ชีวิตติดท้องนาของ... เบิ้ล ปทุมราช
ถ้าพูดถึงนักร้องหนุ่มลูกทุ่งอีสานวัย 21 ปี ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลที่มาแรงที่สุดในโลกโซเชียลตอนนี้ ชื่อของ เบิ้ล ปทุมราช
โดย...ภาดนุ ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล
ถ้าพูดถึงนักร้องหนุ่มลูกทุ่งอีสานวัย 21 ปี ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลที่มาแรงที่สุดในโลกโซเชียลตอนนี้ ชื่อของ เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม เด็กหนุ่มบ้านนาหน้าตาดีจาก อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ
ด้วยบุคลิกที่ขี้เล่น รักการร้องเพลง บวกกับพรสวรรค์และพรแสวงทางด้านการแต่งเพลงที่ไม่ธรรมดา เมื่อเบิ้ลอัดคลิปร้องเพลงที่แต่งเองและอัพลงเฟซบุ๊ก ก็ทำให้มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ จนมียอดวิวทะลุล้าน
“ผมเริ่มแต่งเพลงแล้วอัดคลิปลงเฟซบุ๊ก โดยมีทั้งเพลงที่แต่งให้แม่ในวันแม่ และเพลงที่แต่งให้พ่อในวันพ่ออย่าง ‘คำสอนของพ่อ’ จนมีคนติดตามมากมาย นำไปสู่การได้รับโอกาสให้ออกซิงเกิ้ลแรกกับค่ายอาร์สยาม ชื่อเพลง ‘อ้ายมีเหตุผล’ ซึ่งก็ได้รับฟีดแบ็กจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม
ล่าสุดผมก็มีซิงเกิ่ลใหม่ที่ชื่อว่า ‘เฟซก็หาย ไลน์ก็เงียบ’ ซึ่งเป็นเพลงที่ผมแต่งเนื้อร้องเองที่เพิ่งปล่อยไปได้ไม่นาน ตอนนี้แฟนเพลงหลายคนก็น่าจะเริ่มคุ้นหูกันบ้างแล้ว ทุกเพลงที่แต่งผมไม่ได้คาดหวังมากนัก ขอเพียงแค่มีแฟนๆ ติดตามบ้าง และทำให้ผมก้าวเดินอยู่บนเส้นทางสายนักร้องนักแต่งเพลงที่ผมรักได้ แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ
ช่วงนี้งานเดินสายของผมยังไม่เยอะมากนัก แต่ถ้าเป็นเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินสายร้องเพลงโชว์ตามงานในภาคอีสาน เช่น งานกาชาด งานประจำปี เดือนหนึ่งก็ตก 40 งานได้ ปีนี้แม้จำนวนงานจะลดลง แต่ค่าตัวผมก็สูงขึ้นนะ (ยิ้ม) พูดง่ายๆ ว่ารายได้เท่าเดิม แต่จำนวนงานน้อยลง อีกอย่างผมจะได้มีเวลาว่างไปรับงานพรีเซนเตอร์ด้วย
ล่าสุดผมก็เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณาทรูมูฟ เอช ที่เพิ่งปล่อยออกมา สำหรับผมงานโฆษณาจะต่างจากการร้องเพลงมาก เพราะตอนที่ผมเอนเตอร์เทนคนดูบนเวทีคอนเสิร์ตจะเป็นอารมณ์สบายๆ แต่พอมาเล่นโฆษณา ผมรู้สึกว่ามันท้าทายมาก เพราะเคยเห็นพี่ณเดชน์กับพี่ญาญ่าเล่นมาก่อน ผมจึงคิดว่าเราจะทำยังไงให้แสดงออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติอย่างพี่สองคนนี้ ซึ่งวันที่ถ่ายโฆษณานั้น ผมก็ซ้อมเยอะนะ แต่ก็ถ่ายหลายเทกมาก จนผมได้ฉายาว่า เบิ้ลพันเทก” (หัวเราะ)
อย่างที่บอกว่าปีนี้เขารับงานน้อยลง ฉะนั้นทุกเดือนเบิ้ลจึงมีช่วงเวลาว่างที่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ อยู่บ่อยๆ
