‘โหรทำนายเจ้าชาย ก่อนเป็นพุทธะ’
วันที่เจ้าชายสิทธัตถะอุบัติในโลก พราหมณ์ 108 ได้รับเชิญมาทานอาหารพร้อมทำพิธีกรรมรวมทั้งพยากรณ์
โดย...ราช รามัญ
วันที่เจ้าชายสิทธัตถะอุบัติในโลก พราหมณ์ 108 ได้รับเชิญมาทานอาหารพร้อมทำพิธีกรรมรวมทั้งพยากรณ์ โดยโหรชุดแรกพยากรณ์เป็น 2 ทาง ว่า ต้องได้เป็นมหาจักรพรรดิหรือไม่ก็อาจจะเป็นมหาศาสดาเอกของโลก
แต่โหรโกณฑัญญะพยากรณ์แล้วชี้เปรี้ยงไปในทางเดียว ว่า “ต้องได้เป็นมหาศาสดาเอกของโลก” เป็นผู้เดียวที่พยากรณ์แบบนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับพระเจ้าสุทโธทนะ แต่พระองค์ก็ไม่ว่ากระไร เพราะมองว่าโกณฑัญญะเป็นโหรหนุ่มเด็กๆ ยังขาดประสบการณ์ แต่กระนั้นก็ไม่ได้วางพระทัย คอยกีดกั้นในเรื่องทางธรรม โดยให้ศึกษาศาสตร์ต่างๆ ในด้านการปกครอง จนเป็นเลิศทุกศาสตร์ แต่ทำไม...สุดท้ายเจ้าชายสิทธัตถะจึงทรงเลือกหนทางการออกบวช
เมื่อศึกษาพุทธประวัติ ทำให้เห็นได้ว่า ความเป็นจริงแล้วเรื่องของโหราศาสตร์ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์พอสมควร...แม้แต่องค์ทะไลลามะ เวลาที่จะทำการคัดเลือกคนยังต้องใช้ตำรานรลักษณ์ศาสตร์ผสานกับโหราศาสตร์ หรือแม้แต่กุมารีเทพแห่งเนปาล ก็ต้องใช้หลักโหราศาสตร์ร่วมกับนรลักษณ์ศาสตร์เช่นกัน
ใครหลายคนที่ปฏิเสธเรื่องโหราศาสตร์ โดยมองว่าเป็นเพียงความเชื่อ ถ้าเรามาเปิดใจกว้างๆ แล้วมองให้ทั่วๆ ขบคิดด้วยสติปัญญา อาจจะเห็นอะไรมากกว่าที่รู้ก็เป็นไปได้ เพราะอย่างน้อยหลักฐานจากการที่พระพุทธเจ้า ในวันนั้นที่เป็นเจ้าชาย ยังได้รับพยากรณ์มาแล้วและถูกต้องด้วย
ผมได้มีโอกาสพบกับโหรท่านหนึ่ง ที่ตระกูลมาจากโหรเป็นสายตามลำดับ เพียงท่านชอบอยู่แบบสมถะ และไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่นัก แต่ความแม่นทางด้านโหรศาสตร์บอกได้เลยว่า
ไม่ธรรมดา ขนาดไหนที่ว่าไม่ธรรมดา
พ.ศ. 2554 เป็นโหรคนเดียวที่ออกรายการดัง วู้ดดี้ เกิดมาคุย แล้วฟันธงว่า ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก! อาจารย์นโม ธนินธามธารณ์ (ฉายา โหร DNA) ด้วยความใคร่รู้เลยถามถึงเรื่องของโหราศาสตร์กับความเป็นพระพุทธศาสนา อาจารย์นโม เล่าว่า “ทางด้านหลักวิชาแล้วนั้น โหราศาสตร์ชั้นสูงมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ตั้งแต่เกิดยันตาย ตามตำราวิเคราะห์กันแบบนั้น ลองคิดดูนะว่า ทำไมมนุษย์จึงเกิดต่างที่ ต่างวัน เดือน ปีเกิด ก็เพราะกรรมไง นี่คือความเชื่อมโยงที่หลักวิชาโหรมีมาก่อนแล้วเนินนาน ตั้ง 4,000 ปี
