Opportunities open up in Tanzania
เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของทวีปเอเชียมีอัตราการขยายตัวที่โดดเด่น จนทำให้เรามองข้ามไปว่า
โดย...ทีมงานโลก 360 องศา [email protected]
เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของทวีปเอเชียมีอัตราการขยายตัวที่โดดเด่น จนทำให้เรามองข้ามไปว่า แอฟริกาก็เป็นอีกหนึ่งทวีปที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าทวีปนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลาย มีแรงงานราคาไม่แพง มีนโยบายของรัฐที่พร้อมเปิดรับการลงทุนของต่างชาติ รวมถึงมีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง จึงทำให้หลายๆ ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นประเทศที่น่าลงทุน และน่าทำธุรกิจมากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย
ซึ่งผลการจัดอันดับความยากง่ายในการเข้าไปประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2016) ปีที่ผ่านมา ก็พบว่า ประเทศเเทนซาเนีย ติดอยู่ในอันดับที่ 139 จาก 189 ประเทศทั่วโลกที่มีความน่าลงทุนมากที่สุด ดังนั้นสัปดาห์นี้ ทีมงานโลก 360 องศา จึงขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับแง่มุมใหม่ๆ ของแทนซาเนียที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจในหลากหลายด้าน
หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าแทนซาเนียเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตลาดการลงทุนในเเทนซาเนียทุกวันนี้กำลังเบ่งบานเลยทีเดียว โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ แอฟริกาดอทคอม เปิดเผยไว้ว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีศักยภาพในแทนซาเนียปีนี้ ได้แก่ ธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom&ICT) ธุรกิจด้านพลังงาน (Energy Oil&Gas) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) ธุรกิจด้านขนส่ง (Logistic) และธุรกิจด้านเกษตรกรรม (Agribusiness)
นอกเหนือจากธุรกิจเหล่านี้แล้ว แทนซาเนียยังเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับนักลงทุนที่สนใจจะขยายตลาดการค้ามายังภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกอีกด้วย โดยนาย Elibariki Shammy ตัวแทนจากหอการค้าแทนซาเนีย (Tanzania Chamber of Commerce, Industry and Agriculture) ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ประเทศแทนซาเนียเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประชาคมแอฟริกาตะวันออก (East African Community) ซึ่งเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจในรูปแบบที่เรียกว่า “Common Market” โดยมีการตกลงยกเว้นภาษีในการเคลื่อนย้ายสินค้า ปัจจัยการผลิต ที่ครอบคลุมไปถึงการบริการ และเงินทุนอีกด้วย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากเข้ามาลงทุนในแทนซาเนียก็เท่ากับว่ามีโอกาสส่งออกสินค้าให้กับทั้ง 5 ประเทศในภูมิภาค ซึ่งมีจำนวนประชากรมากถึง 165 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้น แทนซาเนียยังเป็นสมาชิกของ South African Development Community หรือกลุ่มประชาคมเพื่อการพัฒนาภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศทางแอฟริกาตอนใต้ทั้งหมด 15 ประเทศ และมีจำนวนประชากรกว่า 200 ล้านคน ดังนั้นการลงทุนในแทนซาเนียก็เปรียบเสมือนการเข้าถึงประตูการค้าที่สำคัญของภูมิภาคนี้ เนื่องจากสามารถติดต่อค้าขายกับประชากรได้มากถึง 200 ล้านคนทีเดียว
อีกทั้งการให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ทำให้แทนซาเนียมีนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศโดยให้สิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ 100% การนำเงินเข้าออกได้อย่างเสรี รวมไปถึงการยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับวัตถุดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก็ทำให้มีผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาลงทุนในแทนซาเนียมากขึ้น อย่างเช่น จีนที่เข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะด้านการคมนาคม อินเดียที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจรายย่อย เช่น สถาบันการเงินขนาดกลาง รวมไปถึงผู้ประกอบการจากประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กรใหญ่ๆ อย่างบริษัทผลิต CPF หรือระดับผู้ประกอบการรายย่อย อย่างกลุ่มบริษัทค้าพลอย หรือกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทย ก็เข้ามาลงทุนในแทนซาเนียหลายปีแล้ว
ไม่เพียงแต่กรุงดาเอสซาลาม (Dar Es Salaam) ที่จะน่าสนใจ และน่าลงทุนทำธุรกิจเท่านั้น หมู่เกาะแซนซิบาร์ (Zanzibar Archipelago) ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ธุรกิจสปาของไทยกำลังได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยเช่นกัน
หมู่เกาะเเซนซิบาร์ เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศเเทนซาเนีย โดยตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากกรุงดาเอสซาลามไปทางทิศตะวันออกประมาณ 50 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้มีสถานภาพเป็นเขตกึ่งการปกครองตนเอง มีเมืองหลวงชื่อว่าแซนซิบาร์ซิตี้ (Zanzibar City) ในอดีตที่นี่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของชาวอาหรับ เปอร์เซีย อินเดีย และยุโรป ซึ่งก็ทำให้เกาะแห่งนี้มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของหลายชนชาติเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของแอฟริกัน และเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะขึ้น โดยเรียกกันว่า สวาฮิลี (Swahili)
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังได้รับการขนานนามว่า “หมู่เกาะเครื่องเทศ” เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น และดินมีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงสามารถปลูกเครื่องเทศได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กานพลู จันทน์เทศ อบเชย พริกไทย อีกทั้งพื้นที่ทางตอนเหนือของแซนซิบาร์ ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีทะเลสวย และบรรยากาศดี จึงเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำมากมาย รวมไปถึงธุรกิจสปาและนวดแผนไทยที่กำลังเฟื่องฟู เนื่องจากฝีมือของคนไทยมีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
แต่อย่างไรก็ตาม ใครที่สนใจอยากมาทำงานหรือมาทำธุรกิจที่แทนซาเนียก็ต้องยอมรับว่าประเทศนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง ประการแรกก็คือ ระบบขนส่งมวลชนที่ยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากถนนสายหลักมีไม่กี่เส้นทาง อีกทั้งถนนส่วนใหญ่ก็มีเพียงแค่ 2 เลนเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้เวลาเดินทางอาจจะต้องเผื่อเวลา เพราะการจราจรติดขัดมาก โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ประการที่สองคือ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ อย่างเช่น น้ำประปาและไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ทำให้บ้านเรือนหลายแห่งของที่นี่ต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่มีเสถียรภาพมากพอ ระบบสายส่งที่ยังไม่ทั่วถึง และระบบจ่ายไฟฟ้ายังไม่มีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ในหลายๆ พื้นที่ยังคงใช้น้ำบาดาลที่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำตลอดเวลา ดังนั้น ในช่วงที่ไฟฟ้าดับก็อาจไม่มีน้ำใช้
อันที่จริงแล้วจะบอกว่าแทนซาเนียเป็นประเทศที่ไม่มีความพร้อมทางด้านพลังงานก็คงไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะประเทศนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ พลังงานความร้อนใต้พิภพ และโลหะหนัก อย่างเช่น ยูเรเนียม ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนหลักที่แทนซาเนียได้เปรียบมากกว่าประเทศอื่นๆ มากไปกว่านั้น ปริมาณของทรัพยากรเหล่านี้ยังมีมากอีกด้วย อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติที่มีปริมาณก๊าซสำรองอยู่อย่างน้อย 55 ล้านล้านคิวบิกฟุต มีปริมาณถ่านหินสำรองมากถึง 1,200 ล้านตัน และยูเรเนียม 139,600 ตัน
และหากการที่ประชากรในประเทศเกือบร้อยละ 90 ยังไม่มีไฟฟ้าใช้นั้น ก็คงไม่ได้หมายถึงว่า ประเทศแทนซาเนียมีแหล่งทรัพยากรทางพลังงานไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะข้อจำกัดต่างๆ ทั้งในเรื่องของการขาดแคลนเทคโนโลยี การพัฒนางานวิจัย รวมไปถึงบุคลากรที่มีความรู้และมีทักษะ อีกทั้งระบบบริหารจัดการของรัฐก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้การพัฒนาพลังงานไฟฟ้าในประเทศนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปสรรคขนานใหญ่ต่อการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้านอีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้รัฐบาลแทนซาเนียจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และคนไทยจะมีวิธีสร้างโอกาสทางธุรกิจในแทนซาเนียได้อย่างไร ติดตามต่อในสัปดาห์หน้า


