พิมพ์พิชา อุตสาหจิต และวันนี้ของบันลือกรุ๊ป
หากใครเป็นแฟนคลับตัวยงของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ หรือมหาสนุก จะรู้ว่า บ.ก.วิติ๊ด ขาโหด หรือ วิธิต อุตสาหจิต มีลูกสาวคนโต ชื่อน้องนิว
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ... กิจจา อภิชนรจเรข
หากใครเป็นแฟนคลับตัวยงของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ หรือมหาสนุก จะรู้ว่า บ.ก.วิติ๊ด ขาโหด หรือ วิธิต อุตสาหจิต มีลูกสาวคนโต ชื่อน้องนิว ซึ่งเป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์การ์ตูนที่ใครหลายคนรู้จักและชื่นชอบเป็นอย่างดี วันนี้ เด็กผู้หญิงชื่อนิวในวันนั้น เติบโตเป็น นิว-พิมพ์พิชา อุตสาหจิต วัย 24 ปีแล้วในวันนี้ และเราจะมาทำความรู้จักกับเธอกัน ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ของเครือบันลือกรุ๊ป โดยเธอดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร
“บทบาทของนิวในวันนี้ คือการดูภาพรวมของบริษัท ว่ามันมีโอกาสทางธุรกิจในทิศทางใดบ้าง เติบโตและขยายตัวอย่างไรบ้าง โดยมองว่าคอนเทนต์ที่เรามีอยู่หรือสร้างขึ้นมาใหม่ ทั้งสิ่งพิมพ์ ดิจิทัล โมชั่นคอนเทนต์ การ์ตูนแอนิเมชั่น และคาแรกเตอร์การ์ตูน สามารถพัฒนาไปอยู่ในช่องทางที่แปลกใหม่หรือสร้างสรรค์ใดได้บ้าง หรือสามารถสร้างรายได้ขึ้นมาได้ไหม ไปสร้างสรรค์ร่วมกับแบรนด์ต่างๆ ได้ไหม สามารถนำคอนเทนต์ของเราไปต่างประเทศได้ไหม อีกทั้งยังพัฒนาคอนเทนต์ต่างๆ ให้ดีขึ้น และก่อตั้งทีมและพัฒนาทีมงานให้มีคุณภาพด้วยเช่นเดียวกัน”
พิมพ์พิชา เผยว่า ภายใต้การบริหารงานของเธอ เธอวางบันลือกรุ๊ปไว้เป็นสำนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่ไม่นิยามตนเองว่าเป็นสำนักพิมพ์อีกต่อไปแล้ว “เราจะเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจร โดยต้องเป็นสื่อที่เหมาะสมกับคอนเทนต์นั้นๆ ด้วย ไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถสร้างกลยุทธ์การใช้สื่อให้กับทั้งบริษัทตนเอง และบริษัทอื่นๆ ได้อีกด้วยค่ะ”
เมื่อชี้ชวนให้พิมพ์พิชาได้พูดถึงสถานการณ์ของหนังสือ ณ ขณะนี้ เธอมองว่าอุตสาหกรรมหนังสือโดยภาพรวมก็คงจะเป็นไปตามสภาพตลาด “สิ่งที่เราทำได้ คือ สร้างทีมครีเอทีฟที่มาช่วยพัฒนาคอนเทนต์ของเราให้ดีมากๆ เพื่อให้มีคุณค่า มีความคิดสร้างสรรค์ มีลักษณะเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร รวมทั้งมีการสร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนอ่าน เพื่อให้คนอ่านรู้สึกผูกพันกับแบรนด์ของเรา นอกจากนี้เรายังมีการคัดเลือกนักเขียนอย่างเข้มงวด เพื่อให้หนังสือที่ตีพิมพ์กับเราประสบความสำเร็จ จากเมื่อก่อนเราออกหนังสือเพื่อวางขายในงานสัปดาห์หนังสือทีละเยอะๆ ขายดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ก็ถัวเฉลี่ยกันไป แต่เดี๋ยวนี้เราออกทีละน้อยๆ แต่ต้องขายดีแน่นอน และมันต้องสามารถต่อยอดไปทำอะไรอื่นๆ ได้อีกในหลากหลายช่องทาง นี่คือกลยุทธ์ที่เราได้วางเอาไว้”
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารงานของเธอ เธอมีหมุดหมายสำคัญ นั่นก็คือแต่ละแบรนด์ที่อยู่ภายใต้เครือบันลือกรุ๊ปจะต้องแข็งแรง และสามารถทำงานร่วมกันเป็นหน่วยใหญ่ได้ โดยมี 3 องค์ประกอบควบคู่กันไป นั่นคือ คุณภาพของคอนเทนต์ คุณภาพของการจัดการ และคุณภาพของการตลาด
“3 องค์ประกอบหลักนี้ นิวค่อยๆ ซึมซับมาจากการทำงานของคุณพ่อและคุณปู่ (บันลือ) รวมทั้งมุมมองความคิดและวินัยในการทำงานด้วย แต่นิวก็ได้รับอิสระในการทำงาน ไม่ได้ถูกตีกรอบว่า ปู่ทำแบบนี้มา พ่อทำแบบนี้มา เราต้องทำตามปู่และพ่อแบบเป๊ะๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย นิวดีใจที่ได้รับโอกาสให้ได้เติบโตไปในทิศทางของเราเอง นิวโชคดีที่ได้ทำงานแบบมีความสดใหม่ทันสมัยในแบบของเรา และมีความเก๋าประสบการณ์จากคุณพ่อและคุณปู่มาเป็นตัวเสริมทัพ”
พิมพ์พิชา บอกเล่าว่า หลักในการทำงานของเธอ คือ ทำเต็มที่ให้ทุกวันนี้ดีที่สุด ต่อให้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่เสียใจ เพราะเราได้ทำเต็มที่แล้ว สำหรับไลฟ์สไตล์ของพิมพ์พิชา เธอชอบสรรหาอาหารอร่อยๆ รับประทานตามร้านอาหารใหม่ๆ ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูภาพยนตร์และการ์ตูนแอนิเมชั่น โดยเธอเป็นแฟนคลับตัวยงของดิสนีย์ นอกเหนือจากนี้นิวยังคิดว่า ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนิว เวลาว่าง หรือวันหยุด ก็จะพาครอบครัวใหญ่ของนิวไปเที่ยวกันค่ะ”


