posttoday

ส่องหนุ่มแวดวงเครื่องดื่ม แค่เก่งยังไม่พอ

06 มิถุนายน 2560

“หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” คำพูดนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ ยิ่งเมื่อนำไปบวกกับความสามารถที่คนคนนั้นมีด้วยนะ




โดย...ภาดนุ

“หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” คำพูดนี้ยังคงเป็นจริงเสมอ ยิ่งเมื่อนำไปบวกกับความสามารถที่คนคนนั้นมีด้วยนะ ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้อาชีพการงานของเขาไปได้สวยเชียวละ เหมือนอย่าง 3 หนุ่มหน้าตาดีในแวดวงเครื่องดื่มที่เราภูมิใจนำเสนอนี้ไง

เบส-อคพจน์ ธีรพงษกร วัย 28 ปี เจ้าของร้านบลูเวล มหาราช (Blue Whale Maharaj) ซอยเพ็ญพัฒน์ 1 (หลังวัดโพธิ์) นอกจากจะเป็นเจ้าของร้านและเชฟแล้ว เขายังรับหน้าที่เป็นบาริสต้าอีกด้วย

“ก่อนที่จะเปิดร้านร่วมกับเพื่อนรุ่นพี่ ผมเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้ามาบ้าง และติด 1 ใน 50 หนุ่มโสดคลีโอ ปี 2016 นอกนั้นก็มีไปออกรายการทีวีบ้าง เร็วๆ นี้ก็อาจจะมีผลงานซีรี่ส์ให้ได้ชมกันด้วย ผมเปิดร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น พร้อมทั้งขายเบเกอรี่และเครื่องดื่มมาได้ 8 เดือนแล้ว

ตอนอยู่ที่ร้านนอกจากเป็นเชฟคิดเมนูและทำอาหารแล้ว ผมยังเป็นบาริสต้าไปด้วย โดยเริ่มสนใจในเรื่องกาแฟมาได้ 5 ปีแล้วตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ซึ่งในช่วงนั้นการทำลาเต้อาร์ตกำลังเป็นที่นิยมมากๆ ผมจึงลงเรียนคอร์สพื้นฐานในการเป็นบาริสต้า ซึ่งจะสอนเรื่องการชงกาแฟชนิดต่างๆ การเลือกเมล็ดกาแฟให้เหมาะกับแต่ละเมนู และอื่นๆ”

เบสบอกว่า วันหนึ่งเมื่อเขามีโอกาสได้ไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย เขาก็ได้ไปสมัครเป็นบาริสต้าในร้านกาแฟที่เจ้าของเป็นคนไทย ซึ่งที่ร้านก็จะเทรนพร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องกาแฟไปด้วย เขาจึงฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอัพเดทความนิยมของบาริสต้าในระดับสากล เพื่อนำมาปรับใช้กับที่ร้านตัวเอง

“อย่างเมื่อก่อนคนอาจจะนิยมทำลาเต้อาร์ต แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จะหันมานิยมการทำกาแฟเอสเปรสโซ่ยังไงให้ดี เป็นต้น ซึ่งความชอบของคนจะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามการนำเสนอของบาริสต้าดังๆ ระดับโลก แต่ผมจะหยิบสิ่งดีๆ มาปรับใช้กับที่ร้านตัวเองซะมากกว่า

การที่บาริสต้าหน้าตาดี บุคลิกดี ก็มีผลต่อกลุ่มลูกค้ามากเหมือนกัน ลูกค้าส่วนใหญ่ของผมจะเป็นคนวัยทำงานซึ่งชอบหาร้านอาหารหรือร้านกาแฟเก๋ๆ บรรยากาศดีๆ พนักงานหน้าตาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการอยู่แล้ว ถ้าร้านไหนมีครบทุกอย่าง ผมว่าก็เป็นผลดีอย่างมาก”

เบสเสริมว่า โดยส่วนตัวเขาเองก็มีลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวสาวๆ ชาวเอเชียที่จะมีสมาชิกในกลุ่มตามมาชิมกาแฟจากบาริสต้าหน้าตาดีในเมืองไทย ถือเป็นกิจกรรมน่ารักๆ ของลูกค้า ซึ่งเขาคิดว่าเขาโชคดีมากๆ ที่ได้เป็นหนึ่งหนุ่มบาริสต้าที่แฟนคลับกลุ่มนี้คอยติดตาม ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจของเขาเป็นอย่างมาก…ติดตามได้ที่ IG : bluewhalebkk และ IG : best_teera

ส่องหนุ่มแวดวงเครื่องดื่ม แค่เก่งยังไม่พอ

มาที่หนุ่มวัย 27 ปี อัพ-พุทธภูมิ สหายสุข นักรินเบียร์ บาร์เทนเดอร์ และซูเปอร์ไวเซอร์ของร้านฮ็อบส์ (Hobs) สาขาซอยอารีย์สัมพันธ์ 11 บ้าง

“ผมเริ่มทำงานเป็นนักรินเบียร์และบาร์เทนเดอร์ เพราะสนใจในเรื่องเครื่องดื่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมีรุ่นพี่ชวนมาทำงานผมจึงตอบตกลงทันที เมื่อเข้ามาทำงานที่นี่ก็จะมีบาร์เทนเดอร์รุ่นพี่ที่ร้านมาสอนชงค็อกเทลชนิดต่างๆ ให้ แต่ที่ร้านจะเน้นเรื่องเบียร์เป็นหลัก เพราะมีทั้งเบียร์สดและเบียร์คราฟท์หลากหลายแบรนด์ที่นำเข้ามาจากประเทศเบลเยียม ฉะนั้นผมจึงต้องคอยอัพเดทตัวเองให้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเบียร์อยู่ตลอดเวลา ว่าเบียร์ชนิดนี้ทำจากอะไร ผ่านกระบวนการผลิตแบบไหน หรือหมักบ่มอย่างไร เป็นต้น

