posttoday

ดูหมิ่นเจ้าพนักงานผ่านโซเชียล

15 มิถุนายน 2560

เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์

โดย...เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์

ปัจจุบันมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจเป็นจำนวนมาก มีการตั้งเพจขึ้นมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจโดยเฉพาะ มีการสร้างแนวร่วมหาเครือข่ายเข้ามาร่วมกันโพสต์และแชร์ จับผิดการทำงานของตำรวจ เช่น การบันทึกวิดีโอ โดยใช้โทรศัพท์มือถือ กล้องหน้ารถ กล้องติดหมวกกันน็อค ขณะเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่และมีการโต้เถียงกับตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ ต่อมาก็จะนำคลิปวีดีโอไปโพสต์และแชร์สู่สาธารณะ หลังจากนั้นก็จะมีกดไลค์และกดแชร์พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันโดยพิจารณาจากคลิป

การเป็นหูเป็นตาของโซเชี่ยลในการช่วยสอดส่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตของตำรวจ ถ้ากระทำการไปโดยสุจริตถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50(10) ประชาชนต้องไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตการประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ แต่บางครั้งการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ที่ไม่สุภาพหรือคำหยาบคาย เหยียดหยาม สร้างความอับอายให้กับตำรวจมีบางกรณี ผู้โพสต์หรือแชร์อาจมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานได้ ที่ผ่านมาเคยมีคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา จึงขอนำเสนอโดยแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนที่ไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และส่วนที่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ดังนี้

อย่างไรก็ตาม การเป็นหูเป็นตาของโซเชียลในการช่วยสอดส่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือทุจริตของตำรวจ ถ้ากระทำโดยสุจริตถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 50 (10) ประชาชนต้องไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตการประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ แต่บางครั้งการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ หรือคำหยาบคาย เหยียดหยาม สร้างความอับอายให้ตำรวจ มีบางกรณีผู้โพสต์หรือแชร์อาจมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานได้ ที่ผ่านมาเคยมีคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ทนายคลายทุกข์ขอนำเสนอ โดยแยกเป็นสองส่วน ส่วนที่ไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานและส่วนที่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ดังนี้

1.ส่วนที่ไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

ฎีกาที่ 4327/2540  การกระทำอันเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 คือ “ดูหมิ่น” ซึ่งหมายถึงการด่า ดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอายถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อ ข. เจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ว่า “แน่จริงมึงถอดเสื้อมาต่อยกับกูเลย” เป็นการกล่าวท้าทายให้ ข. ออกมาต่อสู้กับจำเลยเป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นที่พอจะให้เข้าใจว่าจำเลยมีความมุ่งหมายที่จะด่า ดูถูกเหยียดหยามหรือสบประมาทให้ ข. อับอายแต่อย่างใดการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136

ฎีกาที่ 786/2532  จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้านได้พบกลุ่มเยาวชนกำลังขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ และข่มขืนใจเจ้าพนักงานสรรพสามิตให้ปล่อยตัว อ. ผู้ต้องหา ให้คืนสุราแช่ของกลาง ให้มอบบันทึกการจับกุม จำเลยที่ 1 มิได้ทำการจับกุมในทันที ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ ละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำเลยที่ 1 กล่าวแก่
เจ้าพนักงานสรรพสามิต ซึ่งทำการจับกุม อ. ผู้ต้องหาว่า “โคตรแม่มึงเวลาเขาลักขโมยควายไป 2-3 วัน ตามหาไม่เจอ เวลามีสุราทำไมจับเร็วนัก พวกคุณมาสร้างปัญหา คุณไม่ต้องมามองหน้าผมหรอก คุณเป็นหัวหน้าส่วนกระจอก ๆ ผมไม่กลัวคุณหรอก ใหญ่กว่านี้ผมก็ไม่กลัว” เป็นการพูดเปรยเพื่อประชดประชันว่า ทำไมเรื่องสุราจับเร็วนัก และเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ มิใช่เป็นการสบประมาทเหยียดหยามดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่