“ปีที่แล้วผมจะกลับบ้านเป็นช่วงๆ ไม่บ่อยมากนัก แต่ปีนี้จะกลับทุกเดือน เดือนละ 5 วัน ช่วงที่ผมอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ผมจะชอบไปทำกิจกรรมที่ผมเคยชิน เช่น ปลูกต้นไม้กับพ่อ ซึ่งพ่อผมมักจะไปหาต้นไม้เล็กๆ จากในป่านำมาปลูกในหมู่บ้านและตามริมห้วย เพื่อให้ความร่มเย็นในหมู่บ้าน หรือหาต้นกล้วยมาปลูกเพื่อให้มีพื้นที่สีเขียว ผมก็จะช่วยพ่อปลูกอยู่ตลอด
ปัจจุบันนี้พ่อแม่ผมยังทำนาเหมือนเดิม ทำประมาณ 30 ไร่ นอกนั้นก็จะแบ่งให้พี่ชายผมทำด้วย พูดง่ายๆ ว่าผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่โตมากับท้องนา สมัยที่ผมยังแบเบาะอยู่ พ่อกับแม่ก็จะใช้ผ้าขาวม้าผูกอู่ (ผูกเป็นเปล) ไว้กับต้นไม้เพื่อให้ผมนอน เวลาที่ท่านทั้งสองลงไปไถนา เมื่อผมอายุได้ 6-7 ขวบก็เริ่มรู้ความ แม่ก็จะสอนให้ดำนา ผมก็จะดำนาบ้าง นั่งแช่น้ำเล่นบ้างตามประสาเด็ก เวลาพ่อไถนาผมก็จะวิ่งตามบ้าง หรือวิ่งไล่จับตั๊กแตนบ้าง
พอฤดูกาลไถนาเสร็จก็จะมีน้ำขังตามแอ่ง ผมก็จะใช้สวิงไปช้อนปลาช้อนกุ้งบ้าง ซึ่งสมัยนั้นจะทำนาดำซะส่วนใหญ่ ก็จะมีการปักชำต้นกล้า (ต้นข้าว) ไว้ในแปลงเพาะกล้า แล้วคนในหมู่บ้านก็จะช่วยกัน (ลงแขก) ดำนา พอช่วยบ้านนี้เสร็จก็จะไปช่วยบ้านอื่นต่อ ซึ่งผมว่ามันเป็นวิถีชีวิตชาวชนบทที่น่ารักมาก ผมจึงซึมซับความชอบนี้มาโดยตลอด”
เบิ้ลบอกว่า ตอนเด็กๆ เขายังดำนาไม่เก่ง แม่จึงให้เขาใช้ไม้คานไปหามต้นกล้ามาให้ พออายุได้ 11 ขวบ พ่อก็เริ่มสอนให้ไถนาโดยใช้รถไถนาแบบเดินตาม แต่สมัยก่อนพ่อของเขายังทันยุคที่ใช้ควายคาดคันไถแล้วเดินไถนาอยู่เลย
“การไถนาด้วยวิถีของพ่อจะเป็นการไถเพื่อช้อนดินด้านล่างขึ้นมา เหมือนกับว่าเราพรวนดิน แล้วพ่อก็จะสอนให้สูบน้ำมาตามช่องคันนาที่เราเจาะไว้ น้ำก็จะไหลผ่านมาตามช่องนั้น ต่อมาจะเป็นการไถนาคราด ซึ่งตัวคราดจะเป็นซี่แหลมๆ เหมือนหวี โอ้โห! ตอนนั้นผมชอบมาก ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสผมก็จะทำอีกครับ
ปัจจุบันนี้การทำนาดำเริ่มหายไป แต่จะเป็นการทำนาหว่าน ซึ่งใช้วิธีหว่านข้าวเปลือกเพื่อเพาะต้นกล้าแทน พอต้นกล้าขึ้นก็จะสูบน้ำออก ซึ่งจะง่ายกว่า เมื่อต้นข้าวเติบโตจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ผมก็จะช่วยเกี่ยวข้าวด้วย แต่สมัยนี้เป็นนาหว่าน คนส่วนใหญ่ก็จะใช้รถเกี่ยวข้าวกันมากกว่า เพราะสะดวกและรวดเร็ว พอเกี่ยวข้าวเสร็จผมก็จะช่วยนำข้าวเปลือกขึ้นฉางเพื่อเก็บไว้สีด้วยครับ”
เบิ้ล บอกว่า แม้ทุกวันนี้เขาจะกลายเป็นคนมีชื่อเสียง มีคนรู้จักมากกว่าเดิม แต่เขาก็ไม่มีวันลืมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ตัวเองได้เติบโตมาแน่นอน
