posttoday

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เดินทางตามท้องฟ้า

20 สิงหาคม 2559

ดาราหน้าหวาน ญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์เป็นนักเก็บเกี่ยวท้องฟ้าและสะสมกลิ่นธรรมชาติ เธอเดินทางแบบ

โดย...รอนแรม ภาพ... ญิ๋งญิ๋ง

ดาราหน้าหวาน ญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์ เป็นนักเก็บเกี่ยวท้องฟ้าและสะสมกลิ่นธรรมชาติ เธอเดินทางแบบไร้จุดหมายเพื่อนั่งมองท้องฟ้า และเดินทางลำบากเพื่อให้ใกล้ชิดต้นไม้ใบหญ้า ซึ่งตรงข้ามกับภาพดาราสวยหวานอย่างที่ทุกคนมอง

เส้นทางดารา

เธอเฉียดๆ วงการบันเทิงจากการเป็นนางแบบเมื่อตอนอายุ 20 ต้นๆ (กับความสูง 171 ซม.) จากนั้นเข้าสู่วงการโฆษณา ได้เป็นนางงามในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และสุดท้ายได้เป็นดาราแบบเหนือความคาดหมาย เธอเล่าว่า ได้เริ่มเข้าวงการบันเทิงจากการประกวดดาราหน้าใหม่ของทางช่องวัน ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอเกือบถอดใจไม่กล้าลงสนามเพราะความกลัว

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เดินทางตามท้องฟ้า

 

“เราเคยแคสพวกโฆษณามา เรารู้ว่าการแข่งขันมันสูงมาก แต่คราวนี้เป็นการแคสนักแสดง คนก็ต้องเยอะกว่าอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าไม่ไปดีกว่า แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่าไม่ได้ เรามาถึงขนาดนี้แล้วจะกลับบ้านไม่ได้สุดท้ายก็เลยไปแคส และได้รับคัดเลือกมีโอกาสเป็นดาราอย่างในตอนนี้”

เธอยังกล่าวด้วยว่า อาชีพดาราเป็นอาชีพในฝันของเธอตั้งแต่เด็ก แต่ช่วงที่เดินแบบมาหลายปีเริ่มรู้สึกว่าชอบมัน เพราะเวลาอยู่บนแคตวอล์กจะมีสมาธิอยู่กับตัวเองและกล้องข้างหน้า ผิดกับการเป็นนักแสดงที่ต้องมีความสัมพันธ์กับคนรอบด้าน ประเดิมเรื่องแรกกับ สงครามนางงาม ในเล่ห์เสน่หา และสลักจิต ที่จะออกอากาศครั้งแรก 27 ส.ค.นี้

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เดินทางตามท้องฟ้า

 

เส้นทางท่องเที่ยว

ญิ๋งญิ๋งเริ่มเที่ยวหนักๆ ตั้งแต่รู้จักกับก๊วนนักแสดงขาเที่ยวอย่าง อัค-อัครัฐ นิมิตชัย กวางและเบญ จากสงครามนางงาม และเพื่อนสนิท ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง ทำให้จากที่ชอบเที่ยวตามเทศกาล กลายเป็นว่าเธอจะหาเรื่องเที่ยวบ่อยๆ กว่าที่เคย

“อากาศดีมาก” เธอยกตัวอย่าง แม่กำปองจ. เชียงใหม่ “เป็นครั้งแรกที่ได้นอนโฮมสเตย์แล้วชอบมาก พักในบ้านชาวบ้าน คุณป้าน้าอาน่ารักมาก เป็นกันเอง อากาศเย็นสบาย อาหารทำง่ายๆ แต่อร่อยมากมีให้เติมไม่อั้น ธรรมชาติยังดีมาก มีผีเสื้อบินตามทาง มีตาน้ำ มีแหล่งน้ำซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูไม่ได้ในกรุงเทพฯ”

ครั้งนั้นนับเป็นการเปิดหูเปิดตาสาวคนเมืองให้มีไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ถ้าถามเธอตอนนี้ว่าชอบเที่ยวแบบไหน เธอจะตอบว่า อยากไปเที่ยวแนวธรรมชาติ เน้นความเรียบง่ายและเลือกใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเมือง

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เดินทางตามท้องฟ้า

 

“ไปเที่ยวแบบแบ็กแพ็กมันเหนื่อยนะ แต่คุ้มมาก อย่างส่วนตัวชอบดูท้องฟ้า และยิ่งได้ไปเห็นท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆสวยๆ ไม่มีตึกบัง ก็จะแฮปปี้มีความสุข”

ญิ๋งญิ๋งชอบถ่ายรูปท้องฟ้ามากถึงขนาดสร้างอินสตาแกรมท้องฟ้าของตัวเองชื่อfavoritejournal สแนปภาพท้องฟ้าระหว่างทางประหนึ่งไดอารี่ส่วนตัว

