posttoday

คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา นักหลงใหลไตรกีฬา

12 มีนาคม 2560

เรานัดพูดคุยกับเจ้าของร้าน Bike Zone สุขุมวิทซอย 26 ที่อุ่นหนาฝาคั่งด้วยจักรยานหลากรุ่น ได้ยินเสียงหมุนเฟือง

โดย...สมแขก ภาพ : คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา

เรานัดพูดคุยกับเจ้าของร้าน Bike Zone สุขุมวิทซอย 26 ที่อุ่นหนาฝาคั่งด้วยจักรยานหลากรุ่น ได้ยินเสียงหมุนเฟืองและล้อจักรยานเป็นระยะๆ เรียกได้ว่าร้านนี้เกิดมาจากความหลงใหลและความรักในกีฬาของ ไตร-คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา จากร้านจักรยานในโซนเล็กๆ Outdoor Unlimited ของอมรินทร์พลาซ่า ด้วยเทรนด์บวกความรักทำให้ปัจจุบันที่นี่เป็นร้านจักรยานและเป็นคอมมูนิตี้ที่ยืนหยัดและมีชื่อเสียงในวงการไตรกีฬาในเมืองไทยมาไม่น้อยกว่า 8 ปีแล้ว

“ผมชอบเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก พอเข้ามหาวิทยาลัยที่อังกฤษก็ทำให้เริ่มชอบปั่นจักยาน เรารู้สึกว่าได้ฟีลของอิสระเหมือนเราได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง สนุกมาก การปั่นจักรยานได้ความเร็ว รู้สึกอิสระ และท้าทายไปในตัว ยิ่งเส้นทางที่แปลกใหม่ก็ทำให้สนุกมากขึ้น ส่วนกีฬาอื่นๆ ก็เล่นมาตลอด ทั้งกอล์ฟ เทนนิส แบดมินตัน เซิร์ฟ เรือใบ รักบี้ กลับมาเมืองไทยก็แข่งเรือใบ”

เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทรนด์สุขภาพเริ่มเข้ามาในเมืองไทย กลุ่มคนทำงานเริ่มให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย และเพิ่มให้เป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ ซึ่งการปั่นจักรยานก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ คงพันธุ์เริ่มคิดว่าจะมาดูแลร้านจักรยานเต็มตัว เพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นผู้บริหารของเกษรกรุ๊ปอยู่

คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา นักหลงใหลไตรกีฬา

“ตอนที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ก็ยังเล่นกีฬาอื่นอยู่ ตีกอล์ฟ เทนนิส แต่พอออกมาทำเต็มตัวแล้วก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย คือลงแข่งขันไตรกีฬา และแข่ง Adventure Racing (การแข่งขัน Multi Sports ประกอบด้วยกิจกรรมการปั่นจักรยาน พายเรือคายัก ปีนหน้าผา ฯลฯ ตามสภาพพื้นที่) ก็เลยลองเล่นและฟอร์มทีมกับเพื่อน พอซ้อมก็ไปแข่งที่ฮ่องกงก่อน เพราะสมัยนั้นเมืองไทยยังจัดไม่เยอะ จากนั้นก็ติดใจ ตอนนั้นเมืองไทยมีปีละหน พอแข่งที่ฮ่องกงกลับมาก็ร่วมมือกับเพื่อนชาวต่างชาติทำบริษัท เอ เอ็ม เอ ซึ่งจัด Adventure Race ในเมืองไทย ทั้งไตรกีฬาและแอดเวนเจอร์ มีคนจัดและสนใจกีฬาพวกนี้มากขึ้น

“ปี 2559 เป็นปีทองของไตรกีฬาสำหรับผม เพราะตลาดไตรกีฬาโตเร็วและมีการจัดแข่งขันบ่อยมาก ซึ่งโดยส่วนตัวสำหรับผม ถ้ามีการจัดงานในเมืองไทยผมลงแข่งทุกรายการที่สามารถไปได้ เราลงรายการไหนได้ก็ลง เพราะเราลงเพื่อความสนุก ไม่ได้ลงแข่งเพื่อล่ารางวัล แต่ละงานถือว่าเป็นการซ้อมไปในตัว ซึ่งเป้าหมายแต่ละปีของผมจะไปงานใหญ่ๆ ระดับโลกปีละ 1 ครั้ง ถ้าไม่มีเวลาก็แข่ง Half Iron Man ปีละ 2-3 หน 

