ความคืบหน้าล่าสุดจากกองถ่าย ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ’
หลังจากภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 1 และ 2 ลงโรงฉายให้คนทั้งประเทศได้ยลโฉมกันไปแล้ว
หลังจากภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 1 และ 2 ลงโรงฉายให้คนทั้งประเทศได้ยลโฉมกันไปแล้ว
เรื่อง อนันเดียร์ ภาพ พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ
หลังจากภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 1 และ 2 ลงโรงฉายให้คนทั้งประเทศได้ยลโฉมกันไปแล้ว ก่อนเงียบหายไปพักใหญ่ ซึ่งแม้จะมีการประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างทุ่มเทถ่ายทำภาค 3 และ 4 แต่เมื่อว่างเว้นไปนานจนผู้คนหลงลืม เสียงบ่นดังๆ จึงตามมาว่าแล้วเมื่อไหร่กันแน่ที่คนไทยจะได้ดูหนังเรื่องนี้
ล่าสุด ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับเจ้าของเรื่อง เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทุกแขนงหลายร้อยชีวิตเข้าเยี่ยมกองถ่าย ณ ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี เพื่อทวงถามความคืบหน้า พร้อมร่วมชมฉาก “ยุทธนาวี” การรบทางน้ำสุดยิ่งใหญ่อลังการ หนึ่งในฉากเด่นของหนังภาค 3 นี้ด้วยตาตัวเอง คล้ายต้องการแสดงความมั่นใจแก่แฟนๆ ที่รอคอยด้วยความระทึก
พื้นที่กว้างใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ในเขตรั้วรอบขอบชิดของกองพลทหารราบที่ 9 (ค่ายสุรสีห์) ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อ 10 ปีที่แล้วยังเป็นแค่ป่ารกป่าพง วันนี้ได้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พร้อมมิตร ฟิล์ม สตูดิโอ ดังที่ทราบกันไปแล้ว
“วันนี้คงจะดึกหน่อย ยังไม่รู้ว่าจะได้ถ่ายกี่โมง อาจต้องรอจนฝนหยุดตก”
ถ้อยคำรำพึงเบาๆ กลางสายฝนโปรยปรายในเวลากลางคืน ขณะที่ท่านมุ้ยในชุดกันฝนสีดำแหงนมองดูท้องฟ้า กวาดสายตาไปในความมืดมิดเบื้องหน้า เขาบอกว่า หลายวันมานี้ฝนตกทุกวัน และวันนี้น่าจะตกตลอดทั้งคืน
แน่นอนว่า ฉากยุทธนาวี หรือการทำศึกพุ่งรบทางน้ำอันยิ่งใหญ่ ระหว่างกองเรือพิฆาตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเหล่าขุนศึกคู่พระทัยที่ออกไล่ล่าตามเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ นายทัพแห่งละแวกผู้คิดทรยศ ตามพระราชพงศาวดารนั้น จะต้องเกิดขึ้นกลางแม่น้ำในเวลากลางคืน ท่ามกลางเสียงระเบิดจากปืนไฟและแสงสีส้มสว่างวาบ เปลวเพลิงบนผิวน้ำ แต่เมื่อการถ่ายทำฝนเกิดตกขึ้นมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา จึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก
“ความโดดเด่นฉากนี้ ซึ่งเป็นการรบทางน้ำที่ยิ่งใหญ่ระหว่างกองเรือพิฆาตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ ต้องใช้นักแสดงกว่า 300 คนเข้าฉาก มีการใช้วิชวลเอฟเฟกต์และเทคนิคพิเศษมากมาย ทั้งไฟไหม้ ระเบิด และความชุลมุนวุ่นวายต่างๆ รวมไปถึงระดมน้ำมันทั่ว จ.กาญจนบุรี รวมกว่า 6,00 ลิตร และถังแก๊สอีกจำนวนมาก เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ เมื่อกองทัพพระยาจีนจันตุเทน้ำมันลงแม่น้ำพร้อมจุดไฟหวังสร้างทะเลเพลิงสกัดกองทัพพระนเรศวร ถ่ายวันนี้วันเดียวใช้งบประมาณเป็นล้านเหมือนกัน” ผู้กำกับคนดังบอกแข่งกับเสียงฝน
มีข้อมูลน่าสนใจแว่วเข้าหูว่า ท่านมุ้ยนี่แหละเป็นผู้คิดค้นวิธีการสร้างเรือพระที่นั่งให้ประหยัดงบประมาณได้ถึง 10 เท่า จากลำละ 10 ล้านบาท เหลือเพียง 1 ล้านบาท
