posttoday

พิจิตรา เรืองวัฒนไพศาล ผู้บริหารรุ่นใหม่ยิ่งต้องพัฒนาตัวเอง

06 มีนาคม 2560

นอกจากความสวยที่โดดเด่นมีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในเชิงบริหารที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง ไหม-พิจิตรา เรืองวัฒนไพศาล

โดย...วรธาร

นอกจากความสวยที่โดดเด่นมีเสน่ห์แล้ว ยังเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในเชิงบริหารที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่ง ไหม-พิจิตรา เรืองวัฒนไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซน่าร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ SONAR ผ่านทางช่องมัลติแพลตฟอร์ม ทายาทคนที่ 6 ของ วิโรจน์ เรืองวัฒนไพศาล ประธานผู้ก่อตั้งเครือบริษัท โซน่าร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์แบรนด์คนไทยมากว่า 45 ปี โดยมีโรงงานผลิตมาตรฐาน มอก. 2 แห่งอยู่ที่ จ.นครปฐม

สินค้าของโซน่าร์มีประมาณ 5,000 เอสเคยู ประกอบด้วย 5 หมวดหลัก ได้แก่ หมวดความบันเทิงภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี โฮมเธียเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ไอทีและไลฟ์สไตล์ เครื่องเสียงโพรเฟสชันนัล PA และหมวดสินค้าอื่นๆ เช่น จานดาวเทียมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จักรยานไฟฟ้า ฯลฯ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทในเครือมีพนักงานมากกว่า 500 คน

พิจิตราได้ชื่อว่าเป็นความหวังของวิโรจน์ผู้พ่อที่ต้องการให้เข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และสินค้าบางประเภทก็มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอยู่ตลอด เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค จึงจำต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้และความสามารถเข้ามาขับเคลื่อนให้เจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้น ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจไม่ดียิ่งต้องการคนที่มีความสามารถในเชิงบริหารและเชี่ยวชาญด้านการตลาดมาพลิกฟื้นธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง นั่นก็เป็นเหตุผลให้เธอต้องทำงานหาประสบการณ์กับบริษัทข้างนอกเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ก่อนถูกคุณพ่อเรียกมาช่วยธุรกิจครอบครัว

“จริงๆ อยากเป็นนักการเมือง จึงเลือกเรียนรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ตอนปี 4 ก็ได้ออฟเฟอร์งานเป็นโปรเจกต์พิเศษของแฮปปี้ ดีแทค ชื่อแก๊งเป็ดที่ดีแทคคัดเลือกเอานักศึกษาที่มีไลฟ์สไตล์ที่คิดว่าจะเป็นตัวแทนของวัยรุ่น 4-5 คน ที่จะมาเบรนสตรอมผลิตภัณฑ์ของดีแทคที่จะมาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ พอเรียนจบรับปริญญาก็ได้ทำงานกับเอเยนซีหนึ่งดูแลคอมมูนิเคชั่นให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั้งดีแทค โซนี่ อยู่ประมาณ 1 ปี คุณพ่อก็ให้ไปช่วยที่บ้าน”

พิจิตรา ยอมรับว่า การทำโปรเจกต์แก๊งเป็ดของดีแทคและเอเยนซีแห่งหนึ่งทำให้เธอเกิดสนใจในเรื่องมาร์เก็ตติ้งอย่างมาก และรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรต่อไปหลังจากนี้ ดังนั้นหลังจากที่เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัวได้ 2 ปี เธอจึงไปศึกษาต่อปริญญาโท เอ็มบีเอ มาร์เก็ตติ้ง หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทว่าที่น่าสนใจก็คือ การเข้ามาช่วยธุรกิจที่บ้าน ณ ตอนนี้นั้นพิจิตรามีอายุเพียง 22 ปี แต่หนึ่งในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการดิวกับไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่างเทสโก้ โลตัส แม็คโคร คาร์ฟูร์ บิ๊กซี เพื่อนำผลิตภัณฑ์ของโซน่าร์เข้าไปอยู่ในนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าประสบการณ์ในการทำงานของเธอมีแต่ยังน้อยเกินไป และการดิวกับห้างใหญ่ก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จึงท้าทายความสามารถเธอมาก แต่พิจิตราไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวัง

พิจิตรา เรืองวัฒนไพศาล ผู้บริหารรุ่นใหม่ยิ่งต้องพัฒนาตัวเอง

“เดิมช่องทางการจัดจำหน่ายของโซน่าร์เริ่มจาก ดีลเลอร์เป็นช่องทางแรกเลย เพราะเป็นช่องทางที่เกิดก่อน โดยเรามีตัวแทนจำหน่ายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดกว่า 3,000 ราย แต่ต่อมาเมื่อมีกระแสของโมเดิร์นเทรดอย่างแม็คโคร คาร์ฟูร์ บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เข้ามาและเติบโตสูง เราก็อยู่นิ่งไม่ได้ เราต้องไปอยู่ในนั้น ต้องเจาะตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตควบอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งไหมก็เข้าไปดิวกับห้างด้วยตัวเองแล้วสินค้าเราก็ได้เข้าไปอยู่ในนั้น

