posttoday

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

17 กรกฎาคม 2559

ย้อนเวลากลับไป ณ โรงพยาบาลขอนแก่น ในปี 2542 บ่ายวันหนึ่งของเดือน พ.ย. นพ.กลวัชร์ เหล่าชัยศรี

โดย...โยธิน อยู่จงดี ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

ย้อนเวลากลับไป ณ โรงพยาบาลขอนแก่น ในปี 2542 บ่ายวันหนึ่งของเดือน พ.ย. นพ.กลวัชร์ เหล่าชัยศรี ศัลยแพทย์หนุ่มไฟแรง รับแจ้งจากพยาบาลว่ามีคนไข้นิ้วขาด 4 นิ้ว รอรับการผ่าตัดฉุกเฉิน คนไข้รายนี้เป็นเกษตรกรที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องจักรดึงนิ้วจนขาด 4 นิ้ว กลวัชร์ รู้ในทันทีว่าเคสนี้น่าจะต้องผ่าตัดนานข้ามคืนแน่ๆ จึงจัดแจงเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดระยะยาว ซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จเวลาไหน แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขาเลือกแล้วในเส้นทางชีวิตศัลยแพทย์

เลือกเป็นหมอเพราะไม่ชอบพึ่งใคร

กลวัชร์ ตัดสินใจเป็นหมอเพราะเขาเป็นคนที่ชอบพึ่งพาตัวเอง และอาชีพหมอก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่สามารถก้าวหน้าในอาชีพได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้เส้นสายในการทำงาน หลังจากเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมพญาไท ก็เอนทรานซ์สอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระหว่างเรียนหมอ 6 ปี ก็มักจะเข้ากิจกรรมออกค่ายอาสาตรวจรักษาคนไข้ในต่างจังหวัด ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เขาจะได้ฝึกฝนการเป็นคุณหมอในภาคปฏิบัติ แต่ทำให้เขาได้เห็นสภาพคนไข้ ระหว่างคนเมืองและชนบทว่าเหลื่อมล้ำแค่ไหน เรียนจบไปจะได้เจอกับอะไร และที่สำคัญก็คือได้ยกระดับจิตใจในการเป็นผู้ให้นั่นเอง ซึ่งในระหว่างเรียนก็ทำอาชีพเสริมเปิดสอนพิเศษติววิชาสอบเอนทรานซ์ หารายได้พิเศษระหว่างเรียน

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

หลังจากเรียนจบหมอทั่วไปที่ศิริราช จึงเข้าทำงานต่อที่โรงพยาบาลพระประแดง เป็นโรงพยาบาลด้านโรคผิวหนัง ซึ่งที่โรงพยาบาลแห่งนี้ทำให้เขาตัดสินใจเรียนต่อด้านศัลยแพทย์ตกแต่ง ซึ่งจะทำให้เขาช่วยเหลือชีวิตได้มากขึ้น

“ผมเลือกเรียนต่อด้านศัลยแพทย์ที่ศิริราช เบ็ดเสร็จชีวิตผมเรียนอยู่ศิริราช 11 ปี สนิทขนาดที่ว่าแม่ค้าเห็นผมเดินมาตักกับข้าวรอไว้เลย การเรียนศัลยแพทย์ตกแต่งต้องเรียนให้จบศัลยแพทย์ทั่วไปก่อน ศัลยกรรมทั่วไปคือการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิต เช่น ประสบอุบัติเหตุมาต้องผ่าตัดด่วนเวลานั้นหมอจะต้องผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตให้รอดมากกว่าคำนึงถึงความสวยงาม นั่นคือศัลยกรรมทั่วไป  จากนั้นก็เรียนศัลยกรรมตกแต่ง เป็นการรักษาอีกระดับหนึ่งที่ไม่เพียงแค่รักษา แต่เป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับคนไข้ เช่น คนไข้มีความพิการมาแต่กำเนิด เราก็สามารถตกแต่งเพื่อให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

“สิ่งที่ครูอาจารย์สอนผมมาก็คือ ให้เราทำทุกอย่างให้ดีแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง และไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เราแก้ไม่ได้ แผลทุกอย่างของมนุษย์เราแก้ได้หมด เรามีทางเลือกมากมายในการรักษา เวลาเราเจอคนไข้ 1 คน จะมีทางเลือกมากมายในการรักษา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะวางแผนการรักษาอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด และการที่ผมอยู่ศิริราชทำให้ผมมีประสบการณ์และความมั่นใจในการรักษาสูง เพราะคนไข้ที่นี่เยอะมากถึงมากที่สุด ขนาดตอนที่ผมกำลังศึกษาอยู่ก็ได้เป็นแพทย์ฝึกหัดรักษาคนไข้เยอะมาก ทำให้มีเวลาอ่านหนังสือน้อยลง แต่ไปลงกับภาคปฏิบัติและเรียนรู้เอาตอนนั้น ดังนั้นแพทย์ศิริราชประสบการณ์ในการรักษาเราไม่แพ้ใครแน่นอน เพราะหมอแต่ละคนที่จบที่นี่ล้วนผ่านการรักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน”

ต่อนิ้วคนไข้ 36 นิ้วใน 2 เดือน

ตัดกลับมาในห้องผ่าตัดโรงพยาบาลขอนแก่น เวลา 1 ทุ่ม กลวัชร์ เริ่มทำการผ่าตัดต่อนิ้วคนไข้ทีละนิ้ว คนไข้รายนี้เหลือหัวแม่โป้งนิ้วเดียว สภาพเส้นเลือดและปลายเส้นประสาทถูกฉีกกระชากจนอยู่ในสภาพที่ช้ำมาก จนเรียกได้ว่ายากแก่การรักษาอย่างมาก พยาบาลทำการรัดต้นแขนเพื่อให้เลือดหยุดมาเลี้ยงระหว่างทำการผ่าตัด เพราะถ้าไม่รัดแล้วจะมีเลือดไหลออกตลอดเวลายากแก่การผ่าตัด แต่ต้องคลายสายรัดทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้เลือดกลับมาเลี้ยง ดังนั้นในการผ่าตัดเคส 4 นิ้ว เขาจะต้องทำให้เสร็จ 1 นิ้วก่อนครบ 2 ชั่วโมง

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

“ผมพยายามต่อจนสุดความสามารถ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ต่อไม่ติด เพราะเส้นเลือดอยู่ในสภาพที่บอบช้ำอย่างมาก สุดท้ายผมต่อไปได้เพียงนิ้วเดียวคือนิ้วก้อย ที่เหลือนั้นไม่สามารถต่อให้ติดได้จริงๆ ออกจากห้องผ่าตัดก็ตอนช่วงฟ้าสางพอดี แต่อารมณ์ผมเหมือนคนเตะบอลแล้วแพ้ 4 นัดรวด เหนื่อยและท้อใจมากที่ไม่สามารถรักษานิ้วของคนไข้รายนี้ไว้ได้

“แต่ออกมาจากห้องผ่าตัดไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้านพัก ห้องฉุกเฉินก็โทรมาตาม บอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉิน เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ ปลายนิ้วชี้ขาด คุณพ่อขับรถมาจากหนองคายมาขอให้หมอช่วยรักษา ตอนแรกผมจะถอดใจแล้ว เพราะแพ้เสียความรู้สึกจากการผ่าตัดคนไข้ที่ผ่านมาได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็มีคนไข้นิ้วขาดมาขอให้รักษาอีกแล้ว เรียกได้ว่าวันนั้นเป็นดวงองคุลีมาลเข้าของแท้เลย

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

“สอบถามสาเหตุก็ทราบว่า เด็กคนนี้เอามีดอีโต้ทำกับข้าวคุณแม่มาเล่นทำกับข้าวแล้วพลาดไปสับปลายนิ้วชี้ข้างซ้ายของตัวเองขาดครึ่งเล็บ แล้วคุณหมอที่ทำการรักษาก่อนหน้านี้ได้ทำการรักษาเบื้องต้นอย่างถูกวิธีมาแล้วเพื่อรักษาสภาพเนื้อเยื่อพร้อมสำหรับการผ่าตัด ตอนแรกผมจะถอดใจแล้ว เพราะเพิ่งแพ้จากการผ่าตัดไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา

“แต่เวลานั้นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจสู้ต่อ เป็นเพราะน้ำตาลูกผู้ชายของคุณพ่อที่มองมาที่ผมร้องขอให้ช่วยลูกสาวตัวน้อยของเขา ‘หมอครับช่วยต่อนิ้วให้ลูกสาวผมด้วย’ ส่วนเด็กน้อยก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ผมเห็นคุณพ่อเขาร้องไห้ขนาดนั้น และจากหนองคายเดินทางมาขอนแก่นในสมัยก่อนก็ลำบาก ถนนหนทางไม่ได้ดีเหมือนในปัจจุบัน เชื่อว่าอย่างต่ำก็ 2 ชั่วโมง เห็นความพยายามรักษาลูกของพ่อคนแล้ว วิญญาณคุณหมอพระเอกหนังไทยเข้าสิงทันที ผมบอกกับคุณพ่อไปว่า ‘คุณพ่อครับผมหมอกลวัชร์ ผมจะพยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ’ ปากบอกไปแต่ใจผมอยู่ที่ตาตุ่ม”

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

สิ่งที่ กลวัชร์ ทำมาจากจิตวิญญาณความเป็นแพทย์ที่มุ่งรักษาชีวิตคนไข้ ซึ่งไม่ใช่แค่การรักษาทางกาย สภาพจิตใจของคนไข้และครอบครัวของคนไข้ก็ต้องช่วยรักษาไปด้วย เช่น ในเคสนี้สิ่งที่ กลวัชร์ กังวลไม่ใช่เรื่องบาดแผลที่ยากเกินกว่าการรักษา แต่คุณลองนึกภาพนิ้วมือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วัย 3 ขวบ และขาดที่ปลายนิ้วชี้ ซึ่งเล็กจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อกลับเข้าไปใหม่ หากเทียบเคสนิ้วขาดแบบถูกกระชากที่เพิ่งผ่านมา เคสนิ้วเด็กผู้หญิงถือว่ายากที่สุดในแง่ของขนาดที่ต้องผ่าตัด คุณหมอหนุ่มในวัย 31 ขอเวลาเตรียมตัวให้พร้อมอีกครั้งสำหรับการผ่าตัดอีกรอบ

“สิ่งแรกที่ผมนึกถึงคืออาจารย์ของผม ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.สุรศักดิ์ วงศ์สมบัติ ท่านเป็นปรมาจารย์ศัลยแพทย์มือหนึ่งของศิริราช ซึ่งปัจจุบันท่านได้เกษียณไปแล้ว ผมนึกถึงท่านเป็นคนแรกหลังจากที่ผมแพ้ในการผ่าตัดนัดที่ผ่านมา แล้วมาเจอเคสของเด็กที่ยากมากๆ เคสหนึ่ง ผมบอกอาจารย์ครับ ผมไม่ไหวแล้ว ผมเพิ่งผ่าตัดนิ้วคนไข้ไม่ติด 3 นิ้ว แล้วมาเจอเคสนิ้วเด็กขาดปลายนิ้ว ผมจะรักษายังไง อาจารย์ตอบผมที่ปลายสายว่า ‘กลวัชร์ อั๊วเชื่อว่าลื้อต้องทำได้ ลื้อฟิกกระดูกด้วยเข็มแทงเข้าไปเลย แล้วลื้อต่อเส้นเลือดแดงเส้นเดียว ไม่ต้องต่อเส้นเลือดดำเพราะอยู่ปลายนิ้ว หาให้เจอ หายากหน่อย แต่ถ้าหาเจอแล้วต่อให้ติด เย็บทุกอย่างให้เรียบร้อย’ ซึ่งคำแนะนำของอาจารย์มีค่าสำหรับผมมาก จนถึงทุกวันนี้เวลามีเคสผ่าตัดยากๆ ผมก็มักจะโทรปรึกษาอาจารย์เสมอ”

“เคสนี้ผมต้องเอาเข็มฉีดยาแทงกระดูกปลายนิ้วที่ขาดแล้วต่อกับกระดูกที่นิ้วให้อยู่ในสภาพเดิมและนิ่งให้มากที่สุด จากนั้นรัดเส้นเลือดที่ต้นแขนเพื่อหยุดเลือด และใช้ด้ายเย็บแผลเบอร์ 10-0 ซึ่งเป็นเส้นด้ายที่มีขนาดเล็กมาก ถ้าพลาดทำตกพื้นไม่ต้องไปมองหากันเลย ไม่มีทางเจอ จากนั้นใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องหาเส้นเลือดแดงจนเจอแล้วเย็บเส้นเลือดแดง 6 เข็ม ซึ่งโชคดีอย่างหนึ่งก็คือเส้นเลือดยังอยู่ในสภาพที่ดี เพราะเป็นแผลแบบตัดขาดและต่อเส้นประสาทและส่วนอื่นๆ ทั้งหมดด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งวิธีนี้ในทางการแพทย์เราเรียกว่า จุลศัลยกรรม หลังจากผมเย็บเสร็จจนมั่นใจในระดับหนึ่งว่าเรียบร้อย จึงเริ่มคลายเส้นเลือดให้เลือดกลับมาเลี้ยงที่ปลายนิ้ว ปรากฏว่าปลายนิ้วกลับมามีสีแดงระเรื่อแสดงว่าเลือดเข้า การต่อนิ้วประสบความสำเร็จ ผมร้องไชโยด้วยความดีใจ เพราะเป็นเคสที่ยากกว่า 10 เท่า แต่ผมทำได้สำเร็จ”

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

แม้ว่าการผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ช่วงอันตรายที่สุดหลังการรักษาคือช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพราะเส้นเลือดมีลักษณะเป็นท่อกลวง หลังจากเย็บเส้นเลือดแล้วอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตัน หรืออาการแทรกซ้อนอื่นซึ่งยังวางใจไม่ได้เต็มที่ หมอหนุ่มที่เพิ่งเอาชนะการผ่าตัดที่ผ่านมาอยู่ในสภาพอดหลับอดนอนมาทั้งคืนเริ่มโรยแรงเต็มที และโชคดีที่ไม่มีเคสนิ้วขาดมาให้ผ่าตัดอีกในวันนั้น เขาขอตัวกลับไปพักผ่อนและตั้งใจจะกลับมาดูผลอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันถัดไป

“ผมกลับมาตรวจเยี่ยมเด็กอีกครั้ง เปิดผ้าพันแผลแล้วกดดู ปรากฏว่าเลือดยังคงเลี้ยงปลายนิ้วก็เป็นอันวางใจได้ว่าสำเร็จแน่นอน ผมหันไปบอกคุณพ่อว่าการผ่าตัดเรียบร้อย อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว คุณพ่อก็เดินเข้ามาบอกกับผมว่า ‘ผมขอบคุณคุณหมอมากนะครับ’ แต่ผมจำสายตาคู่นั้นได้ดีจนถึงทุกวันนี้ สายตาของลูกผู้ชายที่มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา สำหรับผมแล้วมันมีค่ากว่าเงินมาก เป็นความรู้สึกที่ผมภูมิใจและดีใจที่สุด และหลังจากนั้นมาไม่เคยมีนิ้วไหนของคนไข้ที่โรงพยาบาลขอนแก่น ที่ผมต่อไม่ติดอีกเลย”

หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำสถิติต่อนิ้วคนไข้ติด 36 นิ้ว ในเวลา 2 เดือนที่ทำหน้าที่เป็นแพทย์หมุนเวียนประจำโรงพยาบาลต่างจังหวัด จนพยาบาลขนานนามว่า หมอองคุลิมาล เขากลายเป็นหมอที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดต่อนิ้วมากที่สุดคนหนึ่งในเวลานั้น ชนิดที่เรียกได้ว่าเห็นนิ้วขาดไม่ว่าจะมารูปแบบไหน ก็รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร จนกระทั่งจบการศึกษาเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง ด้วยคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ศิริราช ประจำปี 2542 

ศัลยแพทย์ เปลี่ยนชีวิต

 

ไม่ใช่แค่รักษา แต่ต้องมอบชีวิตใหม่ให้คนไข้

ปัจุบันคุณหมอกลวัชร์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผันตัวมาเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงาม ดีอาร์เค บิวตี้ คลินิก เอกมัย แต่เขายังคงรับงานรักษาคนไข้ตามโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งยังคงเดินในเส้นทางของการเป็นแพทย์ผู้มีจิตเมตตา ด้วยการเข้าร่วมโครงการการผ่าตัดแก่ผู้ยากไร้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้เข้ามีโอกาสผ่าตัดมอบชีวิตใหม่ให้กับคนไข้ในอีกหลายเคส เช่น เคสชาวเขาถูกหมีตะปบจนใบหน้าผิดรูป

“เคสหมีตะปบเป็นคนไข้ที่เพื่อนสมัยเรียนแพทย์ด้วยกันส่งมาให้ เขาเป็นหมอออกตรวจตามชุมชน เป็นชาวเขาในต่างจังหวัด แล้วเจอเคสนี้มาจึงทำเรื่องส่งตัวมาให้ผมแก้ไข คนไข้คนนี้เล่าว่าได้เข้าไปเก็บของป่าแล้วเจอหมีควายโผล่ออกมาเข้ามาตะปบที่ใบหน้าทำให้ใบหน้าเสียโฉม แพทย์ช่วยชีวิตได้ทำการรักษาในเบื้องต้นเพื่อให้มีชีวิตรอด

“พอมาถึงมือผมเวลาก็ผ่านไปได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ผมต้องทำการปลูกถ่ายอวัยวะใช้เนื้อบริเวณหน้าผากไปปลูกถ่ายอีกทีนึง กระดูกใบหน้าที่เสียไปก็ผ่าตัดใช้กระดูกซี่โครงเข้ามาแทนที่ จากนั้นก็เอาเนื้อบริเวณหน้าผากที่ปลูกถ่ายเอามาต่อกลับที่เดิม” คุณหมอเล่าพลางยักคิ้วราวกับเรื่องที่ดูยากๆ เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาด้วยประสบการณ์ผ่าตัดเกือบ 20 ปี

กลวัชร์ ทิ้งท้ายว่า “งานศัลยกรรมไม่ใช่การเรียน อ่านหนังสือสอบได้ที่ 1 แล้วจะเก่ง แต่เป็นงานที่ต้องทำงานตามเส้นทางประสบการณ์ วุฒิบัตรทางการศึกษาเป็นเพียงใบที่ประกาศว่าผ่านการสอบจากอาจารย์แพทย์เท่านั้น แต่หมอจะเก่งได้ต้องใช้เวลาฝึกปรือฝีมือ และยังต้องอยู่ในแวดวงการศึกษาเพื่อรับรู้ข้อมูลการศึกษาใหม่ๆ เพื่อปรับแนวทางในการรักษาให้ดีขึ้น”

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