posttoday

บิลลี่ คอสตอกลู เชฟไฟแรงผู้มีเป้าหมาย

12 สิงหาคม 2559

มีโอกาสได้ลองชิมอาหารฝีมือ บิลลี่ คอสตอกลู เอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ วัย 30 ปีของโรงแรมเรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา

โดย...ภาดนุ ภาพ ภาคิณ สุขขี

มีโอกาสได้ลองชิมอาหารฝีมือ บิลลี่ คอสตอกลู เอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ วัย 30 ปีของโรงแรมเรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ต้องบอกว่าหลายเมนูที่เขาทำอร่อยทั้งรสชาติ สวยงามทั้งรูปลักษณ์ เราจึงอดถามถึงเส้นทางอาชีพเชฟของเขามิได้

“ผมสนใจเรื่องการทำอาหารมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะพ่อผมทำงานในโรงงานเบเกอรี่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งตอนเด็กๆ ผมกับพี่ชายมักจะช่วยพ่อตอกไข่ และแข่งจับเวลากันเสมอว่าใครตอกไข่ได้มากกว่า การที่ผมมีพ่อแม่ที่ชอบทำอาหารและมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นผู้อื่นรับประทานเมนูที่พวกท่านทำ ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากเป็นเชฟ

ผมเริ่มต้นจากการเป็นเชฟเบเกอรี่ก่อนเป็นงานแรก หลังจากนั้นอีก 2-3 ปี ผมตั้งใจว่าจะไม่หยุดอาชีพไว้แค่เชฟขนม ผมจึงไปลงเรียนคอร์สเพื่อเป็นเชฟทำอาหารที่ ‘รีเจนซี คอลเลจ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ คุกเคอรี’ ในเซาท์ออสเตรเลีย

เมื่อเรียนทำอาหารไปได้ 6 เดือน อาจารย์ที่สอนก็มาบอกว่า ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 2 คนในชั้นเรียนจะได้ไปฝึกงานเพื่อเป็นเชฟจริงๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผม ผมจึงตอบตกลงและเริ่มจากการฝึกงานที่คาเฟ่เล็กๆ ในเมืองอเดเลด บ้านเกิดในเซาท์ออสเตรเลีย

ต้องบอกว่าในช่วงแรกของการฝึกงานด้านการทำอาหารเป็นแบบทดสอบที่ยากมาก จนผมเกือบจะถอดใจแล้ว แต่ก็ฮึดสู้ต่อโดยไปฝึกงานที่ร้านอาหารอิตาเลียนในปีต่อมา จนมีโอกาสได้ทำอาหารมากมาย เรียกว่าตลอดช่วง 2-3 ปีที่ได้ฝึกงาน ผมมีโอกาสได้ทำงานในร้านอาหารย่านสำคัญๆ หลายร้านทีเดียว”

บิลลี่ คอสตอกลู เชฟไฟแรงผู้มีเป้าหมาย

 

หลังเรียนจบบิลลี่ก็ก้าวเข้าสู่อาชีพเชฟอย่างเต็มตัว เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกับเชฟเจอร์ราด แรมซี่ ที่ เพียร์ โฮเต็ล (Pier Hotel) เป็นเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะได้รับข้อเสนอให้ไปทำงานที่กาสิโนแห่งหนึ่ง กับเชฟดาร์เรน เฟลซ์ ซึ่งเป็นผู้มอบโอกาสและแรงบันดาลใจในอาชีพให้เขาอย่างมาก

“เมื่อทำงานที่เพียร์ โฮเต็ล ได้ 6 เดือน เชฟดาร์เรนก็มอบหมายให้ผมไปเป็นเชฟที่ นอร์ท เรสเทอรองต์ (North Restaurant) ซึ่งเป็นห้องอาหารระดับท็อป 10 จากการโหวตของ Gourmet Travelers ทำให้ผมได้ร่วมงานกับเชฟไรอัน มอนโกเมอรี่ และได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน โดยเราทั้งคู่ได้สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ร่วมกันมากมาย

พอทำงานที่นี่ได้พักใหญ่ เชฟดาร์เรนก็ได้ชักชวนให้ผมไปทำงานที่ เฟรเซอร์ ไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมต้องจากบ้านเกิดในเมืองอเดเลดไป ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ได้ร่วมงานกับเชฟดาร์เรน เขาได้สอนผมหลายอย่างและผมยังได้มีส่วนร่วมในงานมากมาย แต่เมื่อเชฟดาร์เรนลาออก จีเอ็มของที่นี่ (ซึ่งก็ลาออกเหมือนกัน) จึงได้ชวนผมไปทำงานที่เกาะแบรมพ์ตัน ในตำแหน่ง Chef de Partie โดยผมมีหน้าที่ดูแลเมนูอาหารในรูปแบบ Sea Salt ซึ่งจะเสิร์ฟอาหาร 12 คอร์สให้กับแขกพิเศษ”

ต่อมาในปี 2008 เชฟบิลลี่ได้ย้ายตามจีเอ็มคนเดิมไปทำงานที่เกาะเฮรอน โดยรับหน้าที่ดูแลเมนูอาหารในรูปแบบ Sea Salt เช่นเดิม ซึ่งก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะห้องอาหารที่เขารับผิดชอบอยู่ได้รับการจองโต๊ะเต็มเกือบทุกวัน

บิลลี่ คอสตอกลู เชฟไฟแรงผู้มีเป้าหมาย

จากนั้นในปี 2010 บิลลี่ได้มีโอกาสได้เป็นเชฟ ที่ “Wilson Island Resort” บนเกาะวิลสันที่บรรดาคนมีชื่อเสียงมักจะมาพักผ่อนกันในวันหยุด โดยเขารับหน้าที่ดูแลในเรื่องอาหารให้กับคนดัง และยังพาแขกที่มาพักไปดำน้ำดูปะการังด้วย ในช่วงที่เชฟบิลลี่ทำงานอยู่นั้น เขาสามารถทำให้ห้องอาหารที่รีสอร์ทได้รับรางวัล Gourmet Travelers Best Eco Resort ในปี 2010 มาได้ แถมยังมีโอกาสได้โชว์ผลงานผ่านสื่อต่างๆ มากมาย รวมทั้งได้ออกรายการ Discovery Channel อีกด้วย

และในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 23 ปี แต่เพราะมีความเชี่ยวชาญทางด้านอาหารฝรั่งเศส อิตาเลียน และเมดิเตอร์เรเนียน รวมทั้งมีความรอบรู้ในเรื่องระบบการจัดการในครัวเป็นอย่างดี บิลลี่จึงได้รับตำแหน่งเอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ เป็นครั้งแรกที่ “คีย์ เวสต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา” ซึ่งอยู่ในรัฐวิกตอเรีย และมีส่วนช่วยให้ผลประกอบการของรีสอร์ทดีขึ้นเป็นอย่างมาก

“ผมทำงานที่ คีย์ เวสต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้ปีครึ่ง ก็ได้รับข้อเสนอให้ไปเป็นเอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ ที่โรงแรม ‘คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท นอร์ท ไรด์’ ตอนนั้นผมอายุ 24 ปี จึงถือเป็นหัวหน้าเชฟที่อายุน้อยที่สุดในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลในขณะนั้น ผมทำงานที่คอร์ทยาร์ด บาย แมริออทฯ อยู่ 2 ปี ก็ได้ทั้งประสบการณ์และได้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรพอสมควร รวมทั้งได้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพของอาหารที่เสิร์ฟในโรงแรมให้ดีขึ้น 12% ด้วย นับเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ทุ่มเทให้กับงานตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ทำงานมา

ต่อมาในปี 2014 ผมก็ได้รับข้อเสนอให้ไปเป็นเอ็กเซกคิวทีฟ เชฟ ที่โรงแรม คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท บาหลี เซมินยัค รีสอร์ท ที่กำลังจะเปิดในช่วงนั้น ซึ่งผมก็ตอบตกลงอีกเช่นกัน หลังจากทำงานที่บาหลีได้ 2 ปี ผมก็ได้รับการทาบทามให้มาเป็นเอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ ของโรงแรมเรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา อย่างในปัจจุบันนี้ ซึ่งหน้าที่หลักๆ ที่ผมรับผิดชอบ นอกจากต้องดูแลในเรื่องของคุณภาพอาหารให้คงความอร่อย รวมถึงคิดค้นเมนูใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอแล้ว หน้าที่สำคัญอีกอย่างก็คือการปั้นลูกทีมให้พร้อมกับการเป็นหัวหน้าเชฟในอนาคตด้วย

บิลลี่ คอสตอกลู เชฟไฟแรงผู้มีเป้าหมาย

เท่าที่ได้ร่วมงานกันมา ผมคิดว่าทีมเชฟที่นี่มีทัศนคติในด้านบวก มีความสามารถและมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีความสามารถนั้นอยู่ แต่ผมกลับมองเห็นศักยภาพของพวกเขา นี่จึงเป็นหน้าที่ของผมที่จะทำให้ลูกทีมค้นพบความสามารถ และเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ซึ่งผมก็พร้อมที่จะผลักดันให้พวกเขาก้าวไปสู่เป้าหมายให้ได้ครับ”

เชฟบิลลี่ทิ้งท้ายว่า เป้าหมายในอนาคตของตัวเขาเองก็คือ อยากมีบทบาททางโซเชียล มีเดีย ให้มากขึ้นและเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่รักการทำอาหารได้ลองทำเมนูต่างๆ ที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ พูดง่ายๆ ว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คนทั่วไปสามารถทำอาหารมื้อพิเศษให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ได้ลองรับประทานกัน เพราะนี่คือความสุขที่แท้จริงในอาชีพเชฟของเขานั่นเอง

Seafood Ceviche

ส่วนผสม

-เนื้อปลากะพงขาวหั่นสไลซ์ 400 กรัม

-ดอกอัญชัน ดอกเข็มแดง ดอกมะเขือม่วง ยอดโหระพา ต้นหอม ผักชี พริกเหลือง

-น้ำมะนาว น้ำเลมอน เกลือ พริกไทย

วิธีทำ

-ผสมน้ำมะนาว น้ำเลมอน เกลือ และต้นหอมซอยละเอียดเข้าด้วยกัน แล้วนำเนื้อปลาลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพัก-จากนั้นตักเนื้อปลาใส่จาน ตกแต่งด้วยดอกอัญชัน ดอกเข็มแดง ดอกมะเขือม่วง ยอดโหระพา ให้สวยงาม แล้วโรยด้วยพริกไทย พริกเหลืองและผักชีซอยละเอียดเสิร์ฟได้เลย

เคล็ดลับความอร่อย

อยู่ที่ความสดของเนื้อปลา พอโดนมะนาวแล้วจากเนื้อปลาใสๆ จะกลายเป็นเนื้อปลาสีขาวๆ ซึ่งเมนูนี้จะรับประทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ได้รสชาติอร่อยแตกต่างไปอีกแบบ

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68