ชิต บุรทัต กวีเอกของชาติประเภทฉันท์
กวีเอกของชาติยากที่จะเกิดขึ้น แต่ ชิต บุรทัต เป็นหนึ่งในนั้น งานชิ้นเยี่ยมหรือมาสเตอร์พีซคือ “สามัคคีเภทคำฉันท์”
โดย...เพรงเทพ
กวีเอกของชาติยากที่จะเกิดขึ้น แต่ ชิต บุรทัต เป็นหนึ่งในนั้น งานชิ้นเยี่ยมหรือมาสเตอร์พีซคือ “สามัคคีเภทคำฉันท์” ซึ่งได้แต่งขึ้นเมื่อปี 2457 เป็นนิยายคำฉันท์ขนาดสั้นไม่กี่สิบหน้ากระดาษเท่านั้น แต่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี มีความงดงามทางวรรณศิลป์ ทั้งยังได้รับการคัดเลือกเป็นหนังสือประกอบการเรียนการสอนในวิชาภาษาไทยด้วย
หยิบบางส่วนของคำนำจากหนังสือ “กวีนิพนธ์บางเรื่องของ ชิต บุรทัต” ที่จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร ในปี 2521 ซึ่งเป็นการรวบรวมกองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เพื่อเป็นเครื่องประกาศเกียรติคุณในฐานะกวีเอกของชาติให้เป็นที่ปรากฏยืนยงอยู่ในหมู่อนุชนสืบไป
ชิต บุรทัต เป็นกวีที่มีชื่อเสียงเป็นเอกในการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ มีผลงานปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก และตีพิมพ์อยู่ในหนังสือเอกชน ประตูใหม่ ศรีกรุง ไทยหนุ่ม ฯลฯ จนอาจกล่าวได้ว่าไม่มีกวีคนใดในสมัยเดียวกันจะทำงานได้มากและมีชื่อเสียงแพร่หลายเท่า ชิต บุรทัต
ประวัติของ ชิต บุรทัต ที่รวบรวมเรียบเรียงโดย กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร บอกว่า แม้ว่าชีวิตส่วนตัวของ ชิต เป็นชีวิตที่ไม่อยู่ในกรอบที่ดีนักก็ตาม แต่ในทางงานการเขียนหนังสือแล้ว มีฝีมือระดับครู นับเป็นกวีเอกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ความสามารถพิเศษของ ชิต ก็คือการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์และกาพย์ มีลีลาในการแต่งที่ไม่อาจมีกวีใดเทียบได้ มีความเชี่ยวชาญในการเลือกใช้ถ้อยคำ ตลอดจนการเล่นสำนวนโวหารได้อย่างไพเราะ ขณะเดียวกับที่เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ของคำประพันธ์นั้นๆ
งานกวีนิพนธ์ของ ชิต บุรทัต จึงมีคุณค่าทางความงามของภาษาพร้อมมูล งานชิ้นเอกของ ชิต บุรทัต คือเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ ซึ่งมีชนิดของคำฉันท์ถึง 30 ประเภท ที่สามารถใช้เป็นต้นแบบของคำฉันท์ได้อย่างดี
ชิต บุรทัต เริ่มงานเขียนกวีนิพนธ์ครั้งแรกเมื่ออายุได้ 18 ปี ขณะเมื่อยังบวชเป็นสามเณรจำพรรษาอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร งานชิ้นแรกที่ประสบความสำเร็จนั้นได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ประตูใหม่ ใช้นามปากกาว่า “เอกชน” เมื่องานชิ้นแรกได้ประกาศถึงฝีมือ ที่เป็นเยี่ยมทางการเขียนกวีนิพนธ์แล้ว งานชิ้นต่อๆ มาก็ได้ปรากฏในหนังสือพิมพ์ประตูใหม่อยู่เป็นประจำ
