posttoday

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

17 กรกฎาคม 2559

กรุงเทพมหานครมีประวัติศาสตร์มากกว่า 200 ปี กระทั่งปัจจุบันบ้านเมืองก็ยังมีความโบราณอยู่ ณ ซอกหลืบของเมืองหลวง

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ : กันทรารมย์ หอมเลิศ, สุนันท์ ล้อสมทรัพย์

กรุงเทพมหานครมีประวัติศาสตร์มากกว่า 200 ปี กระทั่งปัจจุบันบ้านเมืองก็ยังมีความโบราณอยู่ ณ ซอกหลืบของเมืองหลวง อย่างเส้นทางเดินเท้าจากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร-โบสถ์ซางตาครู้ส-ชุมชนโปรตุเกส-บ้านขนมฝรั่งกุฎีจีน-ศาลเจ้าเกียนอันเกง-วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่ผสมผสานระหว่างความเก่า ความใหม่ ความเป็นไทย และความหลากหลายทางเชื้อชาติ แว่วมาว่ากองการท่องเที่ยว กทม.จะจัดเส้นทางนี้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชุมชนและแหล่งศาสนสถานให้คนกรุงได้ย้อนกลับไปหาเศษเสี้ยวหนึ่งของรากเหง้าที่ก่อให้เกิดปัจจุบัน

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

พระอารามหลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดรั้วเหล็ก เพราะมีรั้วเหล็กเป็นกำแพงวัดบางช่วง ในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธนาค (หลวงพ่อนาค) รูปหล่อปางมารวิชัย อายุกว่า 700 ปี พุทธศาสนิกชนชาวไทยและจีนบูชาพระพุทธนาคเป็นอย่างยิ่ง โดยทั่วไปมักเรียกว่า พระพุทธนาคน้อย เพื่อให้คู่กับพระศรีศากยมุนี (พระพุทธนาคใหญ่) วัดสุทัศนเทพวราราม

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

และในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธธรรมวิเชฏฐศาสดา รูปหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย มีพระพุทธลักษณะงดงาม พระพุทธรูปองค์นี้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ให้ช่างชาวไทยเป็นผู้หล่อ และว่าจ้างช่างญี่ปุ่นลงรักปิดทอง ซึ่งกล่าวกันว่ามีฝีมือและกรรมวิธีการปิดทองดีเยี่ยม

อีกจุดหนึ่งที่หลายคนไม่เคยแวะเข้าไปคือ เขามอ ภูเขาจำลองกลางสระน้ำบริเวณหน้าวัด มีศาลาราย 8 หน้า เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ชาวบ้านเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า ภูเขาเต่า เพราะโดยรอบเต็มไปด้วยเต่าและตะพาบน้ำที่คนนำมาปล่อยไว้ ปัจจุบันวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารมีอายุ 188 ปี เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนฝั่งธนฯมาช้านาน

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

โบสถ์ซางตาครู้ส

ชาวคริสต์ย้ายมาตั้งถิ่นฐานย่านกุฎีจีนหลังเสียกรุงศรีอยุธยา จากนั้นพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระองค์ทรงพระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งให้กับบาทหลวงกอร์ชาวฝรั่งเศสสำหรับสร้างโบสถ์ซานตาครู้ส (Santa Cruz) โบสถ์โรมันคาทอลิกที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 รองจากวัดคอนเซ็ปชัญ

โบสถ์หลังแรกเป็นอาคารไม้สร้างปี 2312 โบสถ์หลังที่ 2 ลักษณะคล้ายศาลเจ้าจีนสร้างปี 2378 ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดกุฎีจีน และหลังปัจจุบันสร้างปี 2456 ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเดียวแบบอิตาลียุคนีโอคลาสสิกผสมเรอเนสซองซ์ มีหอคอยยอดโดมประดับด้วยไม้กางเขนบนเรือนยอด ตัวอาคารก่ออิฐประดับลายปูนปั้นและภายในประดับด้วยกระจกสีครึ่งวงกลมเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

โบสถ์ซางตาครู้สเป็นศาสนสถานสำคัญคู่ชุมชนกุฎีจีน หนึ่งในความหลากหลายทางเชื้อชาติที่อยู่ไปไกลจากวัดหลวงสมัยรัชกาลที่ 4 แต่ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปสถานที่ต่อไป ให้พักท้องก่อนเดินทางที่ร้านขนมจีนไก่คั่วยายตี้ (เจ้าเก่า) ตั้งอยู่หน้าโบสถ์ซางตาครู้สติดริมแม่น้ำ

ชุมชนโปรตุเกส

ชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสอาศัยอยู่ร่วมกับชาวจีนในย่านกุฎีจีน ดังมีบันทึกในหนังสือสาสน์สมเด็จ ว่า “...ส่วนฝรั่งเชื้อสายโปรตุเกสที่เคยอยู่ ณ พระนครศรีอยุธยา ก็ให้รวมกันตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำใต้กุฎีจีนต่อลงไป”

