ศิลปะที่รังสรรค์จากความรัก
แค่ “หนึ่ง” ความรักยังดำดิ่งเข้าไปสัมผัสได้ไม่ลึกซึ้งเลย แต่นี่เราจะได้สัมผัสความรักถึง “สาม” รูปแบบ จาก 3 ศิลปิน
โดย...นกขุนทอง-วนิชชา ตาลสถิตย์ ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
แค่ “หนึ่ง” ความรักยังดำดิ่งเข้าไปสัมผัสได้ไม่ลึกซึ้งเลย แต่นี่เราจะได้สัมผัสความรักถึง “สาม” รูปแบบ จาก 3 ศิลปิน ที่ถ่ายทอดความรักผ่านงานศิลปะที่เขารัก โดยมีคนรัก ความรัก ในรูปแบบของเขาเป็นแรงบันดาลใจ ดังนั้นโปรดเตรียมเวลาและเตรียมใจที่จะเข้าไปร่วมค้นหาความรักที่อิงแอบซ่อนนัยในงานศิลปะทั้งเทคนิคเซรามิกดินเผา ของ ไกรวิทย์ โพธิกุล ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเลี้ยงดูบุตรของตัวเอง งานจิตรกรรมของ ออฟ สมิธ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนัขที่เลี้ยงไว้กับเรื่องราวความรักของหญิงอันเป็นที่รัก และรูปปั้นไฟเบอร์กลาสเด็กผมเปีย ของ เปี่ยมจันทร์ บุญไตร ที่สื่อให้เห็นถึงความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่และความแสบซนของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งหมดนี้จัดแสดงภายใต้ชื่อนิทรรศการ Pure Love จินตนาการ ความรัก เด็กผมเปีย
งานศิลปะนี้สื่อให้เห็นถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่ทับซ้อนกับจินตนาการของ 3 ศิลปิน
ไกรวิทย์ เล่าถึงเหตุผลที่เลือกสร้างงานศิลปะในรูปแบบของเซรามิกดินเผา รวมไปถึงไขข้อสงสัยที่ว่า ทำไมงานศิลปะที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นล้วนมีผิวขรุขระและรูปแบบดูแปลกตาเช่นนั้น
“งานเซรามิกเป็นงานชิ้นเดียว คือเป็นมาสเตอร์ชิ้นเดียวไปเลย ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือมันเก็บไว้ได้นาน ด้วยความที่เป็นงานบ้านเกิดอยู่อีสานก็จะมีงานปั้นดินเผานี้อยู่ ขั้นตอนเยอะครับ แล้วผมไม่เคยเรียนเซรามิกมาก่อนด้วย ก็เอาสองเทคนิคมาผสมผสานกัน ก็ลองมาเรื่อยๆ มันก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะงานเซรามิกมันนิ่งไม่ได้ สาเหตุที่ผิวไม่เนียนเรียบเพราะมันเหมือนอารมณ์ที่เราอยากหักล้างความเป็นดั้งเดิม (ความเรียบ) ผมจะใส่ความรู้สึกลงไป ชีวิตผมก็อยู่ในนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี เราเปรียบเทียบเหมือนก้อนเมฆ คือก้อนเมฆมันไม่เรียบ คือความเป็นเอดิชั่นไม่จำเป็นต้องเนียนเรียบสวย งานผมมันสามารถมองได้หลายแบบแล้วแต่คนมอง”