จากนั้นช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ไหมก็ทำแค็ตตาล็อก ทำออนแอร์ รายการทีวีโฮมช็อปปิ้ง ทำมาร์เก็ตเพลสบนแพลตฟอร์มของพันธมิตรธุรกิจ คือ www.lazada.co.th ล่าสุดเมื่อ พ.ย.ปีที่แล้วไหมได้ทำตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ โดยการพัฒนาระบบช่องทางการซื้อสินค้าออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์มของบริษัท โซน่าร์ เราเอง คือ www.sonarshopping.com พร้อมด้วยช่องทางการชำระเงินทั้งในลักษณะการเก็บเงินปลายทาง รวมถึงบัตรเครดิต บัตรเดบิต และอื่นๆ โดยจะเปิดตัวโซน่าร์ช็อปปิ้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มี.ค. ที่โรงแรมเอส 31 สุขุมวิท”

เธอให้เหตุผลในการทำตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ว่า การดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัลจำเป็นต้องมีการปรับตัวเร็วทั้งในเรื่องของราคาและประเภทสินค้าที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและประเทศใกล้เคียง

“ธุรกิจเราตอนนี้เป็นมัลติแพลตฟอร์ม มีสินค้าโซน่าร์ 5,000 กว่ารายการ มีโซน่าร์ช็อปปิ้งที่ดิลิเวอร์สินค้าโซน่าร์ทั้งหมดให้ถึงมือผู้บริโภคตามแต่ละช่องทาง ลูกค้าตื่นนอนดูมือถือก็เจอโซน่าร์ช็อปปิ้ง เข้าไลน์ก็เจอไลน์ของโซน่าร์ เดินไปที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเข้าไปในห้างก็เจอผลิตภัณฑ์ของโซน่าร์ คือโซน่าร์จะอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกจุด เปิดทีวีโฮมช็อปปิ้งก็เจอเรา เพราะเราเป็นมัลติแพลต ฟอร์มนั่นเอง”

กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซน่าร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โซน่าร์คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักและจะอยู่กับผู้บริโภคตลอดไป เพราะผลิตภัณฑ์ของโซน่าร์ที่ผลิตแต่ละรุ่นแต่ละอย่างนั้นจะมาจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเป็นหลัก

“เราดูว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ไลฟ์สไตล์เป็นแบบไหน แล้วเราก็ดึงเอาความต้องการของผู้บริโภคออกมาพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของเขา ยกตัวอย่างหม้อสุกี้บาร์บีคิวที่ขายดีมาก เราสังเกตว่าผู้บริโภคชอบไปกินบาร์บีคิวพลาซ่า กินเอ็มเค ต้องต่อคิวแทบทุกที่ ในขณะที่ร้านอาหารอื่นโล่ง เรามองว่ามีดีมานด์ตรงนี้คนชอบกินสุกี้บาร์บีคิว แล้วเราก็มองว่าทำไมเขาต้องมาเสียเงินกินข้าวนอกบ้านตลอด เขาอาจอยากกินแบบนี้ที่บ้านกับเพื่อนและครอบครัวก็ได้

เราจึงผลิตหม้อสุกี้บาร์บีคิว เจเนอเรชั่นแรกเป็นหม้อสุกี้ธรรมดา ทำสุกี้ได้อย่างเดียว ต่อมามีชาบูและคนฮิตเราก็ทำหม้อชาบูสุกี้และมีบาร์บีคิวอยู่ข้างบน ตอนหลังมาจับเทรนด์ได้ว่าคนกินบาร์บีคิวกลัวอ้วน เพราะในหมูจะมีมันหมูอยู่ โซน่าร์ก็ออกแบบให้มีช่องรองรับน้ำมันหมู ล่าสุดมีร้านค้าชาบูต้องการรุ่นที่ถอดล้างได้ จะได้ทำความสะอาด เราก็ผลิตรุ่นที่ถอดออกล้างได้ บอกได้เลยว่าทุกผลิตภัณฑ์ก่อนผลิตเราดูเทรนด์ พฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเป็นหลัก”

พิจิตรา ยอมรับว่า ถึงตรงนี้ตัวเองยังต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อนำพาธุรกิจของครอบครัวที่คุณพ่อสร้างมาให้ประสบความสำเร็จและมั่นคง

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี