ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ - ปวารา อภิลพูลลาภ ขั้วเหมือนที่ดึงดูดกัน
เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่สองสาวที่นิสัยแสนจะเหมือนกันคบหาผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งฤดูรัก ฤดูร้าว ของกันและกันมาหลายปีดีดัก
โดย...สมแขก ภาพ... ภัทรชัย ปรีชาพานิช
เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่สองสาวที่นิสัยแสนจะเหมือนกันคบหาผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทั้งฤดูรัก ฤดูร้าว ของกันและกันมาหลายปีดีดัก เรากำลังพูดถึงนักแสดงสาว หยก-ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ และ นุคนิค-ปวารา อภิลพูลลาภ ที่สนิทซี้จนกลายเป็นหุ้นส่วนในหลายเรื่องในชีวิต และล่าสุดเธอสองคนก็ลงทุนทุบกระปุกร่วมลงขันกันเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Otaru ที่อารีน่า 10@ ทองหล่อ 10 ไปหมาดๆ นี่ก็เพราะชอบตระเวนกินอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ทั้งคู่จึงอยากมีร้านของตัวเอง
จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ 10 ปี เกิดขึ้นง่ายมากเหมือนมองตาก็ปิ๊งกัน นั่นเพราะนิสัยที่ห้าว ตรง โผงผาง เปิดเผย การเจอกันครั้งแรกของสองสาวจึงต่อกันติดทันที และแม้ในระยะแรกที่ยังไม่ได้สนิทสนมกันขนาดเข้านอกออกในบ้านกันและกันได้ แต่ด้วยชะตาที่ต้องกัน ทำให้การเจอะเจอกันในครั้งต่อๆ มา ก็ค่อยๆ สร้างสัมพันธ์ที่ดีและยืนยาวมาจนถึงวันนี้
เมื่อ ‘นุคนิค’ สาวรุ่นพี่ พูดถึง ‘หยก’ เพื่อนซี้รุ่นน้อง
“กับหยกเรารู้จักกันเพราะว่าเพื่อนของนุคนิคแนะนำให้รู้จักกัน น่าจะประมาณสิบกว่าปีที่แล้วเลยค่ะ ตอนแรกเราเห็นหน้าน้องก็เออ...ถูกชะตา ถึงมันจะหน้าเหวี่ยงนิดๆ มันเหมือนมีเคมีบางอย่างที่บอกว่าไอ้คนนี้น่าคบ และพอเราสังเกตก็เห็นว่า เอ้ย! น้องคนนี้มันนิสัยคล้ายๆ เรา คือเราสองคนชอบอะไรคล้ายๆ กัน ในแนวทางของผู้หญิงแบบสาวๆ ที่เขาคบกันได้ แต่มุมต่างมีไหมก็มี แต่เรามารู้ลึกรู้จริงเมื่อคบกันไปสักพักแล้ว (หัวเราะ) แต่นิสัยโดยรวมแล้วเราเหมือนกัน จะว่าแมนก็แมนในความตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ถูกใจอะไรก็บอกก็เตือนกันตรงๆ ทำให้เราไม่ค่อยมีอะไรทะเลาะกันเท่าไร
“หยกเป็นคนตรงๆ มีอะไรตรงๆ เราไม่ได้เจอกันบ่อย แต่เจอทีไรก็ต่อกันติด ความต่าง เราชอบกันเลย เจอกันทุกครั้งก็พูดคุยเล่นกันได้ เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่มีช่วงไม่ได้เจอกัน เราอัพเดทชีวิตกันก็ต่อเมื่อมาเจอกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะเล่าพรั่งพรูออกมา เป็นยังไง มีหนุ่มไหม ถามถึงครอบครัว เราก็ไปบ้านเขาบ่อย คุณแม่ชอบทำกับข้าวให้กิน ส่วนตัวเขาเองก็เป็นน้องที่มีน้ำใจ และมีอะไรก็คุยได้ บอกได้ ไม่ดื้อ (หัวเราะพร้อมกับเสียงแทรกของหยกว่าดื้อเงียบ) แต่โดยรวมแล้วเขาจะรับฟังคำตักเตือนของเรา และต่างฝ่ายต่างรับฟังกันทำให้ไม่เคยมีเรื่องเคืองใจกันเลย”
เมื่อถามถึงช่วงที่อีกฝ่ายมีมรสุมข่าวคราวเรื่องความรัก นุคนิค ตอบว่า “เราถือเป็นคนหนึ่งที่รู้เห็นในความรักครั้งนั้นของเขาตั้งแต่เริ่มต้น พอรู้ข่าวก็ต้องเป็นห่วงตามประสาคนที่ใกล้ชิดกัน แต่ช่วงที่เขาเจอปัญหาจริงๆ เราคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เขาต้องตัดสินใจเอง นุคแค่ให้กำลังใจ เพราะเราก็อยากให้เขาได้คิดด้วยตัวเอง ซึ่งความเป็นห่วงอาจจะมีถามไถ่จากคนรอบข้างและส่งกำลังใจบ้าง เราจะรอให้เขาเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน รวมถึงจิตใจของเขาเอง เราก็ค่อยนัดเจอกัน หลังจากนั้นก็จะชวนเขาไปปฏิบัติธรรมมาตลอด เพราะเราอินสายนี้ แต่เขาก็ยังไม่พร้อม สุดท้ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ชวนได้สำเร็จ เขายอมมาแค่หนึ่งวันก็ดีใจมาก (ลากเสียงยาว) คือเราอยากเห็นภาพนี้มานานแล้ว (หัวเราะ)”
‘หยก’ เปิดใจอะไรทำให้รัก ‘นุคนิค’
“ตอนที่พี่นุคชวนมาทำร้านโอตารุ เราก็ตกลงทันที เพราะหนึ่งอยากมีธุรกิจอาหาร และสองพี่นุคเคยมีประสบการณ์และเราเชื่อใจกัน เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันในระยะยาว สิ่งที่ทำให้เรารักเขาเลยคือ เราสองคนเป็นคนห้าวๆ เหมือนกัน ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็บอกกันตรงๆ ไม่แอ๊บ ไม่เสแสร้ง คนที่มันคลิกกัน ต่อให้เจอกันหรือไม่เจอกัน พอมาเจอกันอีกครั้งก็จะต่อกันติดทันที หยกกับพี่นุคก็เหมือนกัน เจอกันนี่โผกอดไม่อายฟ้าอายดิน (หัวเราะ) มีความกรี๊ดกร๊าด เพราะเราไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน เลยคุยกันได้ และโชคดีที่ว่าเวลาเราคุยงานกันหรือธุรกิจกัน แนวคิดของเราสองคนจะไปในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรขัดแย้ง หรือมีอะไรขัดนิดหน่อยเราก็จะจูนกันได้เร็ว
“พี่นุคเป็นคนง่ายๆ สบายๆ กับพี่กับน้องนะ เป็นคนแบบห่วงใยเรา มีอะไรก็เตือนตลอด หยกเป็นคนชอบคนตรง ไม่ชอบคนมีลับลมคมใน เราชอบที่เขาบอกเขาเตือน เพราะเราเคารพเขาเป็นพี่สาว ซึ่งเราเห็นแล้วว่าตลอดเวลาที่คบกันมาเขามีแต่ความหวังดีให้เรา” เมื่อถามถึงความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน มีเสียงหัวเราะจากสองสาว ก่อนที่หยกจะบอกว่า “นอกจากสุขภาพของเจ้แล้ว ในมุมของหยก หยกเป็นห่วงพี่นุคเรื่องชีวิตคู่ เพราะว่าพี่สาวของเรายังโสดอยู่ แม้จะมีหนุ่มๆ เข้ามาบ้าง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ก็มีผลัดกันสกรีนให้บ้าง ก็ปลอบใจกันว่าสุดท้ายก็มาเองแหละ (หัวเราะ)”
“สิ่งสำคัญที่ทำให้มิตรภาพของเรานานขนาดนี้ ข้อหนึ่งคือความจริงใจ เวลาหยกมองหน้าคน เราจะเห็นในแววตาเลยว่าใครจริงใจ ใครเฟก คือถ้าเราให้ใจเขา เขาสัมผัสได้ เขาก็จะให้ใจเรามา แต่หยกไม่ได้ให้กับทุกคน เพราะเราก็เชื่อในเซนส์ของตัวเองด้วย บางคนก็มีเหมือนกันที่เราให้แค่ 50-50 หรือบางคนให้ 70 เหลือไว้ 30 แต่ที่เราเปิดใจให้เต็มร้อยมีน้อยมากๆ ซึ่งพี่นุคก็คือคนนั้น
แต่สิ่งที่หยกยังไปไม่ถึงเขาก็คือพี่นุคเป็นสายธรรมะจริงจัง ล่าสุดเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาเขาชวนเราไปภาวนา ก็ไปนะ เขาดีใจมาก (ยิ้ม) คือเป็นคนแรกที่ชวนเราไปภาวนาแล้วเราไป คือปกติเราทำบุญ ทำทาน ไหว้พระ เป็นเรื่องปกติ แต่เราคิดว่าจิตเรานิ่งไม่พอที่จะไปทำสมาธิ ไปปฏิบัติธรรม คือต้องใช้ใจล้วนๆ ซึ่งหยกสติยังแตกอยู่ คิดว่าไม่สำรวมได้ขนาดนั้น แต่เขาเป็นคนแรกที่ดึงหยกไปได้ ถึงจะเป็นการเจริญภาวนาแค่หนึ่งวันเขาก็ดีใจมาก เพราะปกติหยกติดโทรศัพท์ ทีนี้ไปวันนั้นเหมือนดัดนิสัย เอาเข้าจริงๆ วิธีการและบรรยากาศก็พาเราให้สงบได้ ซึ่งเราก็ทำได้จริงๆ”


