หนังอะไรเหรอ? “กวน มึน โฮ”
เรื่อง โจ-ลิฟวิ่ง
เรื่อง โจ-ลิฟวิ่ง
แค่ชื่อก็ชวนฉงนแล้วใช่ป๊ะ “กวน มึน โฮ” อืม...ตกลงมันหนังอะไรกันเนี้ย เพราะมีตั้ง 3 อารมณ์ในคราเดียวอยากรู้ก็ต้องรีบไปฟังคำเฉลยจากปากผู้กำกับ “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล” (ดังจาก ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ต่อด้วยความหลอนปนสยองใน แฝด สี่แพร่ง ตอนคนกลาง และห้าแพร่ง ตอนคนกอง) เลยดีกว่า
** คำจำกัดความ “กวน มึน โฮ” คืออะไร
“ กวน มึน โฮ เป็นหนังแนว โฮแมนติก กวนมิดี้ จะซึ้งแบบโรแมนติก แต่ก็มีความกวนบางอย่าง จีทีเอช ขึ้นชื่อเรื่องหนังรัก ผมมาทำก็ค่อนข้างกดดันอยู่แล้ว เพราะพี่ๆ ทำไว้ดีมาก แต่ผมก็รู้สึกว่า ลายเซ็นของผมไม่เหมือนคนอื่น เลยต้องทำให้ต่าง ทำให้สุดทาง คือมันจะเป็นหนังที่มีความกวนแอบโรแมนติก ในวินาทีที่ตลกที่สุด ผมอยากให้โรแมนติกด้วย หรือในวินาที โรแมนติก ดรามาสุดๆ ผมอยากให้ขำมาด้วย”
**ที่มาของหนัง (รักเรื่องแรก)
“พอดีได้ไปอ่านหนังสือ “สองเงาในเกาหลี” ของ “ทรงกลด บางยี่ขัน” เลยได้แรงบันดาลใจ มาพัฒนาบท และคิดตัวละครขึ้นใหม่ จนกลายมาเป็นหนัง “กวน มึน โฮ” นี่แหละ ซึ่งไม่ได้มีแค่ความโรแมนติกเท่านั้น แต่ผมได้ใส่สไตล์ของตัวเองลงไปด้วย นั่นคือความกวน”
**เสน่ห์ของหนังอยู่ตรงไหน
“เรื่องราวครับ การให้คนสองคนบังเอิญต้องเดินทางไปด้วยกัน สุดท้ายพวกเขาก็มีความคิดแบบฮาๆ สนุกๆ ว่าเราไม่รู้จักชื่อกันดีกว่าไหม เพราะรู้สึกว่าเวลาที่ไปอยู่เมืองนอก เวลาไปอยู่ในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครฟังออก จะทำอะไรก็ได้ จะกล้าทำอะไรทุเรศทุรังแค่ไหน ก็ไม่ต้องแคร์สายตาใคร นอกจากคนเกาหลีไม่รู้จักเราแล้ว เราก็ไม่ต้องรู้จักกันด้วย จะได้กล้าพูดกล้าเล่าทุกอย่าง ผมว่ามันเป็นความพิเศษที่ผมรู้สึกว่าไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำมาก่อน”
**ใช้พลังกับมันเยอะไหม
“ตั้งแต่ทำหนังมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หนักที่สุด และกังวลที่สุด บทแก้แล้วแก้อีก เป็น 20 ร่าง เพราะอยากให้มันดีที่สุด มันยากตรงที่หนังสยองขวัญภาพในหัวจะชัดมาก ภาษาหนังเป๊ะๆ หนังเรื่องนี้จะมีการคุยกันเยอะ ในฉากเดียว สามารถกำกับได้เป็นร้อยแบบ จะพูดด้วยอารมณ์ไหน ความกวนแค่ไหน มันค่อนข้างยาก การแสดงของ 2 คนนี้ ตีความได้หลายทาง ผมเลยค่อนข้างหนักใจ พอไปเวิร์คช้อป ปล่อยให้น้องๆ อิมโพร์ไวท์บ้าง บางอย่างตามไดแร็กชั่น"
**จากหนังผีมาถึงหนังรัก การทำงานแตกต่างกันยังไง
“ผมว่าด้วยไดแรกชั่นของเรื่องนี้ ทำให้ยากที่สุด มันไม่ใช่โรแมนติกคอมเมอดี้ธรรมดา มันต้องกล้าที่จะไปสุดทาง กล้าที่จะปัญญาอ่อนด้วย ขณะเดียวกัน มันต้องลงเอยด้วยโรแมนติก ไม่ใช่หนังมุกตลกเยอะ อย่างคนกอง (ห้าแพร่ง) มันโดนทรีตว่าเป็นตลกล้อเลียน พอไปสุดทาง ความยากตอนนั้น คือผสมกับความสยองขวัญ ให้มันได้รสชาติกลมกล่อม อันนั้นผมคิดว่าผ่านการทดลองมาแล้วจากคนกลาง (สี่แพร่ง) พอคนกองมันมากขึ้น ก็เลยช่วยได้ แต่เรื่องนี้เป็นของใหม่ มันมีความจริงจัง มีความโรแมนติกอยู่ ซึ่งดีกรีไหนมันจะพอดี ไม่ออกทะเลซะจนฮาอย่างเดียว ผมรู้สึกว่าตอนท้าย กวนมึนโฮ ต้องมีโฮตอนท้ายให้ได้ และเป็นความโฮที่มันต้องพอดี มันยากที่สุดตรงนี้แหละ ตอนแรกมันเหมือนกับว่าเป็นหนังแอนตี้โรแมนติก สุดท้ายไม่ใช่แค่แอนตี้ ทำอย่างไรละจะให้ได้รสชาติเหล่านั้นด้วยวิธีที่แตกต่างในฐานะหนังโรแมนติกที่เราด่ามันตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ยังโรแมนติกอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้ายผมมาก”
จะกวนจะมึนจะโฮแค่ไหน แฟนๆ ก็เตรียมไปให้กำลังใจผู้กำกับ พระเอกสุดหล่อ “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” และนางเอกใหม่หน้าใสกิ๊ก “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” กันได้ ฉายจริง 19 สิงหาคมนี้


