สถานีสุรศักดิ์ ไปขอความรักที่วัดแขก

โดย...โยโมทาโร่

ยามบ่ายเรานั่งรถไฟฟ้าไปที่สถานีบีทีเอสสุรศักดิ์ เมื่อพูดถึงสถานีแห่งนี้แต่ละคนคงมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็ว่านี่คือย่านออฟฟิศใจกลางเมือง บ้างก็ว่านี่คือแหล่งบันเทิงยามราตรีอันแสนคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ แต่บ้างก็ว่านี่คือแหล่งรวมชาวไทยเชื้อสายอินเดียที่ใหญ่ที่สุด โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่วัดพระศรีอุมาเทวี หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “วัดแขกสีลม”

การเดินทางไปที่วัดแขกสีลมโดยรถไฟฟ้านั้นมีอยู่ 2 สถานีให้เลือกก็คือ สถานีช่องนนทรี และเดินย้อนขึ้นมาทางถนนสีลม แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านสีลมพลาซ่าไปอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงที่หมายอีกสถานีหนึ่งที่ใกล้กว่าก็คือสถานีสุรศักดิ์ เดินผ่านทางถนนประมวลมุ่งสู่ถนนสีลมเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็ถึงเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าสถานีสุรศักดิ์จะใกล้กับวัดแขกสีลมมากกว่า เราจึงเลือกเส้นทางนั้น ถามว่าในเมื่อวัดแขกอยู่ริมถนนสีลมแล้วไม่ลงสถานีศาลาแดงแล้วเดินไปอีกนิด เราบอกได้เลยว่า 1.5 กิโลเมตรนั้นไม่นิดแน่ๆ ลงสถานีสุรศักดิ์แล้วเดินต่อไปอีก 700 เมตร น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ไม่นานนัก เราก็ถึงวัดแขกสีลมต่อให้ใครไม่เคยไปอ่านภาษาไทยไม่ออกก็ต้องรู้ว่าเป็นวัดแขกสีลม เพราะเป็นวัดของศาสนาฮินดูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเต็มไปด้วยชาวไทยเชื้อสายอินเดีย และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาเดินเข้าออกอย่างคึกคักตลอดเวลา โดยเฉพาะหญิงสาวที่นิยมเข้ามาขอพรเรื่องความรัก

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 โดยกลุ่มผู้ศรัทธาชาวอินเดียตอนใต้ รวมเงินทุนทรัพย์ร่วมกันสร้างโดยนำองค์พระแม่ศรีมหามารีอัมมันประดิษฐานเป็นเทพประธาน แวดล้อมด้วยพระพิฆเนศ พระขันธกุมาร พระศิวะ พระกฤษณะ พระวิษณุ พระแม่ลักษมี และพระแม่กาลี มีเทวาลัยขนาดเล็กบริเวณกลางลานเทวสถาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ ส่วนสถาปัตยกรรมของวัดนั้นด้วยวัดนี้สร้างโดยกลุ่มชาวอินเดียตอนใต้ สถาปัตยกรรมต่างๆ จึงยึดเอาตามแบบวัดที่อยู่ในอินเดียตอนใต้เป็นหลัก

พระศรีมหาอุมาเทวี เป็นพระมเหสีของพระอิศวร ซึ่งเป็นทั้งเจ้าแม่กาลี เทพแห่งการทำลาย และเจ้าแม่อุมา เทพแห่งความเมตตา ในวัดนี้จะเป็นร่างเจ้าแม่อุมา จึงมีคนนิยมไปกราบไหว้บูชา และขอพรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรักและการขอลูก ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์นักแล

เมื่อไปถึงแล้ว สิ่งที่ทุกคนควรรู้ก็คือถอดรองเท้าในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ ห้ามถ่ายภาพ ภายในสถานที่ทั้งหมด ถ่ายได้แต่เพียงบริเวณภายนอกเท่านั้น แต่ละคนจะถือถาดเตรียมนม ผลไม้ และดอกไม้ หรือพวงมาลัยดอกไม้ก็ได้ อาหารอื่นห้ามเด็ดขาดจะมีลูกศิษย์วัดคอยให้คำแนะนำ หากไม่เตรียมข้างนอกก็มีขายพร้อมสรรพ วัดนี้เวลาขอพรจากเทพก็ขอท่านได้เลยไม่ต้องบนบานศาลกล่าวว่าถ้าได้จะมอบอะไรเป็นการตอบแทน ถือถาดเข้าไปมอบให้พราหมณ์ ท่านจะเป็นคนนำไปบูชาพระแม่อุมาเทวี รอสักพักท่านกลับมามอบถาดคืนพร้อมของ ซึ่งแล้วแต่ว่าคนไหนจะได้อะไรกลับไป อาจจะเป็นนมหรือผลไม้ และเจิมหน้าผากเป็นสิริมงคล ดูแล้วคล้ายกับพิธีกรรมของศาสนาพุทธ แต่อันที่จริงต้องบอกว่าศาสนาพุทธนั้นรับพิธีกรรมมาจากพราหมณ์ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลมากกว่า

เดินออกจากวัดแขกสีลม ฝั่งถนนปั้นเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 30 เมตร จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟวัดแขก ร้านดังประจำถิ่นชนิดที่เวลาล่วงเข้าบ่าย 2 เข้าไปแล้ว คนยังยืนรอคิวอยู่เต็มหน้าร้าน แม้แดดจะร้อนและเปิดมาตั้งแต่เช้าเจ้าของร้านก็ไม่ได้มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย ยังเสียงใสตอนรับขับสู้ลูกค้าเป็นอย่างดี เมนูเด่นที่แนะนำก็จะเป็นเย็นตาโฟรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม อุดมด้วยปลาหมึกกรอบ เต้าหู้ แมงกะพรุน และลูกชิ้นปลาสดๆ อีกเมนูก็คือข้าวขาหมูเอาใจคนเบื่อก๋วยเตี๋ยวราคาขายอยู่ราว 40 บาท

ออกจากร้านเย็นตาโฟวัดแขก ลองมองซ้ายมองขวาจะเห็นได้ว่ามีร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่อยู่ราว 5 ร้าน ตั้งในบริเวณใกล้เคียงกัน ถ้าเดินไปตอนเช้าก็จะได้กลิ่นขนมปังอบสดใหม่จากเตาคลุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมลูกค้าต่อคิวซื้อกันเนืองแน่น ก็ใครจะอดใจไหวกับกลิ่นเนยและแป้งอบหอมๆ ใหม่ ว่างๆ ก็ลองมาเที่ยวย่านนี้ดูบ้าง แนะนำว่าให้มาช่วงประมาณ 10 โมงเช้าเข้าวัดแขกสีลม ตามด้วยร้านก๋วยเตี๋ยวและจบด้วยร้านขนมปังเป็นย่านที่มาแล้วสบายใจสบายท้องแน่นอน