posttoday

อ.ไชยวรศิลป์ นักเขียนสิทธิสตรีเพื่อสาวเหนือ

11 มิถุนายน 2560

อ.ไชยวรศิลป์ มีชื่อจริงคือ อำพัน ไชยวรศิลป์ เกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2460 ซึ่งปีนี้ก็ครบรอบ 100 ปี ชาตกาล

โดย...พริบพันดาว

อ.ไชยวรศิลป์ มีชื่อจริงคือ อำพัน ไชยวรศิลป์ เกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2460 ซึ่งปีนี้ก็ครบรอบ 100 ปี ชาตกาล

 ถือกำเนิดที่ อ.สูงเม่น จ.แพร่ เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนคริสต์ประดิษฐ์มโนวงศ์ จ.เชียงใหม่ และย้ายไปเรียนที่อื่นอีกหลายแห่งตามที่บิดาย้ายไปรับราชการ

 สุดท้ายกลับไปจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เริ่มเขียนเรื่องสั้นเรื่องแรกชื่อ “หนทางรัก” เมื่ออายุได้ 15 ปี โดยใช้นามปากกา อ.ไชยวรศิลป์ จากนั้นจึงเขียนเรื่อยมา

 นวนิยายเรื่องแรกชื่อ “เกิดเป็นคน” เรื่องที่ทำให้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักอ่าน คือ “ฉันเขียนเรื่องนี้เพื่อเธอ” และ” แม่สายสะอื้น”

 ตลอดชีวิตการทำงานเขียน มีผลงานเรื่องสั้นประมาณ 300-400 เรื่อง และนวนิยายอีกกว่า 40 เรื่อง

 สารคดีเรื่อง “นิยายเมืองเหนือ” ได้รับรางวัลยูเนสโก ประจำปี 2530 ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2533 ด้วยวัย 72 ปี ขณะกำลังเขียนนวนิยายเรื่องสุดท้ายชื่อ “ก่อนชีวาจะลาลับ”

 อ.ไชยวรศิลป์ ได้รับรางวัลศรีบูรพา เป็นคนที่ 2 ในปี 2532

อ.ไชยวรศิลป์ นักเขียนสิทธิสตรีเพื่อสาวเหนือ

 ในบทความชื่อ “อ.ไชยวรศิลป์ นักเขียนหญิงเมืองเหนือ หนึ่งในกบฏสันติภาพ” โดย ดร.เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์ เขียนถึงประวัติของ อ.ไชยวรศิลป์ ว่า

 “เริ่มเขียนเรื่องสั้นชิ้นแรก ชื่อ ‘หนทางรัก’ เมื่ออายุได้เพียง 15 ปี ใช้นามปากกา อ.ไชยวรศิลป์ ส่วนนวนิยายเรื่องแรกคือ ‘เกิดเป็นคน’ จากนั้นก็เขียนนวนิยายโรมานซ์แนว ‘พระเอกเมืองกรุง นางเอกเอื้องเหนือ’ กว่า 40 เรื่อง”

 และมีข้อสังเกตว่ามักตั้งชื่อนิยายเหล่านั้นด้วยสัญลักษณ์ของสายน้ำอันไพเราะเพราะพริ้ง อาทิ มนต์แม่ระมิงค์ แทบฝั่งอิระวดี ประทีปเหนือธารพิงค์ พระจันทร์ครึ่งดวงที่วาปี แม่สายสะอื้น เรื่องหลังนี้ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน

 นักเขียนหญิงล้านนายอมรับว่านวนิยายยุคแรกของเธอนั้นออกแนวเพ้อฝันประโลมโลกเอาใจตลาด ด้วยต้องปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงชีพ เพื่อยืนหยัดอยู่ในบรรณพิภพให้ได้ซึ่งเป็นอาณาบริเวณของนักเขียนชายส่วนใหญ่ในยุคนั้น แต่ทว่าเอื้องเหนือที่เป็นตัวละครแต่ละนางก็หาใช่ผู้หญิงที่ง่ายนักสำหรับการเด็ดดอมของผู้ชายบางกอก

 ควบคู่ไปกับความหลงใหลในมนต์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นล้านนาตามที่ครู ส.ธรรมยศ ได้ปูทางไว้ให้ นามปากกา “อสิธารา” จึงอุบัติขึ้น ด้วยงานวรรณกรรมประเภท “สาระนิยาย” คือเป็นสารคดีที่มีการผูกบทให้ตัวละครสนทนากันคล้ายกับการเดินเรื่องแบบนวนิยาย

 งานชิ้นโบแดงแนวนี้คือ นิยายเมืองเหนือ ได้รับรางวัลหนังสือยอดเยี่ยมประเภทสารคดีจากยูเนสโก เมื่อปี 2510 และล่าสุด ปี 2551 มีการพิมพ์ใหม่เปลี่ยนชื่อเป็น “เล่าเรื่องเมืองเหนือ”

 นอกเหนือจากนามปากกา อ.ไชยวรศิลป์ กับอสิธาราแล้ว ยังใช้ “เอื้อ อรทัย” สำหรับงานเขียนคอลัมน์ตอบปัญหาข้อข้องใจวัยรุ่น

 ยุคถัดมาเธอเริ่มสนใจในอุดมการณ์ทางการเมืองตามแนวทางของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ “ศรีบูรพา” จึงเบนเข็มมาสร้างสรรค์งานเรื่องสั้นประเภทเสียดสีสังคมอย่างแสบสันต์ แทนที่งานเขียนนวนิยายสิบตังค์

 เรื่องสั้นยุคที่เธอเอนเอียงมาทางลัทธิสังคมนิยมนั้น นักวิจารณ์วรรณกรรมจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับนักเขียนหญิงแกร่งที่มีชื่อเสียงร่วมรุ่นกัน ได้แก่ ร.จันทพิมพะ แข ณ วังน้อย ซึ่งน่าจะส่งอิทธิพลให้แก่นักเขียนรุ่นถัดมาอย่าง กฤษณา อโศกสิน โบตั๋น และอาจรวมไปถึงศรีดาวเรือง อยู่บ้าง

 กล่าวคือเป็นงานเขียนที่สะท้อนถึงชีวิตของผู้หญิงรากหญ้าสามัญชนที่เข้าใจโลกและชีวิต มีความอาจหาญ ทระนง พึ่งพาตัวเอง กล้าลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องสิทธิจากชาย

 อันเป็นแนวกึ่งกลางที่อยู่ระหว่างงานเขียนแนว “ขนบนิยม-กุลสตรีสำเร็จรูป” สวย รวย หยิ่ง รักนวลสงวนตัว ดั่งงานของนักเขียนรุ่นครูคือ ดอกไม้สด และ ก.สุรางคนางค์ กับแนวหวือหวาวาบหวิวของผู้หญิงขบถ รักเสรีเปิดเผยเรื่องเพศ ดังเช่น สุวรรณี สุคนธา

 เรื่องสั้นและนวนิยายยุคหลังๆ ของ อ.ไชยวรศิลป์ มุ่งประเด็นเกี่ยวกับสิทธิสตรีอย่างชัดเจน ตัวละครหญิงในแทบทุกเรื่องล้วนแต่ประกาศตัวตนว่าไม่อาจทนกับสภาพความเป็นชายที่เอาเปรียบเพศหญิง แถมบางเรื่องยังมีการตอบโต้และแก้แค้นเพศชายด้วยวิธีรุนแรง 

อ.ไชยวรศิลป์ นักเขียนสิทธิสตรีเพื่อสาวเหนือ

 เพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนหญิงผู้นี้ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ยุคประภัสสร เสวิกุล เป็นนายกสมาคม (ปี 2545-2547) จึงได้มีการจัดประกวดวรรณกรรมที่เน้นเนื้อหาส่งเสริมสถานภาพและเกียรติภูมิของสตรีขึ้น ในนามรางวัลอนุสรณ์ อ.ไชยวรศิลป์ น่าเสียดายที่รางวัลนี้มีเพียงแค่ 2 ปี และได้ยกเลิกไป

 เมื่อหยิบวิทยานิพนธ์ เรื่อง “การสร้างภาพลักษณ์ผู้หญิงเหนือ ในนวนิยายของ อ.ไชยวรศิลป์”  ของ สุนทร คำยอด ก็จะพบถึงมุมมองของ อ.ไชยวรศิลป์ ในการทำงานด้านงานเขียน

 เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านลบที่ถูกสร้างขึ้นให้แก่ผู้หญิงเหนือ อ.ไชยวรศิลป์ ได้นิยามใหม่ให้กับผู้หญิงเหนือ โดยสร้างภาพลักษณ์ผู้หญิงเหนือขึ้นมา 5 ลักษณะ คือ 1.การสร้างความเป็นผู้หญิงเหนือผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว 2.การสร้างผู้หญิงเหนือกับการวางตัวในสังคม 3.การสร้างผู้หญิงเหนือที่มีความภูมิใจในอัตลักษณ์ 4.การสร้างผู้หญิงเหนือที่แข็งแกร่ง 5.การสร้างความเป็นหญิงเหนือที่รักสันโดษ

 โดยการสร้างภาพลักษณ์ดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านตัวบท โดยการสร้างภาพลักษณ์ของกุลสตรี เพื่อตอบโต้ด้านลบที่สร้างขึ้นจากส่วนกลาง

 อ.ไชยวรศิลป์ ได้ตอบโต้การสร้างภาพลักษณ์ด้านลบของผู้หญิงเหนือ 2 ลักษณะ คือ ลักษณะที่ 1 การสร้างความเป็นอื่นให้กับส่วนกลาง ซึ่ง อ.ไชยวรศิลป์ ตอบโต้ 3 ประการ คือ สร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้ผู้หญิงภาคกลาง สร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้ผู้หญิงเหนือที่มีความสัมพันธ์กับส่วนกลาง และการสร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้แก่กรุงเทพฯ

 ลักษณะที่ 2 การตอบโต้การดูถูกผู้หญิงเหนือ อ.ไชยศิลป์ ตอบโต้การดูถูกผู้หญิงเหนือ 5 ประการ ดังนี้ 1.การตอบโต้ภาพลักษณ์ผู้หญิงเหนือใจง่าย 2.การตอบโต้ภาพลักษณ์โสเภณี 3.การตอบโต้วาทกรรม “อีลาว” 4.การตอบโต้วรรณกรรมภาคกลางที่สร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้ผู้หญิงเหนือ และ 5.การสร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้กับผู้ชายภาคกลาง

 นี่คือนักเขียนหญิงหัวก้าวหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิงชาวเหนืออย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

HAAB (หาบ) มัดรวม 9 รสชาติที่สุดแห่งปี ที่ชาวโซเชียลไม่อยากมูฟออน