“การเป็นศิลปินทำให้ผมได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของชีวิต ได้เห็นแฟนเพลงรอจับมืออยู่หน้าเวทีมากมาย ทั้งเสียงกรี๊ดที่ดังและกำลังใจที่มีให้อย่างมากล้น แต่พอผมมีวันหยุดกลับไปที่บ้านพ่อแม่ มันทำให้ผมได้ไปรื้อฟื้นความทรงจำและความเป็นมาของตัวเองว่าเรายังเป็นเด็กบ้านนอกคนเดิมนะ แม้จะมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เช่น การแต่งเพลง การได้เป็นนักร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้ทำตามความฝันได้สำเร็จ แต่สิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเราก็คือ การเป็นลูกชาวนาคนเดิมที่ยังไม่เปลี่ยนไป ยังมีความสุขอยู่กับการสูดลมหายใจจากท้องนาที่มีรวงข้าวออกรวงสีเขียว นึกถึงวัยเด็กตอนที่นอนอยู่ในอู่ริมท้องนา และการได้ฟังเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ทำให้ผมนึกถึงบ้านอยู่ตลอดเวลา และอยากกลับมาหามันอยู่เสมอ”
เบิ้ล เสริมว่า สำหรับอนาคตในเรื่องการเป็นนักร้อง ถ้ามีผลตอบรับที่ดีจากแฟนเพลง เขาก็จะยังคงปล่อยเพลงซิงเกิ้ลใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะๆ
“ความคาดหวังในเรื่องเพลงหรือซิงเกิ้ลของผมที่ปล่อยออกมา ถ้าให้ตอบจากใจจริง ผมก็ไม่ได้คาดหวังไว้สูง ว่าแต่ละเพลงจะดังเปรี้ยงปร้าง ในความคิดผมคืออยากแค่ปล่อยงานเพลงดีๆ ที่ผมแต่งเอง และได้คัดสรรแล้วให้แฟนเพลงได้ฟังมากกว่า ซึ่งผมจะพยายามทำผลงานทุกชิ้นออกมาให้มีคุณภาพและดีที่สุด
ผมเคยคิดไว้ว่าอาชีพนักร้องอาจจะไม่ใช่อาชีพที่ทำรายได้ให้ผมมากที่สุด แต่มันคืองานที่ผมรักและศรัทธามากที่สุด ถึงแม้ในอนาคตผมอาจจะไปมีอาชีพอื่นแล้วก็ตาม แต่ตัวตนที่แท้จริงของผมแล้วก็ยังทิ้งคำว่านักร้องหรือศิลปินไม่ได้ ผมว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่ฟ้าให้มา และอีกส่วนหนึ่งผมอาจจะซึมซับความชอบเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ทั้งที่คนในครอบครัวผมไม่มีใครชอบร้องเพลงเลยนะ แต่ผมกลับชอบการร้องเพลงและการแต่งเพลงมากๆ”
เบิ้ลทิ้งท้ายว่า ในเดือน พ.ย.นี้ เขาจะต้องไปเป็นทหารกองเกินรับใช้ชาติถึง 2 ปี ช่วงนั้นก็คงต้องพักจากงานร้องเพลงไปชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ หลังพ้นจากการเป็นทหารแล้วก็อาจจะกลับมาออกซิงเกิ้ลใหม่ให้แฟนๆ ฟังอีกครั้ง
“ในอนาคตไม่ว่าชีวิตผมจะเป็นอย่างไร จะทำอาชีพอะไร ผมก็ยังคงเป็นเบิ้ลเด็กบ้านนอกคนเดิม ถ้ามีโอกาสไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ผมก็ยังคิดที่จะทำนา แต่ก็คงจะไม่ได้ทำหนักเหมือนสมัยที่พ่อแม่ทำ เพราะตอนนี้ผมใช้หนี้แทนพวกท่านหมดแล้ว ถ้าจะทำก็คงทำสัก 10 ไร่ เพื่อให้ได้ข้าวเก็บไว้กินแค่นั้น ส่วนนาที่เหลือก็อาจจะให้ญาติพี่น้องแบ่งไปทำกัน นี่คือสิ่งที่ผมคิดไว้ ขอแค่ทำให้ตัวเองและครอบครัวอยู่ได้อย่างมีความสุข แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ”…แฟนเพลงติดตามได้ที่ IG : ble_patumrach_rsiam และ FB : เบิ้ล ปทุมราช