เปี่ยมจันทร์ เจ้าของผลงานรูปปั้นไฟเบอร์กลาส ในคอนเซ็ปต์เด็กผมเปีย เผยไอเดียว่า “ทำเป็นงานปั้นไฟเบอร์กลาสในลักษณะของรูปแฟนตาซี เป็นงานศิลปะที่ปั้นด้วยดินน้ำมัน ถอดพิมพ์เป็นต้นแบบไว้ก่อนด้วยปูนปลาสเตอร์ หล่อด้วยไอซิ่ง งานศิลปะประเภทนี้สามารถทำได้หลายๆ ชิ้นให้มีรูปแบบเหมือนกันคอนเซ็ปต์คือการสร้างสรรค์ความสนุกสนานผ่านตัวการ์ตูน เหมือนเป็นการใช้ท่าทางใช้สีหน้าที่แสดงออกอารมณ์ที่ชัดเจน งานแต่ละชิ้นก็จะมีขนาดเล็กไม่ใหญ่มากค่ะ”
ผลงาน 4 ชิ้นที่เปี่ยมจันทร์นำมาแสดง มี “เปียผมยาว” ได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนในสมัยเด็ก “แอปเปิ้ล” มาจากความปรารถนาเรื่องความรัก ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นหนอนกัดกินแอปเปิ้ลอยู่ แล้วก็มี “จรวด” เป็นเรื่องของความโกรธที่คนเรามักนำมาทำร้ายตัวเอง และ “บิ๊กไลค์” สื่อถึงการใช้นิ้วเพื่อสื่อความหมาย
มาถึงงานของ ออฟ สมิธ เขาเริ่มต้นจากการถ่ายทอดเรื่องราวความรักออกมาให้เห็นผ่านคาแรกเตอร์ของสุนัข เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้กับสัตว์เลี้ยงของเขาด้วย อีกทั้งยังนำเรื่องราวความรักระหว่างเขาและคนรัก ถ่ายทอดออกมาในภาพวาดโทนสีขาวสร้างบรรยากาศเหมือนฝัน ชวนเหงา ตามแต่จินตนาการ
“แต่ก่อนผมทำเป็นรูปพวกสัตว์ประหลาด แต่เดี๋ยวนี้เป็นหมา ผมเอาคาแรกเตอร์สองตัวนี้มาเชื่อมกัน ผมทำเป็นตาโตเพราะผมจะสื่อถึงความตกใจ ส่วนใหญ่งานจะเป็นเรื่องของการตั้งคำถาม ส่วนงานสีขาวเป็นเรื่องของความทุกข์ จมกับความทุกข์ ผมใช้งานศิลปะกับตัวผมเป็นงานเชื่อมต่อกัน โดยใช้โลกแห่งจินตนาการในตัวผมเป็นตัวเชื่อม คอนเซ็ปต์ของผลงานสองชิ้นนี้มันค่อนข้างต่างกันแต่มันก็จะมีตัวเชื่อมกันตลอด การเปิดตัวงานของผมมันก็แค่สุนัขตัวหนึ่งกับคนรักของผม แต่คนจะมองเป็นแบบไหนก็แล้วแต่มันมองได้หลายแบบ ที่ใช้สีน้อยเพราะมันเป็นเรื่องของความทุกข์ความเหงาที่เราอยากจะสื่อออกมา เราไม่ได้ใช้อารมณ์ความรู้สึกอย่างเดียวในการทำงานศิลปะ สีที่มีโครงสร้างเหล่านี้มันอาจบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ตรงตัว แต่ในปัจจุบันงานผมมีสีสันเพิ่มมากขึ้น ผมไม่ได้ตีค่าโลกของผมด้วยสีขาวเทาและดำแล้ว”
แม้ว่าที่มาของงานจะเป็นเรื่องส่วนตัวของศิลปิน ทว่า “ความรัก” นั้นเป็นสากลที่สื่อถึงกันได้ แม้ต่างคนต่างมีรูปแบบความรักหากแต่มันอาจเชื่อมโยงและสัมผัสกันได้ในบางขณะ
Pure Love จินตนาการ ความรัก เด็กผมเปีย เป็นครั้งแรกที่หอศิลป์ศุภโชค ดิ อาร์ตเซ็นเตอร์ ได้รวบรวมผลงานศิลปะจาก 3 ศิลปินมาไว้ที่เดียวกัน ณ ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้ชมถึง 23 พ.ค. โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลงานร่วมสมทบทุนมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก (ครูหยุย) เพื่อเด็กด้อยโอกาสทางสังคม


