posttoday

กุสุมา ชาวดอน ฝันสู่รันเวย์วิกตอเรีย ซีเคร็ต

27 กันยายน 2559

หลายคนอาจคุ้นใบหน้าคมเข้มสไตล์ไทยแท้ของเธอคนนี้ ในบทบาทนางแบบสาวไทยดาวรุ่งที่อายุแค่ 20 ต้นๆ

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

หลายคนอาจคุ้นใบหน้าคมเข้มสไตล์ไทยแท้ของเธอคนนี้ ในบทบาทนางแบบสาวไทยดาวรุ่งที่อายุแค่ 20 ต้นๆ ก็ได้มีโอกาสโกอินเตอร์ไปเฉิดฉายถึงนิวยอร์กแล้ว แต่เชื่อว่าอีกหลายคนคงคุ้นชื่อของ กุ้ง-กุสุมา ชาวดอน ในฐานะสาวงามที่มีบุคลิกและรูปร่างที่โดดเด่นจากการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปีล่าสุด แม้ปลายทางชื่อของเธอซึ่งเป็นตัวเต็งมาตลอดจะหลุดโผไม่ได้เป็นหนึ่งในสาวงาม 5 คนสุดท้ายที่ได้ไปต่อ เส้นทางความฝันสู่การเป็นนางงามต้องดับมอด แต่ดูเหมือนว่าหนทางสู่การเป็นนางแบบอาชีพในเวทีโลกยังเปิดกว้างรอเธออยู่

จากเด็กกะโปโลสู่นางแบบมืออาชีพ

ย้อนวันวานของนางแบบสาวไทยคนดัง ในวัย 15 ปี เธอมีความสูงถึง 174 ซม. (ปัจจุบันสูง 179 ซม.) ด้วยส่วนสูงที่โดดเด่นนี้เอง เธอจึงมักได้รับการยุยงจากเพื่อนๆ และอาจารย์ให้ไปเป็นนางแบบ แต่เธอเองไม่เคยสนใจ เพราะด้วยความที่เติบโตมากับพี่ชาย ทำให้เธอออกจะเป็นสาวห้าว มีความแก่นแก้ว ไม่อ่อนหวานรักสวยรักงามสักเท่าไหร่

“ตอนเด็กๆ ด้วยความสูงของกุ้ง ถ้าไม่ถูกมองว่าน่าจะไปเอาดีด้านนางแบบ ก็ต้องมาสายนักกีฬา อย่างที่บอกว่ากุ้งโตมากับพี่ชาย เลยดูเหมือนตั้งแต่เด็กจะเอนเอียงมาสายเล่นกีฬามากกว่า แต่ถึงกุ้งจะเล่นกีฬาบ้างก็ไม่ถึงขั้นอยากทำเป็นอาชีพ”

กุสุมา ชาวดอน ฝันสู่รันเวย์วิกตอเรีย ซีเคร็ต

 

ในเมื่อกีฬาไม่ใช่คำตอบ นางแบบไม่ใช่ทางที่เลือกเดิม แล้วความฝันของกุ้งคืออะไร เธอตอบอย่างฉะฉานว่า มีหลายอย่าง ทั้งแอร์โฮสเตส สถาปนิก หมอฟัน และนางงาม

“ฝันที่จะเป็นนางงาม กุ้งว่าเป็นฝันของเด็กผู้หญิงหลายๆ คนนะ แต่เราก็เหมือนได้แค่ฝัน เพราะด้วยรูปลักษณ์ของเรา กุ้งมองว่า เราไม่ใช่พิมพ์นิยมของนางงาม ทุกปีเวลาเราดูข่าวว่าใครได้ตำแหน่ง ก็จะเห็นว่านางงามต้องผิวขาว ซึ่งเราไม่ใช่เลย (ยิ้ม)”