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

ในสมัยกรุงธนบุรี พระเจ้าตากยังโปรดฯ ให้ชาวโปรตุเกสที่อพยพมาจากอยุธยามาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาถัดจากศาลเจ้ากุฎีจีนลงไป เป็นเหตุให้ผู้คนเรียกชาวโปรตุเกสเหล่านี้ว่า ฝรั่งกุฎีจีน ต่อมาในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ แม้ชาวจีนส่วนใหญ่จะย้ายออกไป แต่ชุมชนกุฎีจีนก็ยังคงคึกคัก เพราะชาวตะวันตกที่เคยอยู่บริเวณหน้าวัดประยุรวงศาวาสได้ย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่ในย่านนี้แทนที่ชาวจีนจนกลายเป็นย่านศูนย์กลางของชาวตะวันตก

ศูนย์กลางชุมชนโปรตุเกสในประเทศไทยจะมีโบสถ์เป็นสัญลักษณ์ โดยโบสถ์คาทอลิกที่มีประวัติเกี่ยวกับชาวโปรตุเกส ได้แก่ โบสถ์วัดคอนเซ็ปชัญ วัดซางตาครู้ส และวัดกาลหว่าร์ ชุมชนโปรตุเกสจึงเป็นอีกหนึ่งความหลากหลายทางเชื้อชาติที่คนไทยได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมรวมถึงอาหารการกิน

บ้านขนมฝรั่งกุฎีจีน

ขนมฝรั่งกุฎีจีนนำสูตรมาจากโปรตุเกส รวมถึงขนมหน้านวล ขนมบ้าบิ่น ขนมกุสรัง ก็เป็นขนมโปรตุเกสเช่นกัน กรรมวิธีในการทำขนมฝรั่งกุฎีจีนจะอบด้วยเตาอบโบราณ ที่ชาวบ้านจะเป็นคนก่อเตาเอง ทำให้ขนมกรอบนอกนุ่มในและทำให้ขนมมีความหอมน่ารับประทาน

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

ปัจจุบันเหลือบ้านที่ยังทำขนมฝรั่งกุฎีจีนอยู่ 2-3 ร้าน อย่างร้านธนูสิงห์ ทายาทรุ่นที่ 5 เป็นเจ้าของและเป็นผู้ทำตามสูตรต้นตำรับขนานแท้ มี 2 แบบ คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีนแบบดั้งเดิม จะไม่มีหน้า เนื้อเบานุ่ม รสไม่หวานมาก และแบบประยุกต์ โรยหน้าด้วยลูกเกด ลูกพลับ ฟัก และน้ำตาลทราย ร้านตั้งอยู่ในซอยกุฎีจีน 7 มีป้ายบอกทางตลอดทาง เปิดขายทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

ศาลเจ้าเกียนอันเกง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวัดกัลยาณมิตร ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ถูกอัญเชิญมาจากศาลเจ้าแซฮุ้นเต็ง มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน รวมถึงระฆังใหญ่สมัยจักรพรรดิเต้ากวง ราชวงศ์ชิง

เดินวันเดียว เที่ยวหลายชาติ

 

ศาลเจ้าเกียนอันเกง แปลว่า อารามที่สร้างความสงบสุข เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดฝั่งธนบุรี ภายในมีไม้แกะสลักและจิตรกรรมฝาผนังศิลปะจีน ส่วนภายนอกมุงด้วยกระเบื้องโค้งแบบจีนแท้ ซึ่งทุกปีในวันที่ 9 เดือน 9 จะมีงานเทกระจาดเพื่อทำบุญแก่ผู้ยากไร้

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

ไม่ไกลจากศาลเจ้าเกียนอันเกงให้เดินลัดเลาะริมน้ำจะถึงจุดสุดท้ายที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สักการะพระหลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย เป็นพระประธานในวิหารหลวง เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือซำปอกง ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างให้เป็นพระพุทธรูปริมแม่น้ำนอกกำแพงเมืองเช่นเดียวกับที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แต่หน้าบันจะประดับลายปูนปั้นและกระเบื้องเคลือบของจีน แสดงถึงการผสมผสานวัฒนธรรมในชุมชนกุฎีจีน ชุมชนเล็กๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตไว้ได้อย่างน่าตื่นใจ ซึ่งเป็นอีกภาพของกรุงเทพฯ เมืองหลวงใหญ่ ที่ทำให้ไม่ลืมความเป็นบางกอกในอดีตกาล

ข่าวล่าสุด

Sponge City Tourism เมื่อเมืองเลิกสู้กับน้ำ แล้วหันมา “อยู่ร่วมกับมัน”