สิ่งที่ท้าทายสำหรับอาชีพผมก็คือ การให้บริการลูกค้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านจะเป็นผู้หญิง ในความคิดผมแล้ว การที่นักรินเบียร์หรือบาร์เทนเดอร์หน้าตาดีก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้า เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะดูทั้งบุคลิก หน้าตา และการให้บริการก่อนเลย โดยส่วนตัวผมแล้วจะเน้นไปที่การบริการลูกค้ามากกว่า ซึ่งผมก็จะแนะนำเครื่องดื่มใหม่ๆ ให้ลูกค้าอยู่เสมอ โดยดูว่าชนิดไหนเหมาะกับใคร สิ่งสำคัญคือต้องถามความต้องการ รวมทั้งสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าเป็นหลัก”

ด้วยความใฝ่รู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทำให้เขาติด 1 ใน 3 คนสุดท้ายของนักรินเบียร์ผู้เข้าร่วมแข่งขันจากเวที “สเตลล่า อาร์ทัวส์ ไทยแลนด์ ดราฟท์ มาสเตอร์ส 2016” และได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปแข่งขันระดับเอเชียในเวที “สเตลล่า อาร์ทัวร์ รีเจียนนอล ดราฟท์ มาสเตอร์ส 2016” ที่ประเทศมาเลเซีย จนสามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมประเภททีมมาครองได้…เอ้า! สาวๆ ตามไปให้กำลังใจกันได้ที่ร้านฮ็อบส์เลยจ้ะ

ปิดท้ายด้วยมิกโซโลจิสต์หนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 29 ปี ฮิเดยูกิ ไซโต เจ้าของร้านบรอนซ์ ลิควิด พาร์เลอร์ (Bronx Liquid Parlour) ซอยทองหล่อ 25

เจ้าตัวเล่าว่า เริ่มต้นอาชีพจากการทำงานในร้าน “โซโห เฮาส์” ซึ่งเป็นร้านชื่อดังในกรุงลอนดอน จากนั้นจึงต่อยอดไปสู่การเป็นมิกโซโลจิสต์ (ผู้คิดค้นสูตรค็อกเทล) จนสามารถเปิดร้านเหล้าของตัวเองที่เมืองไทยตามที่ได้ตั้งใจไว้

ส่องหนุ่มแวดวงเครื่องดื่ม แค่เก่งยังไม่พอ

“แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมก้าวมาเป็นมิกโซโลจิสต์ เกิดจากการที่ผมชอบดื่ม ทำให้ผมสนใจศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องค็อกเทลมาโดยตลอด เพราะทำแล้วมีความสุข ผมจึงค่อยๆ พัฒนาฝีมือของ
ตัวเองมาเรื่อยๆ และเคยเข้าแข่งขันคิดค้นสูตรค็อกเทลมาแล้ว 2-3 ครั้งตอนอยู่ลอนดอน กระทั่งมีโอกาสได้ลงแข่งขันคิดค้นสูตรค็อกเทลอีกครั้งในงาน ‘บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2015’ ที่กรุงเทพฯ จนติด 1 ใน 4 มิกโซโลจิสต์หน้าใหม่ของงานนี้ ต่อมาผมได้ลงแข่งขันในงาน ‘บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2017 ไทยแลนด์ แกรนด์ ไฟนอล’ จนสามารถคว้ารางวัลที่ 1 มาได้สำเร็จ เลยทำให้มีคนรู้จักผมมากขึ้น

หลังจากนั้นผมได้สานต่อความฝันของตัวเอง ด้วยการเปิดร้านเหล้าขึ้นที่ย่านทองหล่อ ปัจจุบันก็เปิดมาได้ 8 เดือนแล้ว ซึ่งก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีมากๆ ลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายชาวไทยวัยทำงาน ชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยว ผมว่านอกจากหัวใจของการบริการ ความใส่ใจ ความตั้งใจ และความคิดสร้างสรรค์ในการทำค็อกเทลที่แปลกใหม่แล้ว บุคลิกภาพและหน้าตาของตัวมิกโซโลจิสต์เอง ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า”

ล่าสุด ฮิเดยูกิ ติด 1 ใน 8 มิกโซโลจิสต์ จากจำนวนผู้เข้าแข่งขัน 38 คนทั่วโลก ในงาน “บาคาร์ดี เลกาซี่ โกลบอล ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2017” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จึงทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นไปอีก

“หัวใจสำคัญของความสำเร็จในการแข่งขันที่ผ่านมา นอกจากการเตรียมความพร้อมในเรื่องส่วน ผสมของค็อกเทลและเรื่องราวที่ต้องพรีเซนต์แล้ว ยังต้องเตรียมตัวในเรื่องของบุคลิกภาพและความมั่นใจในการลงแข่งขันด้วย ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร ถ้าคุณมีบุคลิกที่ดี มีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ ก็ถือว่าเป็นผลดีกับอาชีพของคุณทั้งนั้น

สำหรับผมนอกจากบุคลิกที่ดีแล้ว สไตล์การตกแต่งร้าน รสชาติและความคิดสร้างสรรค์ของค็อกเทล รวมไปถึงบรรยากาศและเสียงเพลงที่เปิด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีส่วนช่วยดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านทั้งนั้น เพราะหากลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และรู้สึกประทับใจ ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องกลับมาที่ร้านอีกแน่นอน”…ติดตามได้ที่ FB : Bronx Liquid Parlour 

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสม หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์–พลังงานกดดัน S&P 500