posttoday

EMARBLE นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างจากเปลือกไข่

01 เมษายน 2560

ใครจะคิดว่าเปลือกไข่เหลือทิ้ง สามารถเอามาทำเป็นหินอ่อนใช้สำหรับงานออกแบบ และเป็นวัสดุก่อสร้างได้

โดย...วรธาร ภาพ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 ใครจะคิดว่าเปลือกไข่เหลือทิ้ง สามารถเอามาทำเป็นหินอ่อนใช้สำหรับงานออกแบบ และเป็นวัสดุก่อสร้างได้ ซึ่งนอกจากสวยงามแล้วยังแข็งแรงทนทานด้วย

 มารู้จักนวัตกรรมนี้ชื่อว่า อิมาร์เบิล (EMARBLE) นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างจากเปลือกไข่เหลือทิ้ง

 ผลงานการวิจัยของ รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ภาควิชานวัตกรรมอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะ 

 อิมาร์เบิล เป็นวัสดุหินเทียมทำจากเปลือกไข่ไก่เหลือทิ้งจากโรงงานแปรรูปไข่เหลว โดยใช้เปลือกไข่ประมาณ 1,600 ฟอง/1 ตร.ม. (9 กก.)

EMARBLE นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างจากเปลือกไข่

 เนื่องจากเปลือกไข่ไก่มีส่วนผสมของแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ถึง 95% สามารถใช้เป็นฟิลเลอร์ (Filler) ในกลุ่มโพลีเมอร์ (Polymer) ได้เป็นอย่างดีและช่วยลดต้นทุน จึงเป็นแนวทางในการนำเปลือกไข่มาผสมผสานเพื่อเป็นหินเทียมคุณภาพสูงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

 วัสดุอิมาร์เบิลนี้สามารถนำไปใช้ในครัวเรือน ร้านค้า อาคารสาธารณะ โรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงาน ตัวชิ้นงานทำจากวัสดุอิมาร์เบิลมีเนื้อวัสดุ Homogeneous สามารถขัดซ่อมแซมได้

 รวมถึงนำไปใช้สร้างชิ้นงานลักษณะอื่นได้ เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ปรับสีได้หลากหลาย และใช้แทนวัสดุก่อสร้างสำหรับงานในอาคารได้ เช่น กระเบื้อง โมเสก และหินสังเคราะห์ เป็นต้น

 การนำมาขึ้นรูปเป็นที่นั่งรูปไข่ ขนาดมาตรฐานสูง 42 ซม. ใช้วิธีการขัดโดยที่ไม่ใช้โครงสร้างอื่นใดนอกจากตัววัสดุเอง เพื่อแสดงศักยภาพความแข็งแรง และเลือกใช้สีเอิร์ธโทนเพื่อแสดงความรู้สึกที่เป็นมิตรของวัสดุ พื้นผิวเก้าอี้มีความเป็นธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกที่ดีต่อผู้ใช้อีกด้วย

 รศ.ดร.สิงห์ กล่าวว่า นวัตกรรมนี้เป็นความใหม่ระดับนานาชาติ และยังไม่เคยมีการพัฒนาหินเทียมจากเปลือกไข่เพื่องานก่อสร้างเชิงอุตสาหกรรมมาก่อน

 เนื่องจากเป็นขยะที่เกิดกลิ่นเหม็นอย่างรวดเร็วและต้องใช้ปริมาณมาก อีกทั้งเยื่อบางในเปลือกไข่ (Double Shell Membrane) ทำให้ยากต่อการปรับขนาด ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาวัสดุคอมโพสิต

EMARBLE นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างจากเปลือกไข่

 "สำหรับกระบวนการในการผลิตจะนำเปลือกไข่เหลือทิ้งมาตากแดด 3 ชั่วโมงก่อนการอบ เพื่อลดการใช้พลังงานและดับกลิ่น แล้วจึงนำมาบดหยาบเพื่อให้ได้เทกซ์เจอร์ของเปลือกไข่ที่ชัดเจน หลังจากหล่อเป็นแผ่นซึ่งมีผิวขรุขระจะนำมาขัดเรียบ ซึ่งต้องใช้เวลานานเนื่องจากเปลือกไข่มีความแข็ง” รศ.ดร.สิงห์ กล่าว

 แนวคิดและไอเดียอันบรรเจิดนี้ รศ.ดร.สิงห์ เล่าว่า ด้วยความที่เป็นสถาปนิกที่ชอบเก็บวัสดุเหลือทิ้งจากไซต์ก่อสร้าง โรงงานและชุมชน เพื่อเอามาพัฒนาเป็นวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว และหลายปีที่ผ่านมา ก็ใช้วัสดุที่เป็นอิฐ หิน ดิน ปูน ต่อมาขยับมาเป็นเส้นใยธรรมชาติ

 ช่วงหลังๆ ทราบว่าประเทศไทยมีโรงงานฟักลูกเจี๊ยบเป็นล้านๆ ตัวต่อวัน มีโรงงานทำไข่เหลว ไข่ผงสำหรับพวกเบเกอรี่อะไรต่างๆ รวมแล้วอาจมากถึง 2 แสนกิโลกรัม/เดือน สำหรับเปลือกไข่อย่างเดียว  

 "พอเหลืออย่างนี้ก็มาคิดจะสามารถทำอะไรได้บ้าง บางคนบอกเอาไปทำปุ๋ย บางคนว่าเอาไปทำอาหารสัตว์ แต่พอเช็กข้อมูลจริงๆ เอาไปใช้ทำพวกนี้แค่ 1% อีก 99% ทิ้งฝังกลบ เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าไข่มันเน่าเร็วและส่งกลิ่นเหม็นมาก ดังนั้น ในฐานะที่เป็นสถาปนิกที่ต้องการวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วก็มองเห็นประโยชน์จากเปลือกไข่ ดีกว่าจะเอาไปฝังกลบก็เอาไปพัฒนาเป็นแผ่นก่อน"

 หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อว่า แผ่นหนึ่งขนาด 1 ตร.ม. จะใช้ไข่ประมาณ 1,600 ฟอง สำหรับเก้าอี้หนึ่งตัวที่เห็นในรูปใช้ไข่ 700 ฟอง เอาเฉพาะเปลือกเท่านั้น ส่วนที่เป็นโปรตีนข้างในที่เป็นเยื่อสีขาวต้องเอาออกให้หมด เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะเอาไปทำเป็นวัสดุก่อสร้าง แต่ประโยชน์ของมันคือเอาไปทำคอสเมติก บำรุงผิวพรรณ ทำอาหารมีคุณค่ามากกว่า

 “ถ้าถามอิมาร์เบิลคืออะไร จริงๆ ก็คือหินอ่อนทำจากเปลือกไข่นั่นเอง ความแข็งแรงสูงมาก เพราะเปลือกไข่มีแคลเซียลคาร์บอเนตธรรมชาติอยู่แล้ว กล่าวคือไก่ทุกตัวกินอาหารเหมือนกัน อายุเท่ากัน เพราะฉะนั้นเปลือกไข่ที่ได้มานั้นเนื้อจึงสมบูรณ์มากเหมือนกันทั้งล็อตเราจึงสามารถควบคุมคุณภาพชิ้นงานแต่ละแผ่นได้"

ข่าวล่าสุด

อีลอน มัสก์ สร้างสถิติเป็นคนแรกของโลกที่รวยเกิน 700,000 ล้านดอลลาร์