“ชอบมองท้องฟ้าเวลามีเรื่องไม่สบายใจ มีเรื่องในใจที่พูดกับใครไม่ได้จะชอบนั่งมองท้องฟ้า เพราะฟ้าจะมีทั้งช่วงที่สวยงาม และครึ้มน่ากลัว เหมือนกับอารมณ์ของเราที่มีทั้งสุขและทุกข์ ซึ่งไม่นานมันก็จะหายไปแล้วอาจจะกลับมาใหม่เป็นธรรมชาติ”

เธอกล่าวด้วยว่า เวลาเครียดมากๆ จะชอบขับรถออกไปแบบไม่มีจุดหมาย แล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เธอชอบที่สุด ตอนที่ท้องฟ้าทิศตะวันตกตะวันจะลับ
และท้องฟ้าทิศตะวันออกตะวันจะขึ้น ช่วงนั้นท้องฟ้าจะมีหลายสีทั้งม่วง ชมพู เหลือง ฟ้าแตกต่างออกไปในแต่ละวัน

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เดินทางตามท้องฟ้า

 

เส้นทางเพื่อสังคม

เธอเล่าถึงทริปมองท้องฟ้าบนภูเขาหัวโล้นที่น่าน พร้อมความตั้งใจที่อยากตอบแทนธรรมชาติกับโครงการปลูกเลย “มนุษย์ทำร้ายธรรมชาติมาเยอะแล้ว อย่างทุกวันนี้ต้นไม้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เริ่มปลูกวันนี้ ต่อไปลูกหลานอาจไม่ได้เห็นต้นไม้จริงๆ”

นอกจากนี้ เธอยังตอบแทบสังคมด้วยการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อนำไปปรับปรุงโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือ “นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งในชีวิตที่อยากทำมาก อยากทำมาตลอด คืออยากไปบนดอย ไปทาสีโรงเรียนที่ห่างไกล เมื่อก่อนที่จะเป็นนักแสดงเคยมีความคิดแวบเข้ามาว่า อยากขึ้นไปเป็นครูบนดอย แต่เมื่อเรามาทางนี้แล้ว เราก็เลยใช้ความเป็นนักแสดงให้เป็นประโยชน์ เริ่มทำโครงการเล็กๆ เท่าที่ตัวเองสามารถทำได้ ชวนเพื่อนๆ มาเป็นอาสา เปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอน”

ญิ๋งญิ๋งจะเดินทางไปช่วยทาสีและบริจาคสิ่งของในวันที่ 17 ก.ย. 2559 (วันเกิดของเธอ) ที่โรงเรียนบ้านทุ่งแจงอ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยเปิดรับทั้งอาสาสมัครและเงินบริจาคเพื่อปรับปรุงห้องเรียนและสนามเด็กเล่นให้น้องๆ

เส้นทางการเดินทาง

“การเดินทางทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่” เธอให้ความหมายอธิบายคำว่า การเดินทาง “เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าข้างนอกเป็นยังไงถ้าเราไม่ออกไป ซึ่งบางครั้งเราอาจจะไม่เจอสิ่งที่คาดหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ได้ออกไปเรียนรู้ ออกไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร ได้ออกไปใช้ชีวิตที่มากกว่าการดูโปสต์การ์ดหรือดูภาพคนอื่นในอินเทอร์เน็ต”

เธอยังเห็นการท่องเที่ยวเป็นขุมพลังอันยิ่งใหญ่ ให้เธอได้ออกไปรับพลังงานบวกจากธรรมชาติ ท้องฟ้า อากาศ และน้ำใจจากผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่กรุงเทพฯ ไม่สามารถให้ได้

โลกของญิ๋งญิ๋ง

ถ้ามีโลกของตัวเองหนึ่งใบ ญิ๋งญิ๋งอยากให้โลกใบนั้นมีท้องฟ้าสวยๆ ให้มองตลอดเวลา และเมื่อเหลือบมองข้างล่างก็อยากให้เห็นเป็นธรรมชาติสีเขียว

“รถไม่ต้องเยอะขนาดนี้ สิ่งปลูกสร้างไม่จำเป็นต้องเยอะเหมือนโลกใบนี้ เหมือนย้อนกลับไปในยุคก่อนๆ ที่คนมีความสุขกับธรรมชาติ อยากมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเห็นก้อนเมฆปุยๆ มีแสงอาทิตย์สีทองเล็ดลอดออกมาพอให้ระคายตาเล่น และอยากได้กลิ่นต้นไม้ทุกครั้งที่หายใจ โลกใบนั้นคงมีความสุขทุกวันแบบไร้เหตุผล” เธอทิ้งท้าย

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอังคารที่ 16 ธ.ค. 68