posttoday

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน

24 กันยายน 2559

5 ปีที่บึงกาฬเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปหรืออาจลืมไปแล้วว่ามี

โดย...กาญจน์ อายุ

5 ปีที่บึงกาฬเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปหรืออาจลืมไปแล้วว่ามี

บึงกาฬไม่มีสนามบิน (สนามบินที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่อุดรธานี ห่างออกไปประมาณ 188 กม.) แต่บึงกาฬก็มีทีเด็ดดึงนักลงทุนด้วย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมระหว่างบึงกาฬกับเมืองบอลิคำไซ ของ สปป.ลาว ยาวไปถึงประเทศเวียดนาม และสิ้นสุดที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถยนต์ไปจีนที่ใกล้ที่สุดในประเทศไทย

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน ตัวลอยบนภูสิงห์

 

หน้าฝนเช่นนี้ บึงกาฬยิ่งเนื้อหอม ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่าง น้ำตก ป่าไม้ และความโดดเด่นทางธรณีวิทยา ที่แว่วมาว่าจังหวัดอาจจะมีสนามบินในอนาคตอันใกล้ เลยต้องรีบไปเที่ยวกันหน่อยก่อนที่บึงกาฬจะบูม

ตามหาวาฬ ภูสิงห์

ภูเขาหินทรายทอดตัวไปตามแนวทิศเหนือจรดใต้ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ และ อ.ศรีวิไล เป็นลักษณะเด่นของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกทำให้เกิดหน้าผา ถ้ำ ลานหิน และกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ กระจายอยู่ทั่วภูสิงห์

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน น้ำมากหน้าฝน น้ำตกถ้ำพระ

 

กลุ่มหินแต่ละรูปทรงถูกจินตนาการไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นหินฟีฟ่า หินหัวช้าง หินช้าง หินรถไฟ แต่ที่คนพูดถึงมากที่สุดต้องยกให้ หินสามวาฬ กลุ่มหินที่เหมือนวาฬพ่อแม่ลูกเกาะกลุ่มว่ายอยู่กลางอากาศ เป็นหินทรายขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกเป็น 3 ก้อน บนหลังวาฬสามารถเดินไปชมวิวป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แม่น้ำโขง แก่งสะดอก สวนยางพารา และภูเขาฝั่งเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว

หินสามวาฬเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นมุมแบบ ท็อป ออฟ บึงกาฬ ซึ่งสวยงามแปลกตาในจังหวัด โดยเฉพาะหน้าฝน ถ้าโชคดีมีฝนตกลงมาในคืนก่อนหน้า การันตีได้เลยว่าตอนเช้าคุณจะเจอหมอก หมอกแบบที่ไม่ใช่ทะเลหมอก แต่เป็นหมอกล้วนๆ ปกคลุมทุกคนให้อยู่ในนั้น และไม่นานหลังจากแสงแรกของดวงตะวันเปล่งออกมา หมอกสีควันบุหรี่จะเปลี่ยนเป็นสีทอง ชโลมบรรยากาศยามเช้าให้เป็นเช้าสดใสที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน ต้านแรงน้ำ น้ำตกถ้ำพระ

 

บึงโขงหลงหลังอาทิตย์ตกดิน

บึงโขงหลงเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 13 กม. เดิมที่เป็นสถานที่เก็บกักน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง แต่ในปี 2544 บึงโขงหลงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ อันดับที่ 1,088 ของโลก และถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหล่านักดูนกรู้จักเป็นอย่างดี

บึงโขงหลงเป็นแหล่งอาศัยของนกน้ำกว่า 100 ชนิด และนกอพยพมากกว่า 30 ชนิด รวมถึงสัตว์น้ำหายากอย่างปลาบู่แคระให้ค้นหา ที่นี่เหมาะกับการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก เรือที่ล่องก็เป็นของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลงที่จะมีพี่เจ้าหน้าที่ช่วยอธิบายระบบนิเวศ เช่น ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงริมตลิ่งที่ปรับตัวให้อยู่รอด นกอีโก้งบนปลัก นกประจำถิ่นที่ใช้แหล่งน้ำเป็นที่หาอาหาร รวมทั้งน้ำในบึงโขงหลงยังอธิบายได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำจากภูวัวและภูลังกาไหลมารวมกัน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำสงครามและแม่น้ำโขงในที่สุด