ฎีกาที่ 420/2529 จำเลยพูดโต้ตอบกับพลตำรวจ ม. ระหว่างพลตำรวจ ม. ตรวจรถแท็กซี่คันที่จำเลยกับพวกนั่งมา เมื่อพลตำรวจ ม. บอกจำเลยว่าหัวหน้าด่านตรวจคือร้อยตำรวจโทปรีชาและพูดต่อไปว่า หากจำเลยสงสัย (ว่าเป็นด่านตรวจรถที่ตั้งขึ้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ให้ไปสอบถามหัวหน้าด่านได้ จำเลยพูดว่า “แค่ร้อยตำรวจโทนั้นกระจอกไม่อยากคุยด้วยหรอก” แปลความหมายได้ว่าจำเลยพูดกับพลตำรวจ ม. ว่าจำเลยไม่อยากพูดคุยกับหัวหน้าด่านตรวจที่มียศแค่ร้อยตำรวจโท เพราะเห็นว่าหัวหน้าด่านตรวจมียศต่ำไป จำเลยหาได้เจาะจงสบประมาทโจทก์ร่วมว่าเป็นคนต่ำต้อยหรือเลวแต่อย่างใดไม่ เป็นคำพูดที่ไม่สุภาพเท่านั้น หาใช่เป็นคำด่าหรือสบประมาทเหยียดหยามโจทก์ร่วมให้ได้รับความอับอาย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136

ฎีกาที่ 8016/2556 จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า “ตำรวจแม่ง...ใช้ไม่ได้” เพราะรู้สึกว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ให้ความสำคัญต่อคำชี้แจงของตน จำเลยรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงกล่าวตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อันเป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเท่านั้น แต่ไม่ถึงขั้นมุ่งหมายที่จะด่า ดูถูกหรือสบประมาทตำรวจแต่อย่างใด จึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 136

2.ส่วนที่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

ฎีกาที่ 8422/2558 การที่จำเลยที่ 1 พูดจาให้ร้ายผู้เสียหายขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านโดยใช้คำว่า “ปลัดส้นตีน” ซึ่งเป็นคำดูหมิ่นเหยียดหยาม เป็นการกระทำความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตาม ป.อ. มาตรา 136 สำเร็จแล้วกระทงหนึ่ง ส่วนการที่จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ทำให้ผู้เสียหายกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญขณะที่ผู้เสียหายเข้าตรวจภายในร้าน โดยจำเลยที่ 1 พูดขึ้นว่า ไปเอาปืนมายิงให้ตาย อย่าให้ออกไปได้ แล้วจำเลยที่ 2 วิ่งไปหยิบไม้เบสบอลมาตีผู้เสียหาย 1 ที จำเลยที่ 1 เอาไม้กวาดไล่ตีผู้เสียหาย เป็นการกระทำต่อเนื่องกันไป โดยมีเจตนาเดียวกันคือทำร้ายผู้เสียหาย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวกับการร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

ฎีกาที่ 10674/2553 จำเลยที่ 1 พูดต่อผู้เสียหายที่ 2 กับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตผู้มีอำนาจหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับสรรพสามิตว่า “พวกมึงเป็นข้าราชการรังแกประชาชน แกล้งจับกู” ถ้อยคำดังกล่าวมิใช่เป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควร แต่เป็นถ้อยคำดูถูก สบประมาทผู้เสียหายที่ 2 กับพวก จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานตาม ป.อ. มาตรา 136

ฎีกาที่ 501/2537 เมื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลย จำเลยกล่าวกับผู้เสียหายว่าเป็นนายจับอย่างไรก็ได้และเรียกทำเย็ดแม่ดังนี้ ที่จำเลยกล่าวว่าเป็นนายจับอย่างไรก็ได้ เป็นเพียงคำกล่าวในทำนองตัดพ้อต่อว่า ไม่ได้กล่าวหาว่า ผู้เสียหายกลั่นแกล้งจึงไม่เป็นการดูหมิ่นผู้เสียหาย แต่ที่จำเลยกล่าวว่า เรียกทำเย็ดแม่เป็นคำด่าอันเป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายแล้ว จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 เมื่อผู้เสียหายจับกุมจำเลยในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จำเลยดิ้นรนขัดขืนและชกหน้าผู้เสียหาย 1 ครั้ง จนฟันผู้เสียหายหักและมีโลหิตไหลออกจากปาก จำเลยจึงมีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสองและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 อีกกระทงหนึ่ง

การวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำได้แต่ควรใช้ถ้อยคำที่สุภาพและไม่หยาบคาย เพราะอาจจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทได้

ข่าวล่าสุด

สีหศักดิ์แถลง ไทยยันต้องเจรจาทวิภาคี นัดกัมพูชาถก GBC คุยรายละเอียดหยุดยิง 24 ธ.ค.