เพราะความปรีชาสามารถในทางการประพันธ์ ทำให้ ชิต บุรทัต มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และองค์สภานายกหอพระสมุดวชิรญาณได้ทรงพอพระทัยในผลงานของ ชิต บุรทัต ที่เขียนสดุดีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชิ้นที่ชื่อ กาพย์สรรเสริญพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พระปิยมหาราช จึงมีพระประสงค์ขอพบตัว ชิต บุรทัต โดยได้มีรับสั่งให้บรรณาธิการเป็นผู้พามาเข้าเฝ้าที่หอพระสมุด ทรงมอบหนังสือให้เป็นที่ระลึกและให้กำลังใจแก่ ชิต บุรทัต เป็นอย่างสูง
และในปี 2454 ก็ได้รับอาราธนาให้เข้าร่วมแต่งฉันท์สมโภชพระมหาเศวตฉัตร ร่วมกับกวีเอกคนอื่นๆ คือ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ (น.ม.ส.) และหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) เพื่อใช้สวดสังเวยในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้รับพระราชทานเงินเป็นรางวัล 2 ชั่ง
เวลาได้ช่วยให้ความเชี่ยวชาญทางการประพันธ์ของ ชิต บุรทัต เพิ่มมากขึ้น และเมื่อมีชื่อเสียงงานเขียนก็เพิ่มตามมา หนังสือพิมพ์ที่ออกในยุคนั้นต่างก็มีความต้องการงานเขียนของ ชิต บุรทัต และนอกเหนือไปจากงานกวีนิพนธ์ที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว ชิต บุรทัต ก็ยังแต่งบทละครร้อง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในสมัยนั้นให้กับคณะละครปราโมทัย ของพระโสภณอักษรกิจ โดยใช้นามปากกาในการแต่งว่า “เจ้าเงาะ”
ชิต ผ่านการอุปสมบทและจึงได้ลาสิกขาบทในปี 2456 ออกมาทำงานที่หนังสือพิมพ์ศรีกรุงก็ได้ตั้งนามปากกาใหม่ขึ้นอีกนามหนึ่งคือ “แมวคราว” ในช่วงนี้เองที่งานของชิตได้ตีพิมพ์แพร่หลายในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิ พิมพ์ไทย สยามราษฎร์ ฯลฯ
ด้วยความสามารถในการเป็นกวีเอกทำให้ ชิต บุรทัต ได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิต นั่นคือได้รับพระราชทานนามสกุลจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนั้น
งานกวีนิพนธ์ส่วนใหญ่ของ ชิต บุรทัต เป็นคำประพันธ์ประเภทฉันท์ มีทั้งที่แต่งขึ้นด้วยจินตนาการของความเป็นกวี ชมธรรมชาติ บทอุปมาเปรียบเทียบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบทสั้นๆ ที่แต่งเป็นเรื่องยาวๆ ก็ได้แก่เรื่องในชาดก คำฉันท์สดุดี เฉลิมพระเกียรติ บทพรรณนา เช่น ฉันท์เฉลิมพระเกียรติงานพระเมรุทองท้องสนามหลวง กรุงเทพคำฉันท์ คนชั่วอกตัญญู อิลลิสชาดกในเอกนิบาต เป็นต้น
ชิต มีฝีมือระดับครู นับเป็นกวีเอกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ความสามารถพิเศษของ ชิต บุรทัต ก็คือการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์และกาพย์ มีลีลาในการแต่งที่ไม่อาจมีกวีใดเทียบได้ มีความเชี่ยวชาญในการเลือกใช้ถ้อยคำ ตลอดจนการเล่นสำนวนโวหารได้อย่างไพเราะ ขณะเดียวกับที่เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ของคำประพันธ์นั้นๆ จึงมีคุณค่าทางความงามของภาษาพร้อมมูล
ชิต บุรทัต ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2485 ด้วยโรคลำไส้พิการ ที่บ้านถนนวิสุทธิกษัตริย์ รวมอายุได้ 49 ปี