คนบางคนพ่อแม่ยากจน แต่ลักษณะของลูกดวงของลูกดีจะร่ำรวย ซึ่งว่ากันตามหลักของความเป็นจริงแล้ว มันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไป...บางคนเกิดมารวยแต่ดวงผลาญสมบัติสุดท้ายก่อนตายไปนอนอยู่ข้างกำแพงวัดมหาธาตุก็มีให้เห็น เพียงแต่พระพุทธเจ้าทรงสอนพระภิกษุว่า อย่าไปแหงนหน้ากิน คือ อย่าไปยึดทางนี้เลย มันเสียเวลา มาทางที่เราค้นพบดีกว่า ลึกกว่า ไม่ต้องเสียเวลาด้วย พุทธประสงค์อยู่ตรงนี้
เอาตรงๆ นะ ถ้าเรื่องของโหราศาสตร์ไม่มี ไม่ดี และไม่จริง ทำไมเราจึงต้องใช้การนับคำนวณแบบจันทรคติกันอยู่ ผมเคยอ่านพบในประวัติศาสตร์ว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงพระปรีชามากในเรื่องโหราศาสตร์ ในเรื่องของจันทรคติ แล้วต่อมาเชื่อมโยงและมีชื่อเรียกกันตามแนววิทยาศาสตร์ว่า ดาราศาสตร์
ตามความเชื่อของผมแล้ว โหราศาสตร์ นั้นมีอยู่จริง และมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในโหมดเรื่องของกรรม เพียงแต่หลักวิชาของใครจะลึกและเป็นชั้นสูง ของมอญเขาก็มี ของเมียนมาเขาก็มี ของเขมรเขาก็มี”
อาจารย์นโม กล่าวเพิ่มเติมว่า “อย่างผมนับถือพุทธนะ แต่เรียนรู้ศึกษาตำราจากสายคุณทวดมา ผมก็ใช้ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนมาเป็นอุบายในการดำเนินชีวิต คือ พรหมวิหาร 4 ส่วนเรื่องของโหราศาสตร์ ผมก็ศึกษาไว้เพื่อช่วยเหลือสร้างเสริมกำลังใจให้ผู้คน คนชอบมาถามว่า เมื่อไหร่จะรวย เมื่อไหร่จะดี คนเรานี่อันดับแรกเลยต้องหาตัวเองให้เจอก่อนว่ามีพรสวรรค์อะไรในตัวเอง เข้าใจตัวเองในปัจจุบันขณะนี่แหละ บางคนดวงบอกว่าจะดีจะรวย แต่ถ้ามันไม่ทำอะไรเลย มันจะรวยได้อย่างไร ไม่มีทาง อันนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ยึดแบบกำปั้นทุบดิน ต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ให้ชัดเจน ว่า เรื่องของดวงดาวนั้นคืออะไร ผมบอกให้ก็ได้ว่า โหราศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เพราะอีกส่วนหนึ่ง คือ มีเศษบาปเศษกรรมของตัวคุณเองมาร่วมอยู่ด้วยตลอดเวลาทุกวินาที คนเราต่อให้ดวงดีแต่หาความเป็นตัวเองไม่เจอมันก็ไร้ค่า รวยยาก แม้ว่าดวงจะบอกว่ารวยก็ตาม อย่างมากก็กลายเป็นแค่สามล้อถูกหวยเท่านั้น” ขอบคุณอาจารย์นโมที่มาให้ความรู้อีกมุมหนึ่ง
ส่วนท่านที่ต้องการหาตัวเอง เชิญงานสัมมนา “ลมหายใจแห่งความสำเร็จ” ของอาจารย์น้ำตาล ภคพร ในวันที่ 17 ก.ย. 2559 จัดที่ CDC เลียบด่วนรามอินทรา สนใจติดต่อ Line id : Soul of Success หรือโทร.06-3403-5588


