นั่งรถไฟไปค่ายทหาร
ช่วงหยุดยาววันวิสาขบูชา 20-23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เอาเวลาทั้งหมดไปใช้กับการนั่งรถไฟไปเที่ยวทะเล
โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย
ช่วงหยุดยาววันวิสาขบูชา 20-23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เอาเวลาทั้งหมดไปใช้กับการนั่งรถไฟไปเที่ยวทะเล เป้าหมายครั้งนี้อยู่ไม่ใกล้และไม่ไกลจาก กทม.มากนัก คือ ประจวบคีรีขันธ์
เวลาใครมาประจวบฯ ก็จะมุ่งหน้าไปที่ “หัวหิน” ซึ่งเป็นอำเภอแรกของจังหวัดนี้เป็นส่วนใหญ่ อาจจะด้วยเป็นสถานที่ตากอากาศที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่ผมไม่ได้เลือกหัวหินเป็นปลายทาง เพราะปลายทางผมอยู่ที่ “กองบิน 5”ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง
นั่งรถไฟจาก กทม.ขึ้นที่หัวลำโพง ต้องขอบอกว่าไปรถไฟไม่ยากลำบากอย่างที่ใครๆ คิด กลับรู้สึกสะดวกสบายด้วยซ้ำ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงที่หมายลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์และนั่งรถรับจ้างราคาไม่แพงเข้าไปลงที่กองบินอีก 10 นาที
ระหว่างทางไปกองบิน พบว่าในตัว อ.เมืองประจวบฯ ค่อนข้างเงียบพอสมควร ผิดกับหัวหินที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเมืองที่ไม่มีวันหลับอย่างที่หลายๆ คนเคยไปสัมผัสกันมาแล้ว
กองบิน 5 เป็นหนึ่งในสถานที่ราชการของกองทัพอากาศ และมีประวัติการต่อสู้ในช่วงกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกด้วย ทางกองทัพได้สร้างพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานรำลึกวีรกรรมทหารกล้าของไทยเอาไว้
ภายในกองบินมีสถานที่พักรองรับนักท่องเที่ยว แต่ควรจองล่วงหน้าไปก่อน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมีหลายจุด อย่างอ่าวมะนาว เป็นชายหาดที่สะอาดทั้งน้ำและทราย ในทุกๆ วันจะมีทหารลงมาลาดตระเวนเก็บขยะทุกวัน อาหารการกินและเตียงผ้าใบภายในบริเวณนั้นราคาย่อมเยา ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าของครอบครัวข้าราชการทหารอากาศ
บรรยากาศรอบๆ ถือว่าสงบพอสมควร อาจเป็นเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในค่ายทหารด้วย ทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวที่ส่งเสียงรบกวนมากนัก เลยทำให้อ่าวมะนาวยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องความสงบเงียบเอาไว้ได้
แต่หากจะบอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่สุดของกองบิน 5 คืออะไร คงต้องขอยกให้กับ “เขาล้อมหมวก” สูงจากพื้นดิน 902 ฟุต
การเดินขึ้นไปแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกเป็นบันไดเดินสบายๆ ทีละขั้นเรียกเหงื่อได้นิดหน่อย ช่วงสองเป็นการเดินไต่เชือก ตรงนี้ที่ทรหดสุดๆ ทั้งชันทั้งเสียว ถึงจะดูหวาดเสียวแต่ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของทหารไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน
ใช้เวลาร่วมๆ 1 ชั่วโมงก็ถึงบนยอด บนนั้นมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองเอาไว้ ที่สำคัญมีวิวทะเลสลับทิวเขาของ จ.ประจวบฯแบบ 360 องศาเป็นรางวัลตอบแทน
ตอนขึ้นว่าทรหดแล้ว ตอนลงนั้นกลับทรหดกว่าอีกเท่าตัว ต้องฝ่าทั้งความชันของภูเขาและปริมาณของนักท่องเที่ยวที่เริ่มเยอะในช่วงสายของวันแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
บอกไว้ก่อนว่าทางกองบิน 5 เปิดให้นักท่องเที่ยวพิชิตยอดเขาได้เฉพาะช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการอำนวยความสะดวก ดังนั้นถ้าใครสนใจต้องสอบถามข้อมูลให้แน่ชัด มิเช่นนั้นอาจไปเสียเที่ยวได้
สรุปทริปนี้ “เที่ยวอิ่ม-ใช้เงินไม่เยอะ” และยังคงเชื่อมั่นเสมอว่าการท่องเที่ยว คือ ยาชูกำลังและสร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุด อย่างที่สุภาษิตจีนบอกไว้ว่า “อ่านหนังสือหมื่นเล่มยังไม่สู้เดินทางพันลี้” ขอสนับสนุนให้ทุกคนเที่ยวกันเยอะๆ ครับ