“ต้องสร้างเรือพระที่นั่งของไทย 6 ลำ เรือสำเภาจีนแบบโบราณ 1 ลำ ในขนาดเท่าจริง รายละเอียดต่างๆ เหมือนจริงทุกประการ โดยใช้เทคนิคการผสมผสานวัสดุต่างๆ ทั้งไม้ เรซิน พียูโฟม และไฟเบอร์กลาส สามารถบรรทุกฝีพายได้ 60 คน พร้อมอุปกรณ์ประกอบฉาก นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนหัวเรือให้สลับไปใช้เป็นเรือของฝ่ายพม่าได้อีกด้วย” สำหรับการสร้างเรือนี้ ท่านมุ้ยได้ดูแลเอาใจใส่และควบคุมการสร้างทั้งหมดอย่างใกล้ชิด และทดลองผสมผสานวัสดุต่างๆ อย่างดีที่สุดจนประสบความสำเร็จ
“การถ่ายทำฉากเรือเป็นเรื่องยากมาก” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยิ้มเหน็ดเหนื่อย “การบังคับเรือหลายลำเพื่อการรบ ต้องใช้ฝีพายที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีให้มีความพร้อมเพรียงกันและเป็นไปในทิศทางที่ต้องการ การบังคับเรือพายไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย โดยเฉพาะเรือพระที่นั่งขนาดใหญ่ที่ต้องมีจังหวะในการพายโดยเฉพาะ เลยต้องขอให้ทหารเรือมาช่วยฝึกซ้อมนักแสดงอย่างหนักร่วมเดือน” ท่านมุ้ยยอมรับว่าใช้เวลาไปกับฉากนี้เยอะมาก เรียกว่าทุ่มทุนสร้างโดยแท้จริงเพื่อให้เป็นฉากเด่นสุดของหนังภาค 3 เรื่องนี้
ได้ยินเสียงไอค่อกแค่กของนักแสดงฝีพายคนหนึ่ง ที่ตากแดดสลับตากฝนถ่ายทำกันมาหลายวัน สะท้อนให้เห็นว่านอกจากดินฟ้าอากาศที่เป็นอุปสรรคแล้ว สุขภาพที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของนักแสดงก็น่าเป็นห่วง
นอกจากฉากโปรโมตสุดอลังการ ยังมีประเด็นค้างคาใจที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับกรณีถูกหั่นเงินทุนสนับสนุนบางส่วน เพราะโดนกระแสต่อต้านจากกลุ่มผู้กำกับที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงอย่างนั้น
ภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 3 และ 4 ภายใต้งบประมาณการสร้าง 940 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ 330 ล้านบาท และกระทรวงวัฒนธรรม 46 ล้านบาท ก็ยังคงเดินหน้าถ่ายทำต่อไปอย่างเต็มที่ ด้านตัวผู้กำกับอย่าง ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เองก็ไม่ติดใจอะไร ยอมรับในกติกา และยินดีจะเผยความรู้สึกอีกครั้งเพื่อคลายข้อข้องใจของทุกคน
“ไม่มีผลกระทบอะไรครับ เราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เต็มที่เท่าที่มี”
“ผมตั้งใจให้เสร็จทุกอย่างภายในเดือน พ.ย. คือเราถ่ายควบกันไประหว่างภาค 3 และ 4 เพราะฉะนั้นมันค่อนข้างจะมั่วๆ กะเกณฑ์ไม่ได้ ภาค 3 นี้เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น แต่ก็เป็นนิดเดียวที่โคตรจะยาก (หัวเราะเสียงดัง) ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องทำมาถึง 4 ภาค อายุจะ 70 อยู่แล้ว ถ่ายเรื่องนี้มาก็ 6 ปี พยายามมากๆ จะให้มันสำเร็จ เช่นเดียวกับทุกคน ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ให้มันออกมาสมบูรณ์ที่สุด” ผู้กำกับวัยเฉียด 70 เล่าถึงความหมายมั่นตั้งใจ
สรุปคร่าวๆ ภาพรวมในการถ่ายทำภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่คนไทยทุกคนรอคอย “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 3 และ 4 คืบหน้าไปกว่า 65% แล้ว คาดว่าจะนำภาค 3 ออกฉายในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ อย่างแน่นอน


