แม่หมอรุ่นใหม่ 3 สาว 3 สไตล์
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย รายงานตัวเลขไว้ว่า มีเงินสะพัดในแวดวงธุรกิจการดูหมอเมื่อปี 2549 สูงเกือบ 2,500 ล้านบาท
โดย...อนุสรา ทองอุไร ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน, ประกฤษณ์ จันทะวงษ์
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย รายงานตัวเลขไว้ว่า มีเงินสะพัดในแวดวงธุรกิจการดูหมอเมื่อปี 2549 สูงเกือบ 2,500 ล้านบาท (เฉพาะคนในกรุงเทพฯ เท่านั้น) นี่ผ่านมา 10 ปีถึงวันนี้ ปี 2559 คาดว่าน่าจะเฉียด 5,000 ล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลงธุรกิจนี้ไม่เคยซบเซา ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแค่ไหน แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างไร แต่ในเรื่องของจิตใจนั้นก็ไม่มีอะไรจะช่วยปลอบประโลมใจในยามทุกข์ร้อนได้ดีเท่ากับการไปพึ่งนักพยากรณ์หรือหมอดู ที่มีมากมายหลายศาสตร์ต่างๆ ให้เลือกได้ตามใจชอบ เพราะเข้าถึงง่ายมีหลายระดับราคาให้เลือกตามกำลังซื้อ หมอดูจึงถือเป็นเพื่อนยากยามทุกข์ใจของใครหลายคน
ที่ช่วยทำหน้าที่เตือนใจเปรียบเสมือนชีวิตที่อาจจะเจอพายุฝนจะได้เตรียมร่มเตรียมเสื้อกันฝนเอาไว้ไม่ให้ชีวิตเปียกปอนมากจนเกินไป
ซินแส-อร (เพาเวอร์ริช)
อร-สุพิชญ์ชญา จินาชาญ จบปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไปเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินเกาหลีแอร์อยู่เกือบ 20 ปี เริ่มเบื่อจึงออกมาเป็นฟรีแลนซ์เป็นอาจารย์พิเศษสอนให้กับคนที่อยากไปเป็นแอร์ พร้อมกับไปเรียนเป็นโค้ชชิ่ง หลักสูตรดังของอเมริกาที่มาเปิดสาขาที่ประเทศไทย รับงานอิสระ ประกอบกับเล่นหุ้นและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เล็กๆ ควบคู่กันไป ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของรายการท่องเที่ยว ชื่อ in love destination ทุกวันพุธเที่ยงคืนทางช่อง 7 สี และเป็นพิธีกรคู่กับสามี (ต๋อย วงไฮแจค) เป็นรายการเกี่ยวกับท่องเที่ยว แฟชั่น และศาสตร์ฮวงจุ้ย
จนวันหนึ่งได้อ่านหนังสือเรื่องฮวงจุ้ย ของซินแสดังอย่าง อาจารย์มาศ เคหาสน์ธรรม อ่านแล้วเกิดปิ๊งแวบประทับใจเพราะอาจารย์เขียนเป็นเชิงเหตุผลทางวิทยาศาสตร์และสถิติไม่งมงาย อ่านงานของอาจารย์ทุกเล่ม เพราะอาจารย์มาศเองก็จบด้านวิทยาศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนสนใจไปเรียนกับอาจารย์ครบทั้ง 13 หลักสูตร ทั้งฮวงจุ้ย ฤกษ์ยาม และโหงวเฮ้งครบวงจรเป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนเริ่มนำมาใช้กับตัวเองและคนรอบตัว ได้ผลตอบรับที่ดี จึงดูขยายวงไปเรื่อยๆ และอาจารย์มาศก็ชวนไปร่วมงานกับท่านหลายครั้ง
