ขนมหวานสุดสร้างสรรค์ นนทวรรธ โรจนศักดิ์ชัย
เชฟหนุ่มหน้าใสวัย 30 กว่าๆ นนท์-นนทวรรธ โรจนศักดิ์ชัย
โดย...ภาดนุ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
เชฟหนุ่มหน้าใสวัย 30 กว่าๆ นนท์-นนทวรรธ โรจนศักดิ์ชัย เรียนจบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและจบปริญญาโทด้านการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อดูจากสาขาที่เรียนแล้วก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาชีพเชฟแต่อย่างใด แล้วไปไงมาไงเขาถึงได้มาเป็นเชฟและเป็นเจ้าของร้านขนม “บริกซ์ ดีเซิร์ต บาร์” (Brix Dessert Bar) ได้ล่ะ
“ตอนที่เรียนจบปริญญาตรี ผมก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเหมือนคนอื่นๆ แต่พอจบปริญญาโทผมก็ไปช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ซึ่งทำโรงงานผลิตโครงเหล็กนั่งร้านที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารและตึก โดยรับผิดชอบงานด้านฝ่ายขายและเข้าไปช่วยจัดระบบให้เข้าที่ พอทำได้ 1 ปีทุกอย่างลงตัว ผมจึงเริ่มมองหาคอร์สการเรียนศิลปะที่น่าสนุกและน่าสนใจเพื่อเติมเต็มชีวิตตัวเอง โดยมองหาคอร์สที่สามารถเรียนวันเสาร์ได้
คอร์สที่ผมสนใจก็คือการออกแบบที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ แต่พอไปฟังดูจริงๆ แล้วมันยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไร ขณะที่ผมขับรถไปหาเพื่อนที่สยามฯ แล้วติดไฟแดงอยู่แถวโรงแรมดุสิตธานี ผมก็เห็นเขาติดป้ายสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ ไว้พอดี ซึ่งช่วงนั้นเพิ่งมาเปิดสอนที่เมืองไทยใหม่ๆ ผมจึงเปลี่ยนใจไปสมัครเรียนทำขนมที่นี่แทน”
นนท์ บอกว่า แม้ตอนเด็กๆ เขาจะชอบกินเบเกอรี่หรือของหวานมาก แต่ก็ยังไม่เคยคิดอยากจะเป็นเชฟขนมเลยสักที ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรมาดลใจให้อยากเรียนทำขนมขึ้นมาซะอย่างนั้น เพราะเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วมาก
“ผมไม่เคยทำขนมมาก่อนเลยนะ แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็ลุยไปข้างหน้าเลย ปกติเขาจะเรียนกันวันธรรมดา สัปดาห์ละ 3 วัน แต่ผมสะดวกเรียนทุกวันเสาร์ จึงต้องเรียนทั้งวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงสองทุ่ม แถมบางคลาสถ้าคนสมัครเรียนไม่เต็มก็ไม่เปิดสอน ทำให้ผมใช้เวลาเรียนถึงปีครึ่งกว่าจะจบ แต่ก็ถือว่าได้ฝึกฝีมืออยู่ตลอดเวลาจนได้ประกาศนียบัตรมา
ช่วงที่เรียนจบ ผมชอบทดลองทำขนมและมักจะอัพภาพลงเฟซบุ๊ก Nontawat Rojanasakchai บ่อยๆ พอดีพี่ๆ ทีมงานของรายการอาหารมาเห็นเข้า ก็เลยชวนผมไปเป็นเชฟในรายการ 'กอสซิป คิตเช่น' ทางช่องเฮลท์พลัสเป็นรายการแรก ต่อมาพอมีอินสตาแกรมผมก็อัพภาพขนมลงไปเรื่อยๆ จึงได้ไปเป็นเชฟในรายการ 'เชฟชวนชิม' ทางช่องอัมรินทร์ทีวี ซึ่งก็ทำอยู่เกือบปีจนรายการเลิกไป”
นนท์ เสริมว่า ระหว่างนั้นเขาได้ลงแข่งขันโปรเจกต์ทำขนมของบูติกโฮเต็ลแห่งหนึ่งที่เกาะสมุย โดยส่งสูตรขนมที่คิดเองไปให้คณะกรรมการพิจารณา ซึ่งจะดูทั้งวิธีทำ รสชาติ และรูปลักษณ์ของขนม แล้วเชฟนนท์ก็สามารถคว้ารางวัลที่ 1 มาครองได้ ทำให้เขารู้สึกมั่นใจในฝีมือการทำขนมของตัวเองมากขึ้น
“ผมคิดว่าตัวเองก็มาถูกทางเหมือนกันนะ แต่ผมก็ยังทำงานประจำ คือ ดูแลธุรกิจครอบครัวไปพร้อมกันด้วย โดยใช้เวลาหลังเลิกงานฝึกฝีมือการทำขนม จนเพื่อนๆ ให้ฉายาว่า ‘มิดไนต์เชฟ’ เพราะทำขนมเสร็จตอนเที่ยงคืนทุกที แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยนะ เหมือนเป็นการคลายเครียดจากงานและช่วยเติมเต็มชีวิตอีกส่วนหนึ่งของเราได้
แรกๆ ผมก็ยังไม่คิดที่จะเปิดร้านเบเกอรี่หรอกครับ เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งเท่าคนที่ทำอาชีพเชฟแบบเต็มเวลา แต่พอผมอัพภาพขนมลง IG : Nonshiro ก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมียอดฟอลโลว์หมื่นกว่าคน และเริ่มมีคนถามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าขนมที่ลงในไอจีจะหาชิมได้ที่ไหน ทีนี้ผมก็เริ่มคิดละ บวกกับแรงยุจากครอบครัวด้วย ผมจึงตัดสินใจเปิดร้าน ‘บริกซ์ ดีเซิร์ต บาร์’ ขึ้นที่โครงการเดอะ คอมมอนส์ ทองหล่อ 17 โดยหุ้นกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ 5 คน”
นนท์ บอกว่า เปิดร้านมาตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด มีลูกค้าเข้าร้านไม่ได้ขาด ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านก็คือ “ฮอตโตะเคกิ” เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่น เป็นซูเฟล่แพนเค้ก ที่มีส่วนผสมของไข่ขาวกับแพนเค้กอบสดๆ ได้ความหอมอร่อยนุ่มฟู อีกเมนูคือ “บริกซ์ บ็อกซ์” เป็นขนมปังที่ทำเองซึ่งภายนอกจะดูเหมือนโทสต์ แต่ข้างในจะมีช็อกโกแลตกานาจที่หยุ่นๆ เยิ้มๆ
“จุดเด่นของขนมที่ร้านคือความคิดสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมชอบคำพูดประโยคหนึ่งของลูกค้าที่บอกว่า ร้านนี้มีเมนูขนมมิติใหม่ ซึ่งฟังแล้วรู้สึกดีมากๆ เลยครับ ต่อไปรับรองว่าจะมีเมนูใหม่ๆ ที่ตื่นตาตื่นใจออกมาให้ชิมอีกแน่นอน"
นนท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตเขาคิดไว้ว่าอยากจะเปิดสาขาร้านบริกซ์ฯ ให้มากขึ้น เพราะสาขาแรกนี้ถือเป็นสาขานำร่องที่ต้องลองผิดลองถูกและต้องปรับปรุงหลายอย่างให้ลงตัว ซึ่งในอนาคตเขาอยากจะเปิดสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่คงต้องรอให้พร้อมกว่านี้อีกสักหน่อย
“ตั้งแต่เปิดร้านมาผมยังไม่ค่อยได้หยุดพักเลยครับ แต่ถ้ามีช่วงที่ว่างจริงๆ ผมจะชอบไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูขนมใหม่ๆ เพราะการที่มีโอกาสได้ไปตะลุยหาขนมอร่อยๆ กิน มันได้ทั้งฟีลลิ่งได้ทั้งแรงบันดาลใจ พอกลับมาก็จะได้ไอเดียดีๆ มาปรับใช้และครีเอทเมนูใหม่ๆ ของเราได้ด้วยครับ”
เบอร์รี่ บริยอช ไอศกรีม แซนด์วิช
ส่วนผสม
- ขนมปังบริยอช นม เนย ไข่ และน้ำตาล
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่
- ไอศกรีมวานิลลาและซอสเบอร์รี่
วิธีทำ
1.นำขนมปังบริยอชที่ทำเองมาสไลซ์ให้เป็นแผ่น กว้างชิ้นละ 1.5 ซม. แล้วทาเนย นม และไข่ลงไปบนขนมปัง
2.จากนั้นนำขนมปังไปจี่บนกระทะที่ร้อนโดยใช้ไฟปานกลาง โรยน้ำตาลบนผิวขนมปังด้านหนึ่ง แล้วนำไปจี่กับกระทะอีกทีจนน้ำตาลละลายเคลือบผิวของขนมปัง ทำทั้งหมด 2 แผ่น แล้วพักไว้
3.นำสตรอเบอร์รี่มาหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำทั้งบลูเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี่ และสตรอเบอร์รี่ที่หั่นแล้วมาเทลงในซอสเบอร์รี่คนให้เข้ากัน
4.นำขนมปังที่พักไว้วางบนจานก่อน 1 ชิ้น ตักไอศกรีมวานิลลา 2 ก้อนวางลงบนขนมปัง แล้วราดด้วยซอสเบอร์รี่และผลไม้ที่ผสมไว้ สุดท้ายวางขนมปังอีกแผ่นประกบบนไอศกรีมโดยให้ด้านที่เคลือบน้ำตาลอยู่ข้างบน แล้วใช้ไม้ไอศกรีมเสียบไว้เพื่อไม่ให้ขนมปังขยับ เสิร์ฟได้เลย


