แนวฐานเจดีย์ศิลปะศรีวิชัยที่หลงเหลือ รอบด้านขุดค้นพบพระพุทธรูปดินดิบ สถูปดินดิบ พระพิมพ์ดินดิบ กระปุกและแจกันสมัยราชวงศ์ซ้องและเซ็ง เป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่ทำให้เห็นความเป็นเมืองโบราณของไชยาสืบต่อมาอีกหลายสมัย

 หลังจากนั้น เมื่อเยือนถึงถิ่นไชยาต้องไม่พลาด สวนโมกขพลาราม เพื่อศึกษาแนวคิดพุทธธรรมและคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ผู้ค้นคว้าศึกษาพระไตรปิฎกอย่างจริงจัง รวมถึงปรัชญาต่างๆ เช่น ปรัชญาอินเดีย ปรัชญาตะวันตก ศาสนาและลัทธิอื่นๆ เช่น ศาสนาคริสต์ ลัทธิเซน มหายาน วัชรยาน โหราศาสตร์ และได้ศึกษาในเรื่องวิทยาศาสตร์ส่วนธรรมะที่ท่านพุทธทาสใช้มากที่สุดในชีวิตปฏิบัติธรรม เห็นจะเป็นการพินิจพิจารณาสติสัมปชัญญะ ใคร่ครวญ โดยโยนิโสมนสิการ

 "...กฎของวิทยาศาสตร์ที่ว่าด้วยเหตุผล เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี กฎอิทัปปัจจยตา มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์อยู่อย่างเต็มที่ แล้วมนุษย์ก็จะเริ่มสนใจเรื่องต้นเหตุของความทุกข์ ต้นเหตุของวิกฤตการณ์กันอย่างเต็มที่ พบแล้วก็จำกัดหรือควบคุมตามแต่กรณี เรื่องร้ายๆ ในจิตใจของมนุษย์ก็จะลดลง..."

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร พระบรมธาตุไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยที่ยังอยู่ในสภาพดีที่สุด

 ภายในสวนโมกขพลาราม ยังเป็นที่ตั้งของโรงมหรสพทางวิญญาณ หรือสถานที่รวบรวมภาพปริศนาธรรม และกุฏิของท่านพุทธทาส โดยจะมีการฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนาให้แก่คนไทย ทุกวันที่ 19-27 ของทุกเดือน และสำหรับชาวต่างชาติ ทุกวันที่ 1-10 ของทุกเดือน

 นอกจากนี้ อีกหนึ่งธรรมะที่จะกล่าวต่อไปอยากจะยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ เพราะความงดงามของความโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ วัดถ้ำสิงขร พุทธสถานตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยสืบทราบจากศิลปกรรมแบบอยุธยา ได้แก่ ลายปูนปั้นรูปก้านขดพันธุ์พฤกษา แถวช้างปูนปั้น และลายเขียนรูปเทวดาบนเพดานถ้ำ

 จากนั้นงานศิลปกรรมได้รับการบูรณะซ่อมแซมในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีการนำชามลายครามและเบญจรงค์มาประดับติดเป็นดาวเพดาน และภาพอาคารปราสาทที่แสดงลักษณะสถาปัตยกรรมจีน รวมถึงยังค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในโพรงถ้ำ ได้แก่ หม้อสามขา เศษภาชนะดินเผาลายเชือกทาบ และเครื่องมือขวานหินขัด ถ้ำที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย ในทุกวันนี้จึงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์พอๆ กับคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศาสนา

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร สะพานไม้เคี้ยมกลางผืนน้ำแก้มลิง