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน นักปั่นมาเยือนหินสามวาฬ

 

ชุ่มฉ่ำกาย น้ำตกถ้ำฝุ่น

ข้ามมาอีกอำเภอที่ อ.บุ่งคล้า เป็นที่ตั้งของน้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกขนาดกลาง สวยงามด้วยสายน้ำตกเส้นตรงดิ่ง ไหลลงมาเป็นบ่อน้ำที่คนสามารถลงไปเล่นได้หากน้ำไม่แรงเกินไป ซึ่งก่อนถึงตัวน้ำตกทุกคนต้องเดินผ่านป่าเขตร้อนชื้นสีเขียวชอุ่มประมาณ 1 กม. และเมื่อพ้นเขตป่าไปจะเป็นลานหินขนาดใหญ่คนละอย่างกับที่เดินมา

ก่อนถึงน้ำตกถ้ำฝุ่น จะมีน้ำตกย่อยๆ แห่งหนึ่ง ต้องเดินตามทางน้ำบริเวณลานหินนั้นขึ้นไปจะเจอกับน้ำตกขนาดไม่สูงมากกำลังเทน้ำจากบนสู่เบื้องล่าง ไหลเป็นลำธารกัดเซาะให้พื้นหินกลายเป็นกุมลักษณ์หลายหลุม แค่ด้านหน้าก็สวยจนต้องหยุดสักพัก ยังไม่ไปถึงไฮไลต์ด้านในอันเป็นที่มาของชื่อน้ำตกถ้าฝุ่นของจริง

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน มองน้ำตกถ้ำฝุ่นผ่านหลืบธรรมชาติ

 

ถ้ำฝุ่นมีลักษณะเป็นชะง่อนหินขนาดใหญ่คล้ายหลังคา ประดิษฐานพระพุทธรูปให้คนมาสักการะ แต่แทนที่พื้นจะเป็นหินเหมือนบริเวณรอบข้าง กลับเป็นดินฝุ่นที่แตกต่างจากที่อื่น ส่วนน้ำตกอยู่เบื้องหน้า เรียกร้องความสนใจให้หันไปมองความแรงของกระแสน้ำที่กระโชกมากในหน้าฝน

อลังการม่านน้ำ น้ำตกถ้ำพระ

ที่สุดของน้ำตกในบึงกาฬต้องยกให้น้ำตกถ้ำพระ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว พื้นที่ อ.เซกา การเดินทางเข้าไปต้องนั่งเรือโดยสารของชาวบ้านเข้าไปยังทางเข้าน้ำตก โดยสองข้างทางได้แล่นผ่านอุโมงค์ต้นไม้เขียวครึ้มตลอด 10 นาที เมื่อถึงท่าเรือต้องเดินผ่านป่าอีก 500 ม. มุ่งตรงสู่ลานหินที่อึกทึกไปด้วยเสียงน้ำกระทบหิน

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน นักท่องเที่ยวนั่งชมน้ำตกถ้ำฝุ่น

 

น้ำตกถ้ำพระตระการตาตั้งแต่ด่านแรก เป็นลานหินสีน้ำตาลเข้มขนาดมหึมา ข้างบนเป็นสายน้ำไหลเชี่ยวเหมือนมีคนมาสะบัดแปรงสีขาว ละเลงให้ลานหินเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำ ซึ่งด้านหน้ายังไม่ใช่ไฮไลต์ ถ้าให้ตาค้างติดใจต้องเดินไปยังด่านหลังที่ซ้อนอยู่

