posttoday

สถาปนิกหนุ่มสุดฮิป เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน

22 มิถุนายน 2559

เฟียท-เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน สถาปนิกหนุ่มวัย 32 ปี จากบริษัท Anghin Architecture จบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

โดย...ภาดนุ ภาพ... เสกสรร โรจนเมธากุล

เฟียท-เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน สถาปนิกหนุ่มวัย 32 ปี จากบริษัท Anghin Architecture จบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นับเป็นคนรุ่นใหม่มากความสามารถที่มีเรื่องราวน่าสนใจ นอกจากงานในสายอาชีพสุดสร้างสรรค์ของตัวเองแล้ว เขายังเสียสละเวลาส่วนตัวมาเป็นสถาปนิกจิตอาสา ที่ลุกขึ้นมาทำงานเพื่อสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

“ผมเกิดและโตที่ จ.ชลบุรี พอเรียนจบ ม.3 ก็เลือกเรียนทางสายอาชีวะที่โรงเรียนเทคนิคสัตหีบ โดยเลือกเรียนทางด้านก่อสร้างโดยเฉพาะ พอเข้า ปวช.ปี 1 ก็ลงมือก่ออิฐถือปูนกันเลยละ ต้องฝึกวิชาก่อสร้างทุกอย่าง แล้วยังต้องเขียนแบบได้ด้วย เรียกว่าเรียนจบ ปวช.ปี 3 นี่ต้องสร้างบ้านไม้ได้1 หลัง ประกอบกับตัวผมชอบวาดรูปและชอบงานออกแบบต่างๆ มาตั้งแต่เด็ก พอโรงเรียนมีงานอะไรผมก็มักจะได้รับหน้าที่ตรงนี้ แล้วผมยังส่งผลงานหลายชิ้นเข้าประกวดและเข้าแข่งขันด้านวิชาชีพอีกด้วย ซึ่งก็ได้รับรางวัลติดไม้ติดมือมาบ้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมรู้สึกดีที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ซะมากกว่า”

สถาปนิกหนุ่มสุดฮิป เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน

หลังเรียนจบอาชีวะ เฟียทเลือกเรียนต่อปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่พอขึ้นปี 2 ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง จึงไปดูงานออกบูธแนะแนวการศึกษา และสนใจคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรังสิต แต่เพราะฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย เขาจึงไปสมัครกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จนได้เข้าเรียนต่อคณะที่ชอบสมใจ

“จะพูดว่าผมเริ่มต้นอาชีพสถาปนิกและอินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ มาตั้งแต่เรียนอยู่ปี 2 ปี 3 ก็ไม่ผิดนัก เพราะผมได้เข้าไปขอฝึกงานที่บริษัทสถาปนิกต่างชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็ยอม เพราะได้เห็นผลงานที่ผมเคยส่งประกวดและได้รางวัลผ่านตามาบ้าง ผมจึงใช้ช่วงเวลาตอนปิดเทอมไปฝึกงานที่บริษัทนี้ อยู่ที่ภูเก็ต ซึ่งบริษัทยังใจดีส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ พร้อมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย (ยิ้ม) ผมฝึกงานที่นี่ปีละ 2 เดือน ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

ที่นี่ทำให้ผมได้ฝึกออกแบบโครงสร้างอาคาร ออกแบบภายใน และออกแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นสถาปนิกจะบอกคอนเซ็ปต์มา แล้วผมจึงมาวาดลงกระดาษแปลนอีกที การที่ผมมีความรู้ด้านก่อสร้างดีอยู่แล้วจึงทำงานได้ง่ายขึ้น

สถาปนิกหนุ่มสุดฮิป เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน

 

ผลงานจริงจังชิ้นแรกของผมก็คือการออกแบบตกแต่งภายในคอนโดขนาด 75 ตร.ม. สไตล์โมเดิร์น มินิมัล ของเพื่อน พอตกแต่งเสร็จปุ๊บ ‘นิตยสารบ้านและสวน’ ก็มาติดต่อขอถ่ายภาพลงคอลัมน์ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เพราะเหมือนงานชิ้นแรกของเราประสบความสำเร็จ”

พอผลงานได้ลงนิตยสาร ก็เริ่มมีคนมาจ้างให้เฟียทออกแบบตกแต่งบ้านหรือคอนโดอยู่เรื่อยๆ ที่ผ่านมาผลงานของเขาได้ลงนิตยสารหลายเล่ม อาทิ room art4D และ
home & decor ซึ่งเมื่อเรียนจบมาเขาก็รับงานอิสระมาโดยตลอด ด้วยฝีมือและผลงานที่สามารถการันตีได้จากรางวัลประกวดออกแบบต่างๆ ที่คว้ามาได้ เช่น “นาวาวู้ด ดีไซน์ อวอร์ด 2007” “ไทยน็อกซ์ ดีไซน์ อวอร์ด 2008” และ “ไมก้า เบสต์ ดีไซเนอร์ เสิร์ช 2008” ซึ่งเป็นการประกวดออกแบบบ้านพร้อมสระว่ายน้ำ (ได้รางวัลรองชนะเลิศ) ก็ทำให้มีลูกค้ามาจ้างงานอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในผลงานการออกแบบที่คนรู้จักดีก็คือ ร้านอาหารบ้าน (Baan) ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 7 ร้าน อาหารไทยที่มีสไตล์สำหรับคน “เจเนอเรชั่น ซี” (Generation Z) โดยเฉพาะ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะให้ความรู้สึกเหมือนกับนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านกับครอบครัวในวันสบายๆ เพราะตกแต่งได้อย่างอบอุ่นลงตัว หน้าร้านมีฉากกั้นด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา หรือแม้แต่คอนโดคอมแพกต์ไซส์ที่มีขนาดห้อง 40 ตร.ม. เขาก็สามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศการใช้งานและการลื่นไหลของสเปซระหว่างความโปร่งโล่งและความเป็นส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สถาปนิกหนุ่มสุดฮิป เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน

 

“งานของผมส่วนใหญ่เป็นการออกแบบสร้างบ้าน ปรับโครงสร้างตึกเก่า ตกแต่งภายในคอนโด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่นๆ ต้องบอกว่าผมเริ่มต้นกับโปรเจกต์ก่อสร้างและงานออกแบบมาหลายแห่ง จนตกหลุมรักงานสถาปนิกและงานดีไซน์ที่เน้นรูปโฉมของความเรียบง่าย แต่มีรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจ ซึ่งผมต้องไปพูดคุยให้รู้ถึงความชอบและความเป็นตัวตนของผู้จ้าง เพราะผมมีความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าพื้นที่จะมีขนาดใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ถ้าเราเห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของพื้นที่นั้น เราก็จะนำมันออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและถูกใจลูกค้ามากที่สุดด้วย”

เมื่อไม่นานมานี้ เฟียทมีโอกาสได้รับหน้าที่สถาปนิกจิตอาสาและดีไซน์ ไดเรกเตอร์ ในการออกแบบ “ศูนย์ไฟฟ้า สาขาบางกอกน้อย” บนถนนอิสรภาพ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ฟรีสำหรับเยาวชนที่ได้รับการสนับสนุนโดย ทีเอ็มบี (TMB) ให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชนอายุ 12-19 ปี ได้ค้นพบศักยภาพตนเอง เห็นพลังของตนเอง คิดเอง ทำเอง พึ่งตนเอง และสร้างสรรค์แนวทางในการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คืนสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของชาวชุมชนบางกอกน้อย ผ่านการชักชวนของ ภารไดย ธีระธาดา ประธานมูลนิธิทีเอ็มบี ซึ่งเคยได้เห็นผลงานของเขามาก่อน

“ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ถือเป็นแห่งที่ 4 ที่มูลนิธิทีเอ็มบีได้ทำมา โดยทั้ง 3 แห่งที่ผ่านมาล้วนใช้สถาปนิกฝีมือดีชาวต่างชาติเป็นผู้ออกแบบทั้งสิ้น ซึ่งทุกคนเป็นสถาปนิกจิตอาสาที่ทำงานด้วยใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อทางทีเอ็มบีติดต่อมา ผมรู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นสถาปนิกคนไทยคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้ ผมจึงตอบตกลงในทันทีเพราะถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในชุมชนบางกอกน้อย ซึ่งมีภูมิหลังทางด้านฐานะครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับตัวผม”

สถาปนิกหนุ่มสุดฮิป เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน

เฟียทเล่าว่า จุดเริ่มต้นของงานนี้เริ่มจากต้องเข้าไปสำรวจอาคารและดูสถานที่จริงก่อน ซึ่งแต่เดิมเป็นอาคารพาณิชย์ที่ถูกทิ้งร้างมานาน จากนั้นก็เริ่มศึกษาชุมชนรอบข้าง โดยได้นำคอนเซ็ปต์เรื่องวิถีชีวิตความเป็นไทยตามบริบทของชุมชนบางกอกน้อย ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของการดีไซน์มาตีความ แต่ด้วยตัวอาคารที่มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม เลยมีโจทย์ที่ว่าจะดึงจิตวิญญาณความเป็นไทยเข้ามาได้อย่างไร เขาและทีมจึงได้ศึกษาชีวิตของชาวชุมชนบางกอกน้อยเพิ่มเติม จึงพบว่ามีการใช้ชีวิตแบบริมน้ำและกลางแจ้งผสมผสานกัน ดังนั้นศูนย์เรียนรู้นี้จึงมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นลานไว้ให้คนสามารถมาใช้สอยได้

“อย่างตัวพื้นของศูนย์ก็จะเป็นลักษณะของอิฐ หรือการตกแต่งส่วนใหญ่ก็จะใช้สีของวัสดุนั้นๆ ไปเลย หรือใช้เฟอร์นิเจอร์และการเคลื่อนไหวของคนที่มาใช้สอยพื้นที่เป็นสีสันแทน รวมทั้งมีลานกว้างไว้ให้ใช้สอยด้วย ซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับลานวัด ลานหมู่บ้าน ที่คนมักจะมาปฏิสัมพันธ์กัน เพื่อสื่อความหมายของความเป็นอิสระ จึงไม่ต้องมีประตูหรือกระจกมากมายมากั้น แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ต้องคำนึงถึง นั่นคือโครงสร้างของที่นี่ เราจึงต้องทุบกำแพงเพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติให้มากขึ้น

ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้เปิดตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าแต่ละศูนย์ก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ตอนที่ลงมือทำก็มีทีมมาช่วยครับ ทั้งทีมช่าง ทีมวิศวกร และทีมออกแบบ โดยผมจะทำหน้าที่สถาปนิกและดีไซน์ ไดเรกเตอร์อีกที ซึ่งทุกคนก็อาสามาช่วยด้วยใจทั้งสิ้น ที่นี่จึงมีทั้งห้องสมุด ห้องเรียนศิลปะ และลานกิจกรรม โดยให้เยาวชนในชุมชนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกได้ฟรี และได้ข่าวว่าตอนนี้ก็มีคนมาสมัครสมาชิกเต็มแล้วครับ”

สถาปนิกหนุ่มทิ้งท้ายว่า ที่เขารับงานจิตอาสาเพราะต้องการช่วยสังคมเท่าที่ตนเองสามารถช่วยได้ ถ้ามีงานเพื่อสังคมอื่นๆ ที่เหมาะสมเขาก็ยินดีช่วยเสมอ เพราะรำลึกว่าตนเองก็เคยได้รับการหยิบยื่นโอกาสที่ดีมาเช่นกัน ตั้งแต่เริ่มโครงการมาแม้ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน กว่าจะแล้วเสร็จ แต่ความเหนื่อยล้าก็กลายเป็นความภาคภูมิใจ เมื่อรู้ว่าสิ่งดีๆ ที่ได้ทำจะตกอยู่กับเด็กและเยาวชนในสังคมไทยต่อไป ติดตามผลงานได้ที่ FB : Anghin Architecture

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68