posttoday

พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ธุรกิจ ธรรมะ ดนตรี ความสุขของชีวิต

05 มิถุนายน 2560

โทมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มิเพียงประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย

 

 

โดย...วรธาร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

โทมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มิเพียงประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิตน่าสนใจทีเดียว ปัจจุบันนั่งตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป เจ้าของผลิตภัณฑ์กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไลฟ์สไตล์ที่ผลิตในชื่อแบรนด์แอนิเทค (Anitech) โนบิ (Nobi) เอจี (aG) และเพนทากอนซ์ (Pentagonz) รวมแล้วกว่า 1,000 รายการ ประกอบด้วยสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ อุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อกับมือถือ อุปกรณ์ Gaming Gear และอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าในบ้าน

เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เรียนจบ

พิชเยนทร์เกิดในครอบครัวข้าราชการที่ทุกคนล้วนเรียนเก่งสอบได้ทุนเรียนหมดตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ตลอดจนพี่น้องทุกคนยกเว้นเขาคนเดียว แต่ทว่าแม้ไม่ได้ทุนเรียนพิชเยนทร์ก็ได้แสดงศักยภาพความรู้ความสามารถของตัวเองผ่านการทำธุรกิจและประสบความสำเร็จในบทบาทผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มากไปด้วยวิสัยทัศน์ ความกล้า และไอเดียกระฉูด

“พอเรียนจบเอแบคด้านบริหารธุรกิจผมก็ได้ร่วมธุรกิจกับเพื่อนชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ (โดยการแนะนำของคุณแม่) และเพื่อนต่างชาติอีกส่วนหนึ่ง ตุรกีก็มี เยอรมนีก็มี เปิดบริษัทเซเลบริตี้ ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ขายทั่วโลก ตอนนั้นถ้าถามว่าอยากทำธุรกิจอะไรผมไม่รู้ รู้แต่ว่าทุกอย่างรอบตัวน่าสนใจหมด ดังนั้นเมื่อโอกาสมาก็คว้าไว้ก่อน ทำ 3 ปี ยอดขายเป็นสิบๆ ล้านต่อปี จึงเป็นอะไรที่ท้าทายมาก”

 

 

พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ธุรกิจ ธรรมะ ดนตรี ความสุขของชีวิต

อย่างไรก็ตาม หลังปลุกปั้นธุรกิจมาระยะหนึ่งเขาในฐานะผู้บริหารได้หันไปมองเป้าหมายธุรกิจในอีก 10-20 ปีข้างหน้าและพยายามหาคำตอบก็รู้ว่าธุรกิจที่ทำอยู่ไม่อาจเติบโตได้ในระยะยาว จึงตัดสินใจเบนเข็มมาเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้า (โออีเอ็ม) ประเภทอุปกรณ์เสริม เช่น เมาส์ แผ่นรองเมาส์ สมอลทอล์ก การ์ดรีดเดอร์ให้กับแบรนด์สินค้าไอทีชื่อดังต่างๆ พร้อมย้ายฐานการผลิตจากยุโรปมาอยู่ฮ่องกงพักหนึ่งก่อนจะย้ายมาตั้งในไทยและเปลี่ยนจากโออีเอ็มมาเป็นสร้างแบรนด์ของตัวเองโดยการตั้งบริษัทชื่อสมาร์ท ไอดี กรุ๊ป ในปี 2006 

 

“ผมมองว่าอนาคตโกลบอลแบรนด์ทั้งหลายจะแข่งขันดุเดือดมากขึ้น เราในฐานะซัพพลายเชนย่อมกระทบแน่นอน ฉะนั้นทำอย่างไรให้ธุรกิจเจริญเติบโตไปได้ในระยะยาว คำตอบคือสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง ด้วยการใส่ไอเดีย ดีไซน์และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าไปพัฒนาออกมาเป็นสินค้าคุณภาพที่แตกต่างและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างดี”

ที่น่าสนใจคือช่วงทำธุรกิจดังกล่าวพิชเยนทร์ได้ทำงานประจำที่บริษัทชั้นนำหลายแห่งควบคู่ไปด้วย รวมระยะเวลาเกือบ 12 ปี ก่อนออกมาทำธุรกิจของตัวเองเต็มตัว เริ่มจากบริษัท สปาย ไวน์คูลเลอร์ บลูเอเลเฟ่นท์ เอสซีจี (บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย) บีเจซี (บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) และเบทาโกร ซึ่งต้องบอกว่าหายากที่จะมีนักธุรกิจรุ่นใหม่ทำเช่นนี้แล้วธุรกิจตัวเองก็ไปได้สวยหรู“ถามว่าเอาเวลาไหนไปทำธุรกิจตัวเอง บอกเลยว่าช่วงทำงานประจำนั้นผมนอนวันละประมาณ 4 ชั่วโมง และเชื่อไหมตอนที่ธุรกิจผมมียอดขายปีละเกือบร้อยล้านผมยังรับเงินเดือนบริษัทไม่กี่หมื่นบาท แต่ผมก็สนุกกับงานประจำมากและประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทต่างๆ นั้นก็ช่วยให้ผมขับเคลื่อนธุรกิจของผมมาได้ถึงวันนี้และรายได้เติบโตทุกปีมาเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน” พิชเยนทร์ กล่าว

พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ธุรกิจ ธรรมะ ดนตรี ความสุขของชีวิต

เมื่อถามหลักการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ นักธุรกิจหนุ่มบอกว่า จากรายได้ที่เติบโตต่อปี 20-30% มาเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกันโดยไม่เคยขาดทุนนั้น เนื่องจากสินค้าที่ออกมาปีละกว่า 100 รายการเขาได้คำนวณความเสี่ยงทุกด้านไว้เรียบร้อย ขณะเดียวกันก็ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำอย่างมีกลยุทธ์

“ผมจะไม่เป็นนักธุรกิจที่จ่ายเงินสุดๆ แล้วก้าวไปอย่างไม่มีกลยุทธ์หรือไปตายเอาดาบหน้าซึ่งจะไม่เกิดกับผมแน่นอน ทุกเรื่องที่ทำต้องใช้กลยุทธ์ (Strategy) เสมอ เช่น เรื่องเงินต้องคุยกับแบงก์ มีวงเงินเตรียมพร้อมไว้เสร็จสรรพ แต่ที่สำคัญคือคอนเนกชั่นต้องมี เพราะเรื่องอื่น เช่น การเงิน การขายเราสร้างคนทำแทนได้”

ธรรมะและดนตรี ความสุขของชีวิต

นอกจากทำธุรกิจแล้วอีกมุมหนึ่งของเขาคือปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ทุกเดือนจะต้องหาความสงบให้ตัวเองด้วยการเดินทางไปปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิที่วัดมาบจันทร์ อ.แกลง จ.ระยอง สาขาวัดหนองป่าพง อันเป็นวัดที่ทำให้เขาค้นพบว่าธรรมะหรือหลักของศาสนาพุทธเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตและทำให้รู้คุณค่าชีวิต

“เรื่องปฏิบัติผมไม่ได้เคร่งมาก แค่ไปหาความสงบไปชาร์จแบตให้จิตใจ และความสงบก็ทำให้เรามีสติมากขึ้น เวลามีสติอยู่กับตัวก็ช่วยให้ทำอะไรมักไม่ผิดพลาดและสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ลุล่วงไปได้ ซึ่งผมเริ่มสนใจธรรมะและศาสนาช่วงที่ธุรกิจได้ร้อยล้านแล้วตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 30 ปีเลย ตอนแรกที่ทำธุรกิจก็คิดว่าถ้าได้ร้อยล้านคงเท่น่าดู แต่พอทำได้จริงก็ไม่เห็นเท่ตรงไหน คนอื่นก็ทำได้เยอะแยะ

วินาทีนั้นก็เกิดความคิดว่าชีวิตคนต้องไม่ใช่แค่นี้ ธุรกิจมันเรื่องทางโลก แล้วเรื่องธรรมะจิตใจหรือจิตวิญญาณอยู่ไหน ผมจึงหันไปอ่านธรรมะ ซื้อพระไตรปิฎกมาศึกษา เพราะมองว่าศาสนาคือทางออกหนึ่งของชีวิต ใช้เวลา 1 ปี ศึกษาศาสนาและลัทธิต่างๆ ธรรมกายก็ไปมาหมด ผมถือว่าถ้าจะพิสูจน์อะไรต้องเปิดใจเหมือนจะพิสูจน์ว่าน้ำเย็นไหมต้องเอาขาลงจุ่มเองถึงจะรู้ ทว่าศึกษามาแล้วก็ไม่เจอ ในที่สุดได้มาพบแนวทางการสอนที่วัดมาบจันทร์ ทำให้เห็นตัวตนและลดอีโก้เราลง รู้สึกว่าที่นี่ทำให้ผมพัฒนาและเจริญทางด้านจิตใจ”

พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ธุรกิจ ธรรมะ ดนตรี ความสุขของชีวิต

พิชเยนทร์ มองว่า การเข้าถึงเรื่องจิตวิญญาณนี้ใช้ความรู้อย่างเดียวไม่พอ เพราะความรู้เจาะไปได้ไม่ถึงแก่น อย่างมากก็แค่ยางต้นไม้ที่ซึมออกมา แต่ถ้าลองปฏิบัติจริงๆ วันหนึ่งเราอาจไปถึงแก่นได้ หรือถ้าไม่ถึงแก่น อย่างน้อยทะลุเปลือกไปได้หน่อยหนึ่งก็ยังจะรู้ว่าต้นไม้ต้นนั้นไม่ได้มีแค่ยาง

นอกจากปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่ง พิชเยนทร์ มองว่า การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมีความสุขเสมอ ดนตรีคือสิ่งที่เขารักและเล่นมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย โดยถนัดเบสและกีตาร์ แต่เวลาเล่นกับวงต่างๆ มักจะถูกจับไปเป็นนักร้องอยู่เสมอ ทุกวันนี้ก็สวมบทเป็นนักร้องในวง และปัจจุบันเล่นอยู่ 2 วง

“แนวเพลงที่ผมร้องจะเป็นแจ๊ซและป๊อปร็อก ตอนนี้ก็มีอัลบั้มของตัวเองแล้ว (ไม่เกี่ยวกับวงที่เล่น) ชื่อ Classy Gala Collection ค่าย Classy Records วางจำหน่ายราวต้นเดือน ก.ค.นี้ ในอัลบั้มนี้มีศิลปินดังๆ เช่น พี่อุ้ย รวิวรรณ จินดา พี่สุกัญญา มิเกล รวมทั้งหมด 15 ศิลปินกับ 15 เพลง เป็นอัลบั้มรวมศิลปิน”

พิชเยนทร์ บอกว่า ดนตรีเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและเป็นสิ่งที่เขารักและอยู่มาด้วยตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นทุกครั้งที่ขึ้นแสดงบนเวทีในงานอีเวนต์ต่างๆ เขามีความสุขเสมอ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68