การเดินบนลานหินที่มีน้ำไหลผ่านต้องระมัดระวังให้มาก จากตะไคร่บนหินทรายที่จะทำให้ไถลไปง่ายๆ ถ้าไม่ระวัง แต่! สำหรับคนขาอ่อนและใจไม่กล้าพอจะเปียกน้ำ ก็มีอีกเส้นทางลับให้เดินไปแบบไม่ตื่นเต้น ถ้าหันหน้าเข้าถ้ำพระ ให้เดินเลาะต้นไม้ไปทางขวา จะเห็นทางให้เดินอ้อมน้ำตกแบบไม่เปียก ไม่ลื่น ไม่อันตราย แต่อาจจะทำให้เสียอรรถรสในการชมน้ำตกไปบ้างก็แล้วแต่จะเลือก นำพาไปสู่จุดหมายเดียวกันที่ม่านน้ำตกอลังการที่งดงามเกินคำบรรยาย

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน เทียบขนาดผาหินทรายกับคน

 

ม่านน้ำตกสีขาว พลิ้วไหวทุกวินาที มีละอองน้ำฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ท้าทายให้คนไปอยู่ใต้อาณัติ ซึ่งนอกจากความกว้างใหญ่ของน้ำตก กระแสน้ำยังไหลรุนแรงจนแทบพูดกันไม่รู้เรื่อง พอได้เห็นแล้วมันสะใจสาแก่อารมณ์ที่อุตส่าห์นั่งรถลงเรือเดินเท้ามายังที่นี่

หยุดเล่นน้ำให้หนำใจ จากนั้นขากลับอย่าลืมแวะสักการะพระพุทธรูปที่ถ้ำพระ ประดิษฐานอยู่บนชะง่อนผาอย่างจงใจที่ทำให้เห็นความตั้งใจของพลังศรัทธา

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน ทางเดินผ่านซอกหิน

 

ภูทอก วัดความเพียร

ภูเขาที่โดดเดี่ยวใน อ.ศรีวิไล เป็นความหมายของภูทอก ที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นยอดภู บันไดแบ่งออกเป็น 7 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดขึ้นไปชั้น 3 ที่เริ่มเป็นสะพานไม้เวียนรอบเขา ชั้น 3 มีสองทาง โดยทางซ้ายมือเป็นทางลัดสู่ชั้น 5 แต่เป็นทางชันและต้องผ่านช่องเล็กๆ ระหว่างก้อนหิน ส่วนขวามือเป็นบันไดสู่ชั้น 4

ชั้น 4 เป็นที่พักของแม่ชีทำให้นักท่องเที่ยวต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ จากนั้นชั้น 5 เป็นชั้นที่สำคัญที่สุดเพราะมีพุทธวิหารบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และลักษณะของหินที่แยกตัวออกไปเหมือนพระธาตุอินแขวนที่โด่งดัง ชั้น 6 ถือเป็นชั้นที่ชมวิวสวยกว่าใคร โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่จะเห็นทะเลหมอกอยู่รอบภู สุดท้ายชั้น 7 เป็นชั้นที่มีต้นไม้รกชัดที่สุด ต้องเกาะเกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้ขึ้นไป ซึ่งว่ากันว่ามีงูเจ้าถิ่นอยู่บนนั้นทำให้ไม่มีใครกล้าขึ้นไปลอง ภูทอกเป็นส่วนหนึ่งของวัด ตลอดทางจึงมีคติธรรมคอยเตือนสติ หรืออย่างปริศนาธรรมของบันไดเองก็เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมที่น้อมนำสัตบุรุษให้หลุดพ้นด้วยความเพียรและมุ่งมั่น

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2559 ในรูปแบบของ Green Tourism ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน Tour of Isan ครั้งที่ 2 เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่นิยมปั่นจักรยานมาทำความรู้จักอีสานด้วยตัวเอง ทั้งนี้มั่นใจได้ว่าถนนบึงกาฬดีพอให้ปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย การันตีด้วยนักปั่นที่แห่กันมาทัวร์อีสาน มาซึมซับความสวยงามทางธรรมชาติและเรียนรู้วิถีชีวิตอย่างใกล้ชิด

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน แสงสุดท้ายที่บึงโขงหลง

 

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน สามเณรขึ้นภูทอก

 

คนน่ามา บึงกาฬหน้าฝน พุทธวิหารบนภูทอก

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2