 ทว่า นอกจากธรรมะ สุราษฎร์ฯ ยังมี "ธรรมชาติ" สุดยิ่งใหญ่กลางผืนน้ำใน เขื่อนรัชชประภา ที่ได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย โดยจุดเด่นของธรรมชาติองค์ประกอบระหว่างป่า เขา และน้ำ ด้วยภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน ป่าดิบชื้น และสัตว์ป่านานา ทั้งช้าง กระทิง สมเสร็จ กวาง และนกเงือกที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เป็นเสมือนภาพวาดในฝันของศิลปิน ซึ่งเขื่อนรัชชประภาโชคดีที่ไม่มีโลว์ซีซั่น และโรงแรมก็ขายที่พักได้ราคาดีตลอดปี จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ (นอกเหนือจากทะเล) ที่โกยรายได้เข้าจังหวัดมหาศาล จึงเชื่อเถิดว่าเสน่ห์ของไทยไม่มีทางเหมือนใครหรืองามไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

 ธรรมะและธรรมชาติแห่งเมืองสุราษฎร์ฯ จึงตอบโจทย์คน 2 ไลฟ์สไตล์ ทั้งผู้ใหญ่สายบุญหรือสายทัวร์ผู้สูงวัยที่ต้องการสร้างกุศลชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ และสายคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำกิจกรรมท่ามกลางภูเขาลำเนาไพร ที่นี่จึงเป็นหมุดหมายของคนสองวัยสองจังหวะ แต่เที่ยวได้ในจังหวัดเดียวกัน

ธรรมะ ธรรมราชา ธรรมดา "ชุมพร"

 พระธาตุที่เคยถูกลืม พระธาตุสวี วันนี้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 4 จตุธรรมธาตุแห่งแดนใต้ฝั่งอ่าวไทย โบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของชุมพร มีลักษณะรูปแบบเดียวกับพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา จากนั้นในปี 2559 กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ และเปลี่ยนหยดน้ำค้างจากไม้สักเป็นหยดน้ำค้างทองคำด้านบนยอดพระธาตุ

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร ทายาทตระกูลศิลปศร ผู้บุกเบิกการปลูกกาแฟที่บ้านถ้ำสิงห์

 วัดพระธาตุสวีได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เชื่อว่าหากมาไหว้พระธาตุจะมีโชคลาภและมีการงานดีเป็นสิริมงคล

 เคียงข้างกับพระธาตุสวี เป็นที่ตั้งของศาลพระเสื้อเมือง มีตำนานเล่าว่า ก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชจะเสด็จยกทัพกลับ ทรงห่วงใยพระธาตุว่าจะไม่มีผู้ดูแลรักษาจึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพที่กำลังนอนหลับสนิท ในขณะนั้นมีทหารนายหนึ่งชื่อ เมืองขานรับ พระองค์จึงมีรับสั่งถามว่าต้องการดูแลรักษาพระธาตุแห่งนี้หรือไม่ นายเมืองตอบขานรับอาสา พระองค์จึงสั่งให้ทหารตัดศีรษะเซ่นบวงสรวงไว้ในศาลเพียงตา ศาลนี้จึงถูกขนานามว่า ศาลพระเสื้อเมือง อยู่คู่กับพระธาตุสวีสืบมาถึงปัจจุบัน

 หลังจากนั้นลองเปลี่ยนบรรยากาศไปชมธรรมชาติและวิถีชีวิตธรรมดาแบบมุมสูงบน จุดชมวิวยอดเขามัทรี ที่มองเห็นผืนทะเลและชุมชนปากน้ำชุมพร

 แวะชิมกาแฟโรบัสตาหอมกรุ่นของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านถ้ำสิงห์ แกล้มวิวพาโนรามา กาแฟโอท็อปที่เกิดขึ้นจากความเข้มแข็งของชาวไร่กาแฟที่ร่วมมือกันสร้างแบรนด์และมาตรฐาน เริ่มปลูกกันมาตั้งแต่ปี 2512 โดย พวน ศิลปศร เป็นผู้นำพันธุ์จากบ้านควนจำปาขึ้นมาปลูกเป็นคนแรก ซึ่งได้รับความนิยมจนขึ้นชื่อว่าถ้ำสิงห์เป็นดินแดนกาแฟคุณภาพ สามารถเสริมสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน นอกเหนือไปจากการทำสวนผลไม้ ซึ่งกาแฟก็ปลูกอยู่ใต้ร่มเงาต้นทุเรียนที่มีอยู่แต่เดิม ทำให้รสชาติกาแฟโรบัสตาของที่นี่มีเอกลักษณ์ (ไม่ใช่กาแฟกลิ่นทุเรียน) คือไม่เปรี้ยว ไม่เข้มเกินไป แต่มีความละมุนและหอมแรง

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร พายเรือคายักเล่นน้ำในเขื่อน

 นอกจากนี้ ชุมพรยังเป็นจังหวัดแรกที่มีแก้มลิงตามธรรมชาติ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่โปรดให้สร้างเส้นทางเดินน้ำเพื่อพักน้ำไว้ในบึงหนองเพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อย่างที่ชุมพรเคยประสบมาโดยตลอด

 โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยในการขุดคลองจากหัววังถึงพนังตักให้เสร็จภายใน 1 เดือน และทันต่อพายุไต้ฝุ่นลินดา ที่กำลังเข้าฝั่งทำให้ชาวชุมพรรอดพ้นจากอุทกภัยในปี 2540 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชาวชุมพรก็ร่วมแรงร่วมใจกันสานต่อพระราชดำริเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการสร้างศูนย์ความรู้โครงการหนองใหญ่ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการใช้ชีวิตเรียบง่ายให้กับชาวบ้านและคนที่สนใจ

 ทว่า ไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเช็กอิน จะเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในแก้มลิงเรียกว่า สะพานไม้เคี้ยม ความยาว 300 เมตร มีลักษณะคดโค้งเป็นรูปตัวเอส ก่อสร้างจากไม้เคี้ยมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว และสร้างแบบภูมิปัญญาดั้งเดิมโดยไม่ใช้เครื่องจักร ซึ่งรูปร่างบิดเบี้ยวของสะพานเปรียบเสมือนชีวิตของมนุษย์ที่ล้วนมีขึ้นๆ ลงๆ ไม่ราบเรียบเสมอไป

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร กุฏิหลังแรกของท่านพุทธทาสภิกขุ

 นอกเหนือจากนั้น นักท่องเที่ยวจะได้เก็บเกี่ยวเกร็ดความรู้เรื่องการทำนา การทำแปลงสมุนไพร การทำไบโอดีเซล และการเลี้ยงกบ หมู ไก่ ปลา ให้ได้มีเทคนิคในการทำมาหากินเพิ่มขึ้น

 สำหรับชุมพรจึงมีทั้งเรื่องราวของธรรมะ หลักของธรรมราชา และวิถีชีวิตธรรมดาของชาวบ้านถ้ำสิงห์ เมื่อรวมกับธรรมชาติของสุราษฎร์ฯ ก็จะกลายเป็น "4 ธรรม" แนวใหม่ในพื้นที่เชื่อมโยงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ว่ายทวนแหล่งท่องเที่ยวกระแสหลักอย่างทะเลขึ้นไปให้เป็นที่นิยมและเพิ่มการรับรู้ว่าจังหวัดแดนใต้ฝั่งอ่าวไทยไม่ได้มีดีแค่เกาะเต่า เกาะนางยวน แต่ยังมีอีกตั้ง 4 เสน่ห์ ที่เชื้อชวนให้ไปหาเมื่อไรเดือนไหนก็ได้ เพราะเป็นความงดงามที่ไร้ขอบเขตของกาลเวลาและฤดูกาล จึงไม่เป็นเงื่อนไขของการเดินทาง ซึ่งถ้าอยากไปก็ไปได้ตั้งแต่วันนี้ แค่ออกเดินทาง!

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร เจดีย์วัดถ้ำสิงขรเมื่อมองออกจากถ้ำ

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร ปากน้ำชุมพร

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร ผลกาแฟเชอร์รี่สายพันธุ์โรบัสตาใต้ต้นทุเรียน

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร ที่พักลอยน้ำภายในเขื่อนรัชชประภา

ตามรอย ‘4 ธรรม’ (แนวใหม่) จากสุราษฎร์ฯ ถึงชุมพร พระธาตุสวีประดับด้วยโมเสกสีทองอร่าม

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ไบรท์ตัน พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68