อำลา "โค้ชอ๊อด-วรรณา"
ทั้ง “โค้ชอ๊อด” และ “ยายนา”ไม่ได้หายไปไหน พวกเขาจะอยู่ในความทรงจำของแฟนกีฬาวอลเลย์บอลตลอดไป
โดย...กษม จักรเครือ
ปิดฉากไปเรียบร้อย ศึกวอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทีมนักตบสาวไทยแพ้สาวหมวย จีน 0-3 เซต 23-25, 23-25 และ 12-25 คว้าอันดับ 6 เท่านั้น แต่ไม่ใช่บทสรุปของความยอดเยี่ยมของ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ที่เปิดหมวกอำลาทีมชาติไทยที่รับใช้มายาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ ในฐานะโค้ช เช่นเดียวกับ วรรณา บัวแก้ว ตัวรับอิสระวัย 35 ปี ที่ประกาศลาทีมชาติเช่นกัน
กระแสความนิยมวอลเลย์บอลไทยพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด คือการที่ทีมไทยคว้าแชมป์เอเชียในปี 2009 ที่เวียดนาม หลังจากที่สาวไทยเอาชนะมหาอำนาจลูกยางโลกอย่างทีมชาติจีน 3-1 เซต และในอีก 6 ปีต่อมา ไทยเป็นเจ้าภาพ “โค้ชอ๊อด” พาลูกทีมผงาดคว้าแชมป์ได้อีกครั้งที่ประเทศบ้านเกิด โดยเอาชนะญี่ปุ่นขาดลอย 3-0 เซต เรียกได้ว่า “โค้ชอ๊อด” คนนี้พาลูกทีมกรำศึกมาแทบทุกสนาม
สิ่งที่ยังคาใจโค้ชวัย 50 ปี คือไม่สามารถพาทีมคว้าตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล ในเกมกังขาที่แพ้ญี่ปุ่นแบบค้านสายตาชาวโลก นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายที่ชื่อเกียรติพงษ์ประกาศวางมือในการคุมทีมชาติไทย ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าของวงการวอลเลย์บอลไทย แต่ก็ต้องยอมรับและเคารพการตัดสินใจของเขาที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักทั้งชีวิต
“ขอบคุณแฟนวอลเลย์บอลที่เชียร์มาตลอด ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการวอลเลย์บอล อยากขอบคุณคุณพ่อ ที่สนับสนุนมาตั้งแต่เด็ก ขอบคุณสมาคมวอลเลย์บอล ที่สนับสนุนการทำงานตลอด 30 ปี รวมถึงโค้ชและนักกีฬาหลายๆ รุ่น ที่ช่วยพัฒนาวอลเลย์บอลจนถึงวันนี้มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก และมั่นใจว่าวอลเลย์บอลไทยจะไปได้อีกไกล พัฒนาต่อเนื่อง ขอฝากน้องๆ รุ่นต่อไปด้วย ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชและนักกีฬาที่ทำเต็มที่ ถึงแม้เราจะแพ้จีน แต่เราก็มีความพยายามเต็มที่ที่จะเอาชนะให้ได้ แล้วยังได้ประสบการณ์ที่ดีเพื่อที่จะพัฒนาต่อไป อีก 4 ปีข้างหน้ามั่นใจว่าไทยจะได้ลุยเวิลด์กรังด์ปรีซ์ต่อ เด็กๆ ชุดนี้จะพัฒนาขึ้นมา” โค้ชอ๊อดวัย 50 ปี กล่าว
หลังจากอำลาทีมชาติไทยในฐานะโค้ช เกียรติพงษ์ได้ลาออกจากงานที่วิทยุการบิน เพื่อไปทำงานคุมสโมสรปักกิ่งที่จีน 3 ปี โดยจะไปอยู่กับภรรยาและครอบครัวที่จีน เพื่อทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด
นอกจากนี้ “โค้ชอ๊อด” ยังชื่นชม วรรณา บัวแก้ว ที่เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ของครอบครัววอลเลย์บอล ที่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคและร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน
“ต้องขอบคุณ วรรณา บัวแก้ว ทีมเราเหมือนครอบครัวฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคมาเยอะ มีหลักคิด 5 ข้อ มีศรัทธา มีวิริยะ มีความพยายาม พากเพียร มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา เราใช้แก้ไข ส่วนวรรณาเป็นผู้เล่นที่ทรงคุณค่า ถึงไม่ได้เล่นแต่ความรู้ความสามารถจะเป็นแรงบันดาลใจ แรงจูงใจของเด็กๆ ขอชื่นชมในสปิริตของวรรณา”
ด้าน “ยายนา” วรรณา ประกาศอำลาทีมชาติเช่นกัน หลังรับใช้ชาติมาถึง 16 ปี
“ขอบคุณสมาคม สตาฟฟ์โค้ชทุกคน และแฟนวอลเลย์บอล ตลอดเวลา 16 ปี ที่ทำหน้าที่เพื่อชาติ มีความสุขทุกครั้งที่สวมเสื้อทีมชาติไทย นัดนี้ดีใจที่ได้ลงเล่น พวกเราตั้งใจเต็มที่ ฝากฝีมือให้แฟนๆ แม้จะแพ้แต่ก็แพ้อย่างน่าจดจำ น่าภาคภูมิใจ ขอบคุณแฟนๆ ที่มาเป็นกำลังใจให้ ถึงเลิกทีมชาติก็จะไม่ไปไหน จะยังมาเป็นสตาฟฟ์ โค้ชทีมชาติรอโอกาสจากสมาคม อยากฝากถึงน้องๆ ให้เล่นกันเต็มที่” ลิเบอร์โร วัย 35 ปี กล่าว
ขณะที่ ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันทีม เป็นตัวแทนของน้องๆ กล่าวว่ารู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะทั้ง “โค้ชอ๊อด” และ “พี่ณา” เปรียบเสมือนญาติกัน
“ก่อนแข่งได้บอกน้องๆ ว่าให้เล่นเต็มที่เพื่อคว้าอันดับ 5 เป็นของขวัญให้โค้ชอ๊อด แต่เรายังดีไม่พอ ผู้เล่นจีนชุดนี้สูงและมีความแข็งแรง ผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่หลายๆ อย่างทำให้เรามีความสุข เราเล่นด้วยใจเพื่อโค้ชอ๊อดเป็นวันสุดท้ายในการคุมทีม และพี่ณาเล่นวันสุดท้ายเช่นกัน ทั้งสองเปรียบเหมือนญาติ ขอบคุณทั้งคู่ที่ทำให้วงการวอลเลย์บอลไทยมีวันนี้”
เชื่อเหลือเกินว่า ทั้ง “โค้ชอ๊อด” และ “ยายนา”ไม่ได้หายไปไหน พวกเขาจะอยู่ในความทรงจำของแฟนกีฬาวอลเลย์บอลตลอดไป