สำหรับอาชีพนางแบบนั้น กุ้งไม่เคยคิดฝันมาก่อน แต่ที่มาโลดแล่นในวงการได้ เพราะคำเพื่อนยุ กุ้งเล่าว่า เธอเริ่มต้นจากการประกวดไทยซูเปอร์โมเดล ตอนที่มาประกวดเหตุผลเดียวเลยคือ รับคำท้าของเพื่อน รางวัลจากการรับคำท้าไม่ได้มีอะไร แค่เพื่อนบอกว่าจะเลี้ยงขนมก็เลยมา พอมาประกวดปรากฏว่ากุ้งติดรอบภาคกลาง ระหว่างรอประกวดรอบต่อไป มีโมเดลลิ่งมาติดต่อกุ้งให้เข้าสังกัดพอดี ตอนนั้นกุ้งคิดว่าเรามาก็ไม่ได้หวังจะมาคว้าตำแหน่งอะไร เมื่อมีโอกาสเข้ามาก็คว้าไว้ก่อน เลยหยุดเส้นทางการประกวดไว้เพียงเท่านั้น

“โมเดลลิ่งที่มาทาบทามกุ้ง มีแค่แห่งเดียวนะที่ทาบทามเราไปเป็นนางแบบ ส่วนอีก 2-3 แห่ง ทาบทามกุ้งไปประกวดนางงาม แต่อย่างที่บอก กุ้งว่าเราไม่ใช่พิมพ์นิยม เลยตัดสินใจมาสายนางแบบดีกว่า”

การตัดสินใจเข้ามาลองทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนนี้ ถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญในชีวิตของกุ้งก็ว่าได้ จากเด็กนักเรียนสายวิทย์ที่มุ่งมั่นจะเป็นหมอฟันให้ได้ ต้องมาเริ่มใส่ส้นสูง เรียนรู้การเดินแบบ หัดโพส หามุมสวยของตัวเองเพื่อใช้ยามอยู่หน้าเวทีหรือหน้ากล้อง

กุสุมา ชาวดอน ฝันสู่รันเวย์วิกตอเรีย ซีเคร็ต

 

“กุ้งเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งปุ๊บวันรุ่งขึ้น มีงานเดินแบบเลย ตอนนั้นยังใส่รองเท้าส้นสูงเดินไม่เป็นด้วยซ้ำ ช่วงที่กุ้งรับงานเดินแบบ ชีวิตเหนื่อยมาก เพราะจากเดิมโรงเรียนเลิกบ่าย 3 กุ้งต้องขอเลิกเร็ว 1 ชั่วโมง เพื่อมาขึ้นรถตู้จากอยุธยามาลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วต่อรถไปทำงาน ทำงานเสร็จ ต้องอย่าให้เกินสามทุ่ม รีบมาขึ้นรถตู้กลับมาอยุธยา”

กุ้งบอกว่า เธอเริ่มต้นใช้ชีวิตทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแบบนี้ตลอด ม.ปลาย แม้เธอจะโชคดีสามารถหารายได้ตั้งแต่วัยเรียน แต่สิ่งที่ต้องแลกคือ เวลาเรียนที่หายไป เธอบอกว่า เวลาเรียนปกติแทบไม่มี เรื่องเรียนพิเศษแทบไม่ต้องหวัง จนกระทั่งตอนที่เพื่อนๆ เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอยังทำงานเพลิน มารู้ตัวอีกทีเพื่อนๆ มีที่เรียนกันหมดแล้ว สุดท้ายเธอเลือกเรียนต่อที่คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)

สร้างโปรไฟล์ในต่างแดน

หลังจากเรียนรู้การเป็นนางแบบมาจากหน้างานจริง อาศัยลองผิดลองถูก ในที่สุด ผลงานของกุ้งก็เข้าตา เมื่อมีเอเยนซีจากต่างประเทศติดต่อมาที่โมเดลลิ่งที่เธอสังกัดอยู่ เพื่อให้เธอเดินทางไปทำงานที่นิวยอร์ก แต่กุ้งในตอนนั้นซึ่งเป็นแค่นักเรียน ม.ปลาย มองว่าตัวเองยังขาดความพร้อม แต่จะปฏิเสธผู้ใหญ่ก็ไม่กล้า จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีการของเธอเอง

“ตอนนั้นถ้าไปคือต้องไป 6-7 เดือน กุ้งคิดว่าตัวกุ้งยังไม่พร้อม เผลอๆ ไปกลับมาอีกทีกุ้งอาจจะเรียนไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ ภาษาอังกฤษเราก็ยังไม่พร้อม ตอนนั้นกุ้งเลยแก้ปัญหาแบบเด็กๆ ด้วยการถามพี่ๆ เวลาไปทำงานว่า ถ้าจะขอวีซ่าไปอเมริกาต้องทำยังไง พี่ๆ เขาก็จะแนะนำว่าต้องตอบคำถามยังไง อย่าพูดอะไร ซึ่งกุ้งเก็บข้อมูลมา แต่เวลาต่อหน้าเจ้าหน้าที่สถานทูตกุ้งทำตรงกันข้ามกับที่พี่ๆ บอกหมด เพราะกุ้งตั้งใจให้วีซ่าของกุ้งไม่ผ่าน ซึ่งก็ได้ผลสุดท้ายก็ไม่ผ่านจริงๆ (หัวเราะ) หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปกุ้งก็ไปสารภาพกับพี่ที่โมเดลลิ่งนะคะ ซึ่งพี่เขาก็โอเคไม่ได้ดุอะไร”

กุสุมา ชาวดอน ฝันสู่รันเวย์วิกตอเรีย ซีเคร็ต

 

หลังจากตัดสินใจทิ้งโอกาสในครั้งนั้น กุ้งยังเดินหน้าเก็บชั่วโมงบินของตัวเองต่อไป เธอเข้าคอร์สฝึกภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อม จนพออายุ 18 ปีเต็ม เธอบอกกับตัวเองว่าพร้อมแล้วที่จะพาตัวเองไปเติบโตในอีกขั้น และแล้วโอกาสก็มาถึง เมื่อเธอได้รับการทาบทามให้ไปเซ็นสัญญากับ วิลเลห์มินา (Wilhelmina) เอเยนซีในนิวยอร์ก ที่นางแบบรุ่นพี่อย่าง สิ-พิชญ์สินี ตันวิบูลย์ ก็เคยสังกัด

“ครั้งนี้พอกุ้งพร้อมจะไป แต่การทำวีซ่ากลับไม่ง่ายเลย เพราะเราเหมือนคนมีประวัติ ต้องสัมภาษณ์ถึง 4 รอบกว่าจะผ่าน แต่วีซ่าว่ายากแล้ว การไปใช้ชีวิตที่นู่น หางานที่นู่นยากกว่า นางแบบที่นิวยอร์กมีเป็นล้าน เราจะทำยังไงให้ได้งาน ทุกวันกุ้งต้องแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการแคสงาน คือ ถึงเราจะมีแผนคร่าวๆ อยู่แล้วว่าวันไหนต้องไปแคสงานไหน แต่ก็ต้องสแตนด์บายให้พร้อมเสมอ ถ้ามีนัดด่วนเข้ามาจะได้ไปเลย

ทุกวันกุ้งต้องเตรียมพร้อมด้วยการเลือกใส่ชุดที่เผยให้เห็นสัดส่วน ไม่ใส่เสื้อคอเต่า เพราะบางงานลูกค้าไม่ได้ดูแต่รูปร่างแต่ยังดูผิวพรรณ ดูว่านางแบบมีรอยสักหรือมีแผลเป็นตรงไหนหรือเปล่า สิ่งที่ต้องมีติดตัวคือ พอร์ตโฟลิโอ   คอมพ์การ์ด (Comp Card) เป็นแผ่นการ์ดที่แสดงรูปภาพและรายละเอียดรูปร่างสัดส่วน พร้อมที่อยู่ของเอเยนซีสำหรับติดต่อ รองเท้าส้นสูง และบิกินี่”