 “งานแข่งที่ตั้งใจซ้อมคืองาน Iron Man ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย 2556 ซึ่งต้องซ้อม เพราะต้องว่ายน้ำ 3.8 กม. ปั่น 180 กม. วิ่ง 42 กม. เพราะฉะนั้นต้องซ้อม ถ้าไม่ซ้อมตายแน่ ก็เป็นงานใหญ่ที่ตั้งใจซ้อม การเดินทางไปแข่งตามรายการใหญ่ๆ สำหรับผมถือเป็นการทำงานด้วย ไปเจอเจ้าของแบรนด์จักรยานที่เรานำเข้า ไปกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เป็นการไปเจอเพื่อนใหม่ในสังคมคนชื่นชอบไตรกีฬา”

เจ้าของร้าน Bike Zone บอกถึงเสน่ห์ของไตรกีฬา คือเป็นกีฬาที่เราไม่ได้ไปแข่งขันกับคนอื่น มองจากภายนอกอาจจะเห็นการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ต่อให้ภาพกำลังสื่อว่าคุณกำลังแข่งขันกับคนอื่นอยู่ แต่บรรยากาศจริงๆ ในสนามเต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก เห็นและได้ยินเสียงของการเอาใจช่วยซึ่งกันและกัน การช่วยผลักดันกันของผู้เข้าแข่งขัน

คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา นักหลงใหลไตรกีฬา

 “เพราะเราอยากให้ทุกคนในสนามเข้าเส้นชัยเหมือนกันทุกคน เราวิ่งอยู่ในสนาม เราไม่รู้หรอกว่าคนนี้กับเราแข่งกันหรือเปล่า เราแข่งอยู่กับตัวเอง ทำเวลาให้ดีที่สุดของตัวเอง พอแข่งจบแล้วค่อยมาดูว่าเราอยู่ตรงไหนของการแข่งขัน สิ่งสำคัญของไตรกีฬาคือเราต้องรู้ตัวเรา และเราตั้งเป้าหมายที่เราไปถึงได้ ไม่เครียดเกินไป

 “ถ้าย้อนกลับไป ช่วงที่ผมซ้อมเพื่อไปแข่ง Iron Man ผมตั้งเป้าไว้ 13 ชั่วโมง ก็ซ้อมเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย ไม่ตั้งเป้าเพื่อกดดันตัวเอง เราจะเครียด เราจะต้องสร้างสมดุล เราทำได้โดยที่ไม่หนักเกินไป พอแข่งจริงก็ได้ตามเป้า ก็คือเอาความสนุกเป็นตัวตั้ง ระหว่างอาทิตย์จะซ้อมช่วงเย็น วิ่งสวน ว่ายน้ำ จักรยานขึ้นเทรนเนอร์ เสาร์อาทิตย์จะใช้ทำอะไรยาวๆ เช่น ปั่นยาว วิ่งยาว เรามีเวลา อาหารการกินปกติ กินเหมือนเดิม ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเราไม่ต้องผอมขนาดนั้น เราไม่ได้แข่งระดับโปร แต่รักษาระดับน้ำหนักให้คงที่ ถ้าเราเบาไปพลังเราก็จะไม่มี ที่มาที่ไปของการเล่นกีฬาเพราะชอบกิน ก็ต้องเอาออก ถ้าไม่เล่นกีฬาน้ำหนักคงเป็นร้อยกิโลแล้วตอนนี้” คงพันธุ์ พูดอย่างอารมณ์ดี

ฝากถึงมือใหม่หัดไตรฯ หนุ่มผู้รักไตรกีฬาคนนี้บอกว่า

“คนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ ที่เล่นได้พักเดียวก็เลิก เพราะเขาเริ่มต้นด้วยการกดดันตัวเอง ลงแข่งเพื่ออยากได้สถิติดีๆ ก็ซ้อมหนัก จนเขาไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ไม่สมดุลชีวิตด้านอื่นให้พอดี แน่นอนว่าถ้าเขาซ้อมหนักเขาอาจจะได้สถิติที่ดี แต่เล่นไม่นานเขาก็เบื่อ บางคนแค่ 2 ปีก็เลิก กลายเป็นว่าสองปีนี้เขาเครียดจนเขาไม่มีชีวิตอื่นเลย ผมว่าจะต้องหาสมดุลที่ถูกต้องให้ชีวิต หาอะไรที่กลางๆ ดีที่สุด หากใครอยากเริ่มต้นไตรกีฬา แต่ไม่รู้จะไปทางไหน ที่ Bike Zone ยินดีให้คำแนะนำ”