“อรไม่เรียกตัวเองว่าหมอดูนะคะ ลักษณะงานของเราเป็นซินแส แม้อาจจะไม่ได้ถือแผ่นหล่อแก แบบคนรุ่นก่อน เราใช้หล่อแกในไอแพดที่มีความแม่นยำเที่ยงตรง ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และสถิติศาสตร์ของฮวงจุ้ย ดูทิศทางลม ดูดิน ดูน้ำ ไม่มีอะไรงมงาย มีหลักการที่พิสูจน์ได้ มีความน่าเชื่อถือ อรไม่ชอบดูหมอดู ไม่เชื่ออะไรที่งมงายและพิสูจน์ไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ เมื่อก่อนไม่สนใจเลย จนได้ไปเรียนอย่างจริงจังและมีหลักการ จนได้ใช้วิชาพิสูจน์ว่าได้ผลจริงช่วยเติมเต็มพลังชีวิตได้ จึงเริ่มรับดูฮวงจุ้ยเป็นงานเสริมมาปีกว่าแล้วค่ะ”
เธอ กล่าวว่า ตามศาสตร์ความเชื่อของจีนนั้น เชื่อว่าชีวิตมนุษย์ต้องมีหลักวิชาห้าธาตุ ตามศาสตร์พยากรณ์จีนโบราณที่สืบทอดต่อกันมาเป็นพันปี เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ถึงความแม่นยำ ซึ่งมีอยู่ 3 ศาสตร์ด้วยกัน 1.ศาสตร์ชะตาฟ้าดิน เป็นการพยากรณ์จากการเปลี่ยนแปลงของเคลื่อนย้ายของดวงดาว 2.ศาสตร์ชะตาคน การพยากรณ์จากวัน เดือน ปีเกิดของมนุษย์ ดูบุคลิกลักษณะที่เรียกว่า โหงวเฮ้ง 3.ศาสตร์ชะตาดิน การพยากรณ์ชัยภูมิที่อาศัยจากผืนดิน แสงและลม ตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งคนเราจะดีหรือร้ายพิจารณาจากององค์ประกอบ 3 ข้อนี้
อันญ่า-ยิปซีมหัศจรรย์
อันญ่า-กัญจน์ณภัส ชอง อดีตพริตตี้วัย 36 ปี เธอจบการศึกษาปริญญาโทคณะบริหารด้านธุรกิจ SME จากมหาวิทยาลัยสยาม ตอนที่เรียนปริญญาตรีก็ทำงานเป็นพริตตี้อยู่ 3-4 ปี จนจบปริญญาโท เคยเป็นดาราสมทบในละคร “เป็นต่อ” อยู่หลายตอน ไปทำงานด้านธุรกิจร้านอาหารอยู่พักใหญ่ จนกลับมาทำธุรกิจของที่บ้าน คือ การส่งข้าวไปยังยุโรป เธอเป็นลูกคนเดียวมีคุณพ่อเป็นชาวสิงคโปร์
คุณตาของเธอเป็นนักโหราศาสตร์ไทยดูแบบกระดานชนวนสมัยก่อนนี้เลย ส่วนคุณแม่ดูดวงด้วยเลข 7 ฐาน 7 ดวงไทยเช่นกัน โดยคุณแม่ทำร้านสังฆภัณฑ์ และรับดูดวงเป็นงานอดิเรก เธอเล่าว่า ตอนเด็กคุณตาเคยทำนายไว้ว่าโตขึ้นเธอจะเป็นนักพยากรณ์ ซึ่งแต่ก่อนเธอไม่สนใจเลย โดยเฉพาะดวงไทยที่มีความละเอียดยุ่งยากไม่คิดจะเรียนจากคุณแม่เลยด้วย
แต่เธอกลับชอบไพ่ยิปซี เพราะเห็นว่าไพ่ลวดลายสวยดี ตอนเรียนมัธยมปลายไปเดินร้านหนังสือเจอหนังสือของ ขุนทอง อสุนี เธอจึงซื้อมาอ่านและศึกษาด้วยตัวเอง แล้วก็เอามาดูเล่นกับเพื่อน พอเรียนมหาวิทยาลัยก็ลืมๆ ไป จนจบปริญญาโทเริ่มมีปัญหาทางบ้าน ธุรกิจของคุณพ่อมีปัญหา เธอจึงเริ่มหันมาสนใจการดูดวงจากไพ่ยิปซีอีกครั้ง โดยคราวนี้ไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราวกับอาจารย์สิน มีสัตย์ อยู่ 6 เดือนและเริ่มดูดวงอย่างจริงจังกับเพื่อนๆ คนรู้จัก ไปออกงานแฟร์ตามมหาวิทยาลัย 2-3 แห่ง เริ่มเป็นที่รู้จักและคนที่มาดูเธอก็คอยติดตามผลที่ทำนายไปว่าถูกต้องไหม ก็ได้ผลตอบรับที่ดี เธอจึงฝึกปรือทักษะอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งไปเรียนดวงไทยสัตตเลขที่สถาบันโหราศาสตร์วิทยา ของอาจารย์ธนกร สินเกษม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพยากรณ์ของเธอให้ครบถ้วน
“คือไหนๆ จะมาทางนี้ ก็อยากจะเรียนให้ถูกต้องตามหลักการเป็นศิษย์มีครู งานหลักก็ยังทำอยู่นะคะ การดูดวงเหมือนเป็นของหวานในชีวิต ได้ค่าขนมและได้ช่วยคนที่เขาทุกข์ใจ เราไม่ได้หวังรวยกับตรงนี้ ค่าครูเพียง 399 บาท ดูไม่จำกัดเวลาจนกว่าเขาจะหมดข้อสงสัย ใครลำบากมาหนูก็ไม่เก็บค่ะ ให้เขาไปทำบุญ ดูแบบจริงจังตั้งใจ แนะนำให้เขาแก้ไขในสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่ให้ทำอะไรที่เพ้อเจ้องมงาย และไม่รับจัดการอะไรให้ ทุกอย่างเขาให้ไปทำบุญของเขาเองค่ะ เราจะไม่เรียกเงินใดๆ นอกเหนือจากค่าครูเท่านั้น”
โดยคนที่มาดูกับเธอจะเป็นวัยรุ่นกับคนทำงานมาดูกันเยอะที่สุดในช่วงนี้
ชัญญ่าไพ่ยิปซีออราเคิล
ชัญญ่า-ชัญญาภัค วิทยาอนุมาส อดีตพิธีกรเดินสายตามงานอีเวนต์เมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา และเคยเป็นดาราสมทบให้กับค่ายอาร์เอสและช่อง 7 อยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่อง “หลงเงาจันทร์” ที่มี กบ สุวนันท์ เป็นนางเอก ประกบคู่กับสเตฟาน และเป็นคนที่หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ยกย่องให้เธอเป็นราชินีไพ่ยิปซี
ในวัย 40 ปี เธอจบการศึกษาที่คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยหอการค้า ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยมีโฆษณาอยู่ 2-3 ชิ้น หลังจากนั้นมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่เกือบ 2 ปี และไปเป็นเลขานุการที่บริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ก็ออกมาเดินสายทำงานเป็นพิธีกรตามงานอีเวนต์กับค่ายอาร์เอสอยู่ปีกว่า จึงกลับไปช่วยงานด้านอสังหาริมทรัพย์กับครอบครัวที่ จ.ชลบุรี จนถึงปัจจุบัน และยังทำธุรกิจเล็กๆ ด้านความงามอีก 2-3 อย่าง เช่น ร้านสักคิ้วและเครื่องสำอางชัญญ่าซีเคร็ด มีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจที่เธอทำเองปีละหลายสิบล้านบาท
ปัจจุบันเธอรับดูดวงด้วยไพ่ยิปซีควบคู่กับไพ่ออราเคิล สัปดาห์ละ 3-4 วัน ที่ กทม. ที่เหลือเธอจะกลับไปช่วยงานอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.ชลบุรี ร่วมกับคุณพ่อและน้องชาย เธอดูหมออย่างจริงจังมาเกือบ 15 ปี คนที่เธอดูดวงให้ครั้งแรก คือ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง จนเขาบอกว่าเธอแม่นจึงเริ่มรับดูให้คนทั่วไปด้วยค่าครูเพียง 189 บาท เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา จากปากต่อปากถึงบัดนี้หลายคนยกย่องให้เธอเป็นราชินีไพ่ยิปซีและไพ่ออราเคิล เนื่องจากคำทำนายที่แม่นยำและจิตใจที่แน่วแน่ในการช่วยคลายทุกข์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ของเธอ
เธอ เล่าว่า คุณปู่ของเธออพยพมาจากประเทศจีน มาอยู่ประเทศไทยด้วยการยึดอาชีพซินแสดูดวง และตอนเธอเป็นเด็กคุณปู่เคยดูดวงเธอไว้ว่า ต่อไปเธอจะต้องเป็นหมอดูอาชีพแน่ๆ และยังสอนเธอว่าไม่ให้เอาเปรียบคน แต่จงช่วยคนด้วย ดังนั้นคนที่มาดูดวงกับเธอ ถ้าใครที่กำลังลำบากยากแค้น เธอจะไม่เก็บเงินเขา และใครมาดูดวงก็จะบอกให้ไปทำบุญอยู่เสมอ
แรกเริ่มสนใจศึกษาไพ่ยิปซีด้วยตนเอง เหมือนมีพรสวรรค์ที่จดจำได้รวดเร็วและเหมือนมีซิกท์เซนส์ เริ่มดูครั้งแรกจากไพ่ยิปซี จนเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมามีอาจารย์ทางศิลปะท่านหนึ่งวาดรูปไพ่ออราเคิลชุดใหญ่ 90 ใบ และไพ่ชุดจุดเทียน ชุดเล็ก 75 ใบ ให้เธอเพื่อดูประกอบกับไพ่ยิปซี เธอจะดูควบคู่กันทีเดียว 3 สำรับ คือ ดูอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็เป็นที่กล่าวขานกันหนาหูว่าเธอทำนายได้แม่นยำ จนมีดารา นักร้อง นักการเมือง และนักธุรกิจก็มาดูกับเธอมากมาย แม้กระทั่งนักเล่นหุ้นหลายคนก็ยังเป็นแฟนคลับดูดวงกับเธอ
“เราจะดูด้วยความถูกต้องมีหลักการ หาทางแก้ไขให้ด้วยหลักการที่ไม่งมงายให้เขาไปทำบุญในสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่ได้หวังแต่จะเอาเงินอย่างเดียว เราหวังจะได้ทำบุญให้เขาหายทุกข์ใจไม่ซ้ำเติมความทุกข์ของเขาด้วยการเรียกเงินหรือให้ทำอะไรที่ไร้เหตุผลไม่มีประโยชน์กับเขา ถ้าเราดูแบบไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ เราก็จะเสื่อม เรามีครูบาอาจารย์ ต้องอยู่ในศีล 5 ดูด้วยศาสตร์และเซนส์ที่แท้จริง ห้ามเดา ห้ามมั่ว ต้องรักษาความลับลูกค้า โดยเราจะนำเงิน 10 เปอร์เซ็นไปทำบุญ ไม่โอ้อวดตัวเองเกินจริง เวลาดูดวงชัญญ่าดูโหงวเฮ้งเป็นก็จะดูควบคู่กับการดูไพ่ไปให้ด้วยเลย ดูละเอียดไม่มีเม้ม”
เธอ เล่าว่า ปัญหายอดนิยม 3 อันดับแรกที่มาปรึกษาหมอดู คือ ปัญหาในเรื่องการงาน ปัญหาเรื่องการเงิน และปัญหาความรัก แต่คนกรุงเทพฯ เริ่มให้ความสำคัญกับปัญหาในเรื่องการงานมากขึ้น และยิ่งเศรษฐกิจหรือการเมืองไม่ดี พบว่าความถี่ในการใช้บริการหมอดูเพิ่มขึ้น
จึงพอจะสรุปได้ว่า ไม่ว่าหมอดูจะขึ้นราคาค่าบริการ แต่คนกรุงเทพฯ ก็ยังนิยมไปใช้บริการหมอดูอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหมอดูดังหน้าใหม่ๆ คนยิ่งอยากไปทดลองความแม่นยำอยู่เสมอ และวงการนี้ไม่เคยซบเซา