กุ้งบอกว่าช่วงที่ไปทำงานที่นิวยอร์กประมาณ 7 เดือน เธอต้องแคสงานไม่ต่ำกว่าวันละ 10 งาน ช่วงแรกที่ไปเป็นช่วงที่ลำบากที่สุด เพราะไม่คุ้นกับชีวิตใหม่ บวกกับคิดถึงบ้าน เธอเล่าอย่างไม่อายว่าเคยถึงขั้นเดินร้องไห้ระหว่างทางไปแคสงาน ตัดพ้อกับชีวิตของตัวเองว่ามาทำอะไรคนเดียวที่นี่ เธอเคยโดนดักปล้น แต่สุดท้ายเธอก็ผ่านพ้นทุกอย่างมาได้ และได้มีโอกาสทำงานกับนิตยสารและแบรนด์สินค้าต่างๆ มากมายที่นิวยอร์ก

กุสุมา ชาวดอน ฝันสู่รันเวย์วิกตอเรีย ซีเคร็ต

 

หลังผ่านช่วงงานชุกของนางแบบที่นิวยอร์ก เธอก็เดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อเก็บประสบการณ์ต่อ ระหว่างที่กลับมานี้เอง กุ้งเห็นข่าวว่า เมญ่า-นนธวรรณ ทองเหล็ง ได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 เธอยอมรับว่าดีใจไม่น้อย ที่เห็นว่าคนไทยเปิดรับนางงามที่มีผิวสีเข้ม ซึ่งในฐานะเด็กผู้หญิงที่เคยฝันว่าจะเป็นนางงาม เลยมาสานฝันของตัวเอง ด้วยการมาสมัครเข้าประกวด ปรากฏว่าผ่านการคัดเลือกจนเข้ารอบ 40 คนสุดท้าย กุ้งจึงตัดสินใจหยุดรับงานเดินแบบทั้งหมด เพื่อทุ่มเทให้กับการเตรียมความพร้อมสู่เวทีนางงาม

“ตอนนั้นกุ้งเทหมดตักจริงๆ คือเดิมกุ้งมีโปรแกรมจะไปเดินแบบที่ลอนดอน ปารีส มิลาน จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักไปหมดแล้ว แต่พอผ่านเข้ารอบ เราทิ้งทุกอย่าง กุ้งมาด้วยความฝันและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เพราะฉะนั้นตอนที่อยู่บนเวทีและชื่อของเราไม่ติดท็อปไฟว์ สำหรับกุ้งเหมือนทุกอย่างสลายไปตรงหน้าเลยนะ ตอน 3 วันแรกเสียศูนย์ไปเลย ขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วก็กลับไปย้อนดูทุกคลิปการประกวดตั้งแต่เริ่มเก็บตัว พยายามหาว่าผิดพลาดตรงไหน ซึ่งถ้าถามกุ้งจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหน สิ่งเดียวที่กุ้งปลอบใจตัวเองคือ ที่เราไม่ได้ตำแหน่งอาจเพราะเราไม่ใช่ เพราะฉะนั้นในเมื่อเราไม่ใช่ กุ้งถือว่าได้ทำตามความฝันแล้ว เมื่อไม่ใช่ทางของเรา ปีหน้ากุ้งก็คงไม่มาอีก คงไปในเส้นทางนางแบบอาชีพต่อไป”

เธอกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่นว่า จากนี้ความฝันของเธอ คือ การก้าวสู่การเป็นนางแบบวิกตอเรีย ซีเคร็ตให้ได้ เพราะแฟชั่นโชว์ของวิกตอเรีย ซีเคร็ต เป็นประตูบานสำคัญให้เธอรู้จักวงการนางแบบ และอยากก้าวไปให้ถึง

“เพื่อจะก้าวไปถึง สิ่งเดียวที่กุ้งทำได้คือ พยายามเก็บพอร์ต สร้างผลงาน เมื่อไหร่ที่เราเหมาะสม โอกาสจะเข้ามาหาเอง อีกสิ่งหนึ่งที่กุ้งอยากทำควบคู่ไปคือ สร้างชื่อเสียงให้เมืองไทย ในฐานะนางแบบไทยที่ได้ไปโกอินเตอร์ กุ้งอยากให้ต่างชาติได้รู้จักประเทศไทย อย่างน้อยผ่านนางแบบตัวเล็กๆ อย่างกุ้งก็ยังดี” กุ้ง กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68