เข้าใจ ‘ปมความโกรธ’
ใครๆ ก็เคยโกรธ จริงๆ เราต่างคุ้นเคยกับความโกรธและใช้ความโกรธแก้ปัญหาอย่างไม่เข้าท่า
โดย...ดร.ต้อง เดอะ ฟิลเตอร์ ภาพ เอพี
ใครๆ ก็เคยโกรธ จริงๆ เราต่างคุ้นเคยกับความโกรธและใช้ความโกรธแก้ปัญหาอย่างไม่เข้าท่า จนหลายครั้งก็รู้ว่าที่ทำมันแรงไป แต่เราทำไปแล้ว พอโกรธแล้วมันก็ให้ผลยาว เราเพิ่งเห็นหลักฐานบานปลายของความโกรธเพียงชั่วครู่ และต่างเคยคิดว่า ถ้าเรายั้งมันได้ เราจะไม่ทำมัน “ขนาดนั้น”
เพราะความโกรธ มันไม่ได้มีแค่อากัปกิริยา แต่ยังมีอารมณ์พลุ่งพล่านของความขุ่นเคืองหรือความเดือดดาล กลายเป็นคำพูดร้ายๆ ต่อฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่จริง หากมีเวลาสะกดใจตัวเอง เราก็ไม่ได้คิดขนาดนั้นต่อเขา แต่มันเอาคำพูดกลับคืนไม่ได้ และที่เห็นประจำคือ อีกฝั่งหนึ่งจะทวนสิ่งที่เราเคยพูด เคยโกรธ เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้น กลายเป็นกำแพงความสัมพันธ์หนากว่าเก่า
ความโกรธเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมันก็มีประโยชน์ หากใช้ถูกที่ ถูกเวลา ความโกรธพอดีๆ ทำให้เราปกป้องคนที่เรารักจากอันตราย ทำให้คนอื่นหยุดทำสิ่งไม่ดีที่ส่งผลเสีย คนสุขภาพจิตดีไม่ใช่ไม่เคยโกรธ แต่บริหารความโกรธได้เก่ง
ความโกรธที่เกินเลยการควบคุม จะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าต่อหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์รวมถึงคุณภาพการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ต้องเอามาครุ่นคิด หงุดหงิด บ่น อารมณ์เสียกับเรื่องรอบตัว จนบางทีสิ่งที่ควรทำก็เลยไม่ได้ทำ ชีวิตก็ไม่พัฒนาขึ้น คนรอบข้างก็พลอยหงุดหงิด อารมณ์เสียตามคนโกรธไปด้วย จนบ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ที่อาจเกิดจากบุคคลคนเดียว
หากเรากำลังตกเป็นเหยื่อของอารมณ์ ที่มีอำนาจทำลายล้างสูง ชื่อ “ความโกรธ” เราจะเป็นคนที่เริ่มควบคุมตัวเองให้หยุดโกรธไม่ได้ คนที่เป็นเหยื่อของความโกรธ ระดับการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตจะสูงขึ้น เราจะไม่ได้มีปัญหาแค่กับคนรอบข้าง แต่จะมีปัญหาวิตก กลัว เครียดสะสม จนเป็นโรคเครียด นอนไม่หลับ โรคหัวใจ ไปถึงโรคมะเร็ง ฯลฯ
สาเหตุที่บางคนโกรธมากกว่าคนอื่น เกิดได้จาก
หนึ่ง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความโกรธ ผู้นำหรือสมาชิกสำคัญในบ้านมักใช้ความโกรธแก้ปัญหา และเขาอยู่ในสภาวการณ์แบบนั้นตั้งแต่เด็ก เห็นซ้ำๆ จนชิน จนกลายเป็นนิสัย ที่ต้องโกรธก่อนจะแก้ปัญหาอะไรในชีวิตได้
สอง ความเจ็บปวดในชีวิตที่สะสม และไม่เคยสะสาง จนกลายเป็นปมปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ บางคนกดเก็บไว้จนไม่รับรู้ มีแต่ความโกรธที่รู้สึกได้ ดังนั้นเมื่อมีสิ่งเร้าที่ทำให้นึกถึงเรื่องที่เจ็บปวด เช่น คนคนหนึ่งวัยเด็กเคยถูกคุณพ่อคุณแม่ทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพังโดยไม่บอกก่อนบ่อยๆ พอโตขึ้น เพื่อนผิดนัด ลืมบอกว่าจะมาสาย เขาอาจโกรธได้เป็นวันๆ หรือสามารถตะโกนด่าเพื่อนตรงนั้นได้เลย เป็นต้น
สาม ความรับผิดชอบที่หนักเกินตัว สถานการณ์รอบตัวที่เปลี่ยนแปลงพร้อมๆ กันโดยไม่ได้ทำใจมาก่อน รวมถึงความไม่เป็นธรรมในชีวิต ยิ่งที่เกิดซ้ำๆ จะทำให้กลายเป็นคนมีนิสัยเกรี้ยวกราด ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สี่ อยู่กับคนที่โกรธจัด และรับอารมณ์คนที่โกรธจัดบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นนายงาน คู่สมรส หรือคนสำคัญที่เราต้องใช้เวลาด้วยมากๆ เราเองก็อาจจะกลายเป็นคนขี้โกรธได้ไม่ยากเย็น
ความโกรธไม่ได้มีแต่กรณีข้างต้น ที่แสดงออกมาเป็นนิสัยเกรี้ยวกราด แต่ยังมีแบบที่หลบอยู่ข้างใน เก็บเอาไว้จนกลายเป็นความเครียดสะสมเรื้อรัง และความซึมเศร้า คนที่โกรธแล้วเก็บนานๆ มักส่งผลต่อการนอนหลับ การทำกิจวัตรประจำวันที่เชื่องช้าลง รู้สึกเหนื่อยง่าย รวมถึงไม่สามารถรับประทานอะไร จนอาจรวมไปถึงการหมดสมรรถภาพทางเพศ ความโกรธแบบหลบใน ก็ให้ผลไม่ต่างจากความโกรธที่แสดงออกมาเกิน เพราะความโกรธทั้งสองแบบทำให้ชีวิตขาดสติ ขาดสมาธิ บางรายที่เจอ นั่งรถเมล์กลับบ้าน แล้วเลยไปเป็นกิโล ยังจำไม่ได้เลยว่า เลยบ้านมาไกล เพราะเครียดจนลืมว่าตัวเองกำลังทำอะไร? อยู่ตรงไหนก็เป็นได้
ความโกรธสะสม จึงเป็นอารมณ์ร้ายที่ต้องได้รับการเยียวยาแก้ไข ไม่งั้นถ้าปล่อยไว้จะเป็นพลังทำลายล้างชีวิตได้ไม่แพ้โรคร้าย ซึ่งเจ้าตัวมักเห็นภัยมหันต์ของมันในวันที่สายไปแล้ว
คนที่มีปัญหาความโกรธ จึงควรเรียนรู้ที่จะเปิดใจพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการเยียวยา รวมถึงเข้าใจเทคนิควิธีในการดูแลตัวเอง เมื่อโกรธ สำคัญที่สุดคือ ความเจ็บปวดที่เราเก็บไว้ข้างใน และไม่ยอมทำความเข้าใจกับมัน ตามหลักจิตวิทยา ความโกรธเป็นอารมณ์เบื้องต้นที่มีฐานจากความกลัวและความเจ็บปวดซ้ำๆ ในชีวิต ที่เราไม่ยอมเปิดใจคุย ไม่ยอมคลายถุงอารมณ์สะสม จนรับรู้แต่ความโกรธ และกลายเป็นคนที่มีอีคิวต่ำ หรือเรียกว่าบริหารอารมณ์ไม่เป็น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่โกรธได้ง่ายๆ เอาอารมณ์ตัวเองลงยาก รวมถึงโกรธหลบใน จนมีผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ผมแนะนำให้ไปหาโค้ช ที่ปรึกษา นักจิตวิทยา เพื่อเรียนรู้การเปิดใจคุย และค่อยๆ ทำความเข้าใจกับที่มาของความโกรธของคุณ ซึ่งก็คือความเจ็บปวดซ้ำๆ ในชีวิตนั่นเอง
เพราะความโกรธไม่ได้เกิดขึ้นมาได้เอง ต้องมีความกลัวและความเจ็บปวดในชีวิตเป็นฐานรองรับ หากเราเข้าใจปมของมัน เราจะเยียวยาตัวเองได้ในที่สุด


