แบรนด์ไทยแท้ พร้อมโชว์ลายไทยสู่ตลาดโลก
การเสวนากับเหล่ากูรูเพื่อพูดคุยถึงเรื่องแฟชั่นอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัย การนำผลิตภัณฑ์ผ้าไทยมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน พร้อมเผยเทคนิคของ 3 ดีไซเนอร์ไทย
โดย...ปอย
การเสวนากับเหล่ากูรูเพื่อพูดคุยถึงเรื่องแฟชั่นอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัย การนำผลิตภัณฑ์ผ้าไทยมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน พร้อมเผยเทคนิคของ 3 ดีไซเนอร์ไทย การสร้างแบรนด์ออกสู่ตลาดโลก และโกอินเตอร์ไปประสบความสำเร็จในการนำแบรนด์สร้างชื่อในตลาดต่างประเทศได้อย่างงดงาม โดยมีหัวข้อสนทนา Contemporary Essence : Thai Identity in Modern Fashion Design ให้ฟังกันยาวๆ เพลินๆ กว่า 4 ชั่วโมงในช่วงบ่าย
โจทย์นี้เพื่อสนองต่อแนวนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงวัฒนธรรม ในการสร้างอัตลักษณ์ไทยผ่านการออกแบบเครื่องแต่งกายโดยใช้ผ้าไทย มีมินิแฟชั่นโชว์ให้นักศึกษาด้านแฟชั่นซึ่งเป็นคนอีกกลุ่มที่เจ้าภาพกระทรวงวัฒนธรรม ชวนมาฟังเสวนาครั้งนี้ด้วย เด็กๆ ว่าที่นักออกแบบรุ่นใหม่ได้รู้จักผ้าลวดลายไทย ได้ชมเสื้อผ้าที่เลือกใช้ผ้าทอลายโบราณในการออกแบบ แล้วเมื่อมาอยู่ในไม้แขวนเสื้อที่เป็นนางแบบรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง ก็ได้ภาพน่าตื่นใจงามไปอีกแบบ
ความหมายของคำว่า “อัตลักษณ์ไทย” (Thai Identity) ถ้าแปลตรงๆ ตัว ก็คือคุณลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ผ้าไทยทอมือโบราณโชว์แก่นแท้ของวัฒนธรรม ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น ไม่มีใครปฏิเสธในความโดดเด่นนี้ การนำผ้าไทยมาต่อยอดงานให้ทันสมัย และเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับดีไซเนอร์ไทยที่ล้ำไม่แพ้ใครในมุมสร้างสรรค์งานออกแบบ
แสนเก๋...
คลัตช์ผ้าไทยย้อมคราม
กระเป๋าผ้าไทยย้อมสีครามธรรมชาติทอมือมัดหมี่ลายก้างปลา ในชื่อยี่ห้อ Jo’s Bag ดีไซน์โดยนักออกแบบที่มีภูมิความรู้เรื่องผ้าไทยแน่นปึ้ก! “โจ” สุทธิรักษ์ แก้วอาภรณ์ ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นงานต้องลงพื้นที่ลงไปในจังหวัดแถบอีสานแหล่งรวมผ้าไหมไทยทอมือชั้นครู ผ้าลวดลายโบราณใยธรรมชาติทั้งไหม ฝ้าย โชว์ความล้ำค่าเหนือผ้าทั่วๆ ไป
ใครทำงานตรงนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หลงใหลผ้าไหมไทยทอมือที่มีลวดลายงดงามไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละผืน สุทธิรักษ์ก็หนีไม่พ้นเสน่ห์ผ้าโบราณชวนให้สะสมนับร้อยๆ ผืน แต่ด้วยมุมมองแบบศิลปินจึงสานต่อความรักนี้ จนกลายเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋าผ้าทอคุณภาพเลิศ
“คนไทยที่มีรสนิยมชอบของไทยเยอะนะครับ แต่เขาไม่รู้จะเข้าถึงมันอย่างไร...” สุทธิรักษ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Jo’s Bag เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระเป๋าของเขาไว้เช่นนั้น การเริ่มต้นสร้างสรรค์แบรนด์ขึ้นมาจึงต้องผ่านการตีความเพื่อให้เป็นแบรนด์กระเป๋าผ้ายูนีก สวยเด่นไม่ซ้ำใคร โดยการใช้คำว่า “อัตลักษณ์ไทย” หรือแก่นแท้ความเป็นไทยใช้ในการขับผลงานให้โดดเด่น และแตกต่าง ที่สำคัญใครๆ ก็ถือคลัตช์แบรนด์ไทยแท้ไปไหนมาไหนใช้ได้ทุกกาลเทศะ
“การหยิบผ้าไหมไทยขึ้นมาทำกระเป๋า ถ้าการเลือกใช้ผ้า เลือกใช้วัสดุอะไหล่กระเป๋าทั่วