เซนได สวยดี 8
ทานหอยนางรมกันอย่างอิ่มหมีพีมันแล้ว เราก็ไปเดินย่อยกันที่ Matsushima Sakana Ichiba ตลาดขายอาหารทะเลขนาดย่อมที่อยู่ไม่ไกลจากร้าน Matsu ตัวอาคารมี 2 ชั้น มีทั้งอาหารทะเลสดๆ ที่จับได้จากอ่าว Kesennuma และชายฝั่ง Sanriku อาหารแห้งและแปรรูปก็มีให้เลือกซื้อด้วยเหมือนกัน หรือจะทานอาหารก็มีทั้งซูชิ อุด้ง ราเมง แต่ที่ผมสนใจมีอยู่ 2 เมนู คือ Kaki ramen หรือราเมงที่มีเครื่องเป็นหอยนางรมเสิร์ฟมาด้วยอีก 5 ตัวใหญ่ และ Fukahire ramen หรือราเมงหูฉลามที่น่าจะถูกคอคนไทย ใจอยากจะลองทั้งสองเมนูแต่หอยนางรมกว่า 10 ตัว ที่เพิ่งทานไปยังอัดแน่นอยู่เต็มท้อง เลยได้แต่ฝากไว้รอบหน้ามาจัดแน่นอน เพราะเห็นราคาเพียงชามละ 900 เยนแล้ว คิดยังไงก็คุ้ม ราคาแค่นี้ที่บ้านเราทานหูฉลามไม่ได้แน่นอน
ทานหอยนางรมกันอย่างอิ่มหมีพีมันแล้ว เราก็ไปเดินย่อยกันที่ Matsushima Sakana Ichiba ตลาดขายอาหารทะเลขนาดย่อมที่อยู่ไม่ไกลจากร้าน Matsu ตัวอาคารมี 2 ชั้น มีทั้งอาหารทะเลสดๆ ที่จับได้จากอ่าว Kesennuma และชายฝั่ง Sanriku อาหารแห้งและแปรรูปก็มีให้เลือกซื้อด้วยเหมือนกัน หรือจะทานอาหารก็มีทั้งซูชิ อุด้ง ราเมง แต่ที่ผมสนใจมีอยู่ 2 เมนู คือ Kaki ramen หรือราเมงที่มีเครื่องเป็นหอยนางรมเสิร์ฟมาด้วยอีก 5 ตัวใหญ่ และ Fukahire ramen หรือราเมงหูฉลามที่น่าจะถูกคอคนไทย ใจอยากจะลองทั้งสองเมนูแต่หอยนางรมกว่า 10 ตัว ที่เพิ่งทานไปยังอัดแน่นอยู่เต็มท้อง เลยได้แต่ฝากไว้รอบหน้ามาจัดแน่นอน เพราะเห็นราคาเพียงชามละ 900 เยนแล้ว คิดยังไงก็คุ้ม ราคาแค่นี้ที่บ้านเราทานหูฉลามไม่ได้แน่นอน
จากตลาดเดินผ่านท่าเรือและวิหาร Godaido ขึ้นไป ตลอดทางเป็นร้านขายของที่ระลึกมีทั้งขนมและข้าวของ จนถึงทางเข้าวัด Zuiganji และ Entsuin วัดแรกซุยกันจิเป็นวัดนิกายเซน ถูกก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 828 และได้รับการบูรณะให้เป็นวัดประจำตระกูลของท่านดาเตะ มาซะมุเนะ ในปี ค.ศ. 1609 จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่วิหารหลักสุดทางของแนวสน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าช่วงที่เราไปอยู่ในระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่เลยอดชม ส่วนวัดเอนทสึอินเป็นวัดที่สร้างขึ้นทีหลังในปี ค.ศ. 1646 เพื่ออุทิศให้กับ Kannon-sama พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หรือเจ้าแม่กวนอิม มีรูปเคารพประทับอยู่ในตัววิหารหลัก Daihitei และยังมีอีกอาคารที่ด้านในเป็นสุสานของ Date Mitsumune หลานชายท่านดาเตะ มาซะมุเนะ โดยย้ายเรือนพักร้อนของท่านมิตสึมุเนะจากเอโดะมาทำเป็นสุสาน จุดเด่นอยู่ที่ลวดลายประดับแบบตะวันตกที่แอบแฝงอยู่ในสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะงานเพนต์รูปดอกกุหลาบที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่นก็หาดูได้ที่นี่ อีกทั้งลวดลายรูปหัวใจและข้าวหลามตัด ยิ่งเป็นความแตกต่างที่กลมกลืนอย่างไร้ที่ติ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ ด้านหน้าประตูวัด Entsuin มีมุมหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ทางฝั่งซ้าย เห็นตุ๊กตาไม้โคเคชิประดับอยู่เต็มไปหมด สอบถามได้ความว่า เป็นตุ๊กตาที่ผู้คนเช่ามาวางเพื่ออธิษฐานของคู่จากพระโพธิสัตว์ คล้ายๆ กับที่อื่นที่มีป้ายม้า Ema ไว้ให้เขียน แต่ที่นี่เปลี่ยนเป็นเขียนบนตุ๊กตาโคเคชิแทน
ก่อนกลับเข้าเมืองเซนได เราแวะเที่ยว Sendai Umino-Mori Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งใหม่ใกล้กับท่าเรือเซนไดที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ ทำให้เราเดินเที่ยวชมได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องใช้เวลานานจนเกินไป ในสวนสัตว์อื่นเรามักจะเห็นเพนกวินพาเหรดเดินมาเป็นขบวน แต่ของที่นี่เขาทำเป็นสะพานลอยใสๆ ให้เดินอยู่เหนือหัวเรา เป็นมุมมองที่แปลกตากว่าที่อื่น โชว์ปลาโลมาของที่นี่ก็ดี ด้วยขนาดของอัฒจันทร์ที่โค้งพอเหมาะ ทำให้มองเห็นการแสดงได้ชัดจากทุกมุม นอกจากนี้ยังมีปลาและสัตว์น้ำแปลกๆ ให้ดูอีกเยอะ เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของเซนไดที่มีคนไปเที่ยวมาแล้วเป็นล้านคนนับตั้งแต่เปิดมา


