คหบดีดังอุดรฯแจกอังเปาตรุษจีนคนนับหมื่นต่อคิว
"ปรีชา ชัยรัตน์"คหบดีดังอุดรธานีเปิดบ้านแจกอังเปาตรุษจีนคนนับหมื่นแห่มาต่อคิว เผยคติ"ทำดีเท่าที่ทำได้"
คหบดีดังอุดรธานี"ปรีชา ชัยรัตน์"เปิดบ้านแจกอังเปาตรุษจีนคนนับหมื่นแห่มาต่อคิว เผยคติ"ทำดีเท่าที่ทำได้"
เมื่อวันที่27ม.ค.2560 นายปรีชา ชัยรัตน์ คหบดีชื่อดังของอุดรธานี เปิดบ้านพัก“สำลีเงิน” เลขที่ 599 ถ.นิตโย ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานีแจกอังเปาตรุษจีนให้แก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และคนยากจน ที่มารอรับตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นประจำมากว่า 36 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร ต้องมาจัดระเบียบปิดการจราจรเส้นคู่ขนานไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดผ่านเข้าออก
สำหรับอังเปาในปีนี้เป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท 2 ฉบับ บรรจุในซองสีแดง เพื่อมอบให้คนละ 1 ซอง สำหรับเด็กที่มากับพ่อแม่ผู้ปกครอง ก็จะได้รับเพิ่มอีก 1 ซองเช่นกัน รวมแล้วบรรจุซองไว้ 2,000,000 บาท แต่หากไม่พอนายปรีชาก็จะนำมาบรรจุซองเพิ่มอีก คาดว่าอังเปาทั้งหมดปีนี้จะมากกว่า 5 ล้านบาท
นายปรีชา ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า ปีนี้เตรียมเงินไว้แจกอังเปาประชาชน 2 ล้านบาท ซึ่งแจกมาตั้งแต่ตอนอายุประมาณ 30 ปีเศษ ซึ่งเริ่มจากช่วงตรุษจีนสมัยก่อนมีคอกม้าเลี้ยงม้าไว้ก็มีคนเลี้ยงม้าเดินมาหา บอกว่าจะขออังเปาวันตรุษจีน ก็ควักเงินสดให้ไป 200 บาท จากนั้นคนเลี้ยงม้าก็ไปบอกพรรคพวกให้มารับอังเปา คนก็แห่กันมาขออังเปา ตนก็เริ่มแจกอังเปาให้ไปเรื่อยคนละ 200 บาท ไม่รู้ว่าแจกให้กับใครบ้าง เห็นว่ามันไม่เป็นระเบียบจึงใส่ซองให้ทุกคนเท่าๆกัน
"เราทำได้เท่าที่เราทำได้ ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง หรือทำเพื่อหวังอะไรทั้งสิ้น เราทำได้ เราต้องไม่เดือดร้อน เราถึงทำ ถ้าทำแล้วเราเดือดร้อนเราอย่าทำ จากนั้นก็แจกอังเปาขยายมาเรื่อย ขณะที่ธุรกิจของเราก็ดีขึ้นมาตลอด ประชาชนก็มากขึ้น ทุกอย่างเหมือนกับว่าฟ้าบันดาลให้ต้องทำอย่างนี้ ฟ้าลิขิตมาให้ต้องทำเช่นนี้ และก็ไม่เคยปฏิเสธเรื่องการทำบุญ เพราะถือว่าคนเราเกิดมาก็ด้วยบุญ เมื่อเกิดมาก็ต้องทำบุญให้กับคนที่อ่อนด้อยกว่าเรา ซึ่งก็จะเป็นความสุขทางใจของเรา"นายปรีชากล่าว
ความรู้สึกของเราก็ไม่มีอะไร ไปไหนมาไหนคนเดียว ทุกคนรู้จักตน ไม่มีศัตรู ไม่ต้องมีมือปืน ไม่ต้องมีคนติดตาม จะกลับบ้านตอนไหนก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ คนรู้จักตั้งแต่สามล้อ ไปจนถึงเศรษฐี นั่นคือสิ่งที่เป็นความสุขทางใจ วันนี้คนมารับอังเปาเยอะก็ดีใจ เพราะเราตั้งไว้แล้วว่าจะทำบุญ เมื่อเราทำบุญแล้วอย่าคิดอย่างอื่น แล้วทุกอย่างจะได้บุญกับเราเอง ถ้าเราคิดตั้งใจทำบุญเพื่อเอาหน้า แบบนั้นไม่ได้บุญหรอก ก็จะทำแบบนี้ต่อไปจนตนตาย หรือตัวเองทำอะไรไม่ได้แล้ว ปีนี้ก็อายุ 67 ปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำบุญแบบนี้ให้กับชาวบ้านได้อีกกี่ปี
“หลังจากนั้นลูกหลานจะสานต่อหรือไม่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ผมคงไปชี้ไม่ได้ว่าเขาจะต้องทำแทนผม เป็นเรื่องที่ว่าจุดเริ่มต้นขึ้นมา เพราะผมเห็นแก่ลูกน้อง ซึ่งเห็นว่าตรุษจีนเป็นวันดีก็ให้เขา ต่อไปลูกหลานเขาจะทำหรือไม่ทำ ผมก็ไม่รู้ ผมเพียงแต่สั่งลูกหลานว่า หากผมสิ้นไปแล้ว ให้เผาผมนะ จะสวดพระกี่วันก็ตามใจ เมื่อเสร็จแล้วก็เผาผมไป แค่นั้นก็จบแล้ว ไม่ต้องเอาผมไปฝัง เพื่อไม่ให้เกิดภาระว่า วันเช็งเม้งจะต้องมาไหว้ วันครบวันตายต้องมาไหว้ เพราะสถานการณ์ในอดีตมันต่างกัน ทุวันนี้ทุกคนต้องทำงานของแต่ละคน มันคงไม่มีเวลาว่างพอที่จะมารวมญาติเหมือนในอดีต”นายปรีชากล่าว
สำหรัยนายปรีชาถือเป็นพี่คนโตของ “ตระกูลชัยรัตน์”รับหน้าที่สารต่อธุรกิจโรงงานน้ำตาลเริ่มอุดม จากพ่อ จนเจริญเติบโตมาถึงปัจจุบัน และสร้างเครือข่ายธุรกิจใน จ.อุดรธานี ที่ปรากฏคือ โรงแรมบ้านเชียง , สนามม้าอินเตอร์สปอร์เกมส์อุดรธานี , ตลาดเริ่มอุดม , ฟาร์มเพาะพันธุ์วัวอเมริกันบาร์มัน พีซี.แรนท์ และมีที่ดินทำเลทองหลายแห่ง ซึ่งธุรกิจได้วางมือให้คนอื่นดูแลบ้างแล้ว จากอุปนิสัยช่วยเหลือผู้อื่น สนับสนุนองค์กรภาครัฐ เอกชน และสาธารณะกุศล ทำให้ได้รับความนับถือ รับเลือกเป็นประธานศาลเจ้าปู่-ย่า มากที่สุด 5 สมัย , เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า และรับยกย่องเป็นประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิฯตลอดชีวิต และเป็นผู้มีส่วนสำคัญทำให้เกิด “ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีนอุดรธานี” มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท.


