ร้อนแล้ว ไม่แคล้ว ‘หัวหิน’
เรียกว่าเป็นสถานที่พักตากอากาศแห่งแรกๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล
เรียกว่าเป็นสถานที่พักตากอากาศแห่งแรกๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว จนถึงวันนี้หัวหินยังได้รับความนิยมในการเป็นเมืองชายทะเลอันดับต้นๆ สำหรับคนไทยที่มาพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะหน้าร้อนช่วงวันปิดเทอม หรือวันหยุดสงกรานต์ที่จะเต็มไปด้วยความคึกคักของผู้คน
ไปเที่ยวทั้งที เรื่องกินเรื่องใหญ่ แม้ว่าทุกวันนี้หัวหินจะมีที่กินที่เที่ยวมากมาย แต่ของกินที่เป็นเอกลักษณ์คู่เมืองหัวหินมานานยังเป็นสิ่งที่ต้องไปลองลิ้มชิมให้ครบ ถึงจะเรียกว่ามาถึงหัวหินจริงๆ
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน (Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin) ซึ่งหากนับตามประวัติศาสตร์ของอาคารสถานที่แล้ว นับว่าเป็นรีสอร์ทแห่งแรกๆ ของไทย ทั้งยังเป็นแห่งแรกของเมืองหัวหินอีกด้วย เมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดปาร์ตี้ยามเช้าพิเศษสำหรับสื่อมวลชน รวบรวมอาหารจานเด็ดจานดังของเมืองหัวหินมาให้ชิมกันในที่เดียว ไปดูกันซิว่า ไปหัวหินห้ามพลาดลองลิ้มชิมอะไรบ้าง
ข้าวผัดรถไฟ
ย้อนไปเมื่อครั้งที่เริ่มมีการเดินทางทางรถไฟมายังเมืองหัวหินตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ก็เริ่มมีบ้านพักตากอากาศของบรรดาเจ้าขุนมูลนาย บรรดาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองไทย ล้วนเริ่มสร้างบ้านหลังที่ 2 นอกกรุงเทพฯ ณ ที่แห่งนี้ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีรถไฟออกจากสถานีธนบุรี การเดินทางโดยรถไฟก็ยิ่งป๊อปปูลาร์ยิ่งขึ้น โดยสมัยก่อนใช้เวลาการเดินทาง 5 ชั่วโมง จึงจะไปถึงเมืองหัวหิน
ตู้เสบียงเป็นความหรูหราที่อยู่คู่กับรถไฟสมัยนั้นและเมนูซิกเนเจอร์ที่เด็ดสุดๆ ต้องเป็น “ข้าวผัดรถไฟ” (Railway Fried Rice) ที่ตีคู่สูสีมากับ “ยำเนื้อรถไฟ” (Thai Beef Salad) โดยข้าวผัดรถไฟนับเป็นเมนูที่ต้องห้าม...พลาด เนื่องจากในยุคนู้นส่วนผสมที่ประกอบขึ้นมาเป็นเมนูนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ต้อง “นำเข้า” มาจากต่างประเทศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเนย ไส้กรอก ซอสมะเขือเทศ รวมทั้งถั่วลันเตา
ในปี 2003 เมนู “ข้าวผัดรถไฟ” ได้รับการบรรจุเข้าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ประจำห้องอาหารเรลเวย์ ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปีของโรงแรม ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันห้องอาหารดังกล่าวจะเสิร์ฟทั้งอาหารไทยและตะวันตก ทว่า “ข้าวผัดรถไฟ” ยังคงเป็นจานยืนพื้นที่ไม่อาจลบเลือนไปจากเมนู
ข้าวมันไก่ลมหวน
เปิดให้บริการสาขาแรกใน จ.เพชรบุรี มากว่า 30 ปี ก่อนจะมาเปิดสาขาที่เมืองหัวหินโดยเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งยังคงเน้นการคัดสรรเนื้อไก่ชั้นดี รวมทั้งส่วนผสมอื่นๆ ที่ใส่ใจคุณภาพ
โดยปกติร้านข้าวมันไก่มักจะนำไก่ตอนตัวอ้วนๆ ดูเนื้อฉ่ำๆ มีแขวนหัวโชว์อยู่ที่ตู้หน้าร้าน หากร้านข้าวมันไก่ลมหวนจะเก็บไก่ให้นอนสบายๆ ในภาชนะอย่างดี เมื่อลูกค้าสั่งจึงนำออกมาหั่นใส่จาน ซึ่งทำให้คงความฉ่ำเอาไว้ได้ดี
ความอร่อยยังอยู่ที่การหุงข้าวที่ใช้ทั้งน้ำซุปไก่และมันไก่ในการหุง เพิ่มความหอมด้วยกระเทียมและขิง ที่หุงไปพร้อมกับข้าวด้วย ข้าวมันไก่ลมหวนเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบรสเด็ด คือ น้ำจิ้มซอสถั่วเหลืองแบบเข้มข้นรสหวานและน้ำจิ้มแบบขวัญใจคนไทยที่แต่งหน้าด้วยพริกและขิงซอย
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีซุปร้อนๆ สำหรับรับประทานเคียงข้าวมันไก่ให้เลือกหลากหลายเมนู อย่างเช่น ซุปไก่มะนาวดอง ซุปฟักกระดูกหมู หรือซุปไก่ตุ๋นยาจีน ฯลฯ
ร้านข้าวมันไก่ลมหวน ตั้งอยู่ที่ถนนเดชานุชิตตัดกับถนนแนบเคหาสน์ (เข้าซอยหัวหิน 57) โทร. 032-513-366 เปิดทุกวันเวลา 07.00-14.00 น.
ข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ
จะชอบหรือไม่ชอบเมนูนี้ แต่ทุกคนต้องรู้จัก “ข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ” ที่ตอนนี้ขายมาจนถึงรุ่นลูกของป้าเจือแล้ว โดยร้านนี้ยังคงสภาพความ “ออริจิ(นัล)” ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นร้านเล็กๆ ข้างวังจุลจักรพงษ์ เมื่อราว 40 ปีก่อน จนกระทั่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นข้างโรงแรมฮิลตัน หัวหิน แล้วก็ตาม
ลอดช่องลุงดำ
ร้านนี้เปิดมาเป็นเวลา 56 ปีแล้ว เป็นลอดช่องสไตล์ลอดช่องสิงคโปร์ รสชาติหนึบๆ ในน้ำกะทิแสนหอมหวาน และน้ำแข็งฝอยเย็นจับใจ ปิดท้ายความหอมด้วยชิ้นขนุนโปะหน้า อะไรจะเหมาะกับหน้าร้อนเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ลอดช่องสิงคโปร์ที่ไม่ได้มาจากสิงคโปร์ หารับประทานได้ไม่ง่ายเท่าลอดช่องน้ำกะทิแบบไทยๆ ความแตกต่างอยู่ตรงตัวลอดช่องที่ไม่ได้ใช้แป้งข้าวเจ้า ทว่าเป็นแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งมอบความหนึบเหนียวเคี้ยวเพลิน
ร้านลอดช่องลุงดำมีรถเข็นอยู่ในตลาดหัวหิน ส่วนใครชอบนั่งกินชิลๆ ให้ไปที่ร้านในซอยหัวหิน 55 ร้านเปิดทุกวันเวลา 10.00-16.00 น.
น้ำดอกอัญชัน
เวลคัมดริ้ง โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน แสดงออกถึงความเป็นไทย ในสัญลักษณ์เก๋ไก๋ แก้วใสรูปช้างโชคดีของโรงแรม
น้ำดอกอัญชัน (Butterfly Pes Flower Juice) ดอกไม้ที่นับเป็นหนึ่งในสมุนไพรไทยโบราณ ที่ดีต่อสุขภาพนานัปการ ตั้งแต่การบำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ นอกจากนี้ โดยตัวของน้ำดอกอัญชันเองจะมีสีน้ำเงินและไม่มีรสชาติใดๆ เมื่อน้ำมาเป็นเครื่องดื่ม จึงมักรับประทานคู่กับน้ำมะนาวที่นอกจากจะช่วยเติมรสชาติและกลิ่นหอมแล้ว ยังเปลี่ยนสีน้ำเงินเข้มๆ ให้เป็นสีม่วงอ่อนแสนสวยอีกด้วย
เครื่องดื่มนี้ทำแสนง่าย แค่นำดอกอัญชันออร์แกนิกไปตากให้แห้งนำมาใส่น้ำต้มสัก 10 นาที คนให้สีน้ำเงินออกมาในน้ำ เติมน้ำตาลตามชอบ ใส่น้ำแข็งหรือแช่เย็นก็ได้ ตอนจะเสิร์ฟบีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย น้ำจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีม่วงอ่อน และได้รสชาติความเปรี้ยว
อาฟเตอร์นูน ที ที่ เดอะ มิวเซียม
ยังกลับจากหัวหินไม่ได้ ถ้าไม่ได้ไปแวะจิบน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea) ในแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ ที่เดอะ มิวเซียม คอฟฟี แอนด์ ที คอร์เนอร์ (The Museum Coffee & Tea Corner) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน เสียก่อน
มุมเก๋ๆ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอาคารสไตล์โคโลเนียลแบบดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยแบบคลาสสิกที่นี่เสิร์ฟชาระดับพรีเมียมของทีดับเบิลยูจี (TWG) ที่มีให้เลือกหลากหลายตามใจชอบ อาทิ ชาเอิร์ลเกรย์ ชาวนิลลาเบอร์เบิ้น ชาดอกซากุระ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีขนมเค้กและเบเกอรี่ที่อบสดใหม่ หอมกรุ่นทุกวัน
เมนูแนะนำคือ สโคนแบบดั้งเดิม เสิร์ฟพร้อมกับเนยและแยมสตรอเบอร์รี่ เค้กโอเปร่า ที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ กาแฟ และช็อกโกแลต หรือบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก โดยทุกๆ วัน เสาร์-อาทิตย์ ยังมีบริการมื้อน้ำชาแบบบุฟเฟ่ต์ เคล้าเสียงพิณจากนักเล่นพิณชาวมิลาโน
เดอะ มิวเซียม คอฟฟี แอนด์ ที คอร์เนอร์ พร้อมเสิร์ฟทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. โทร. 032-512-021-38 อีเมล [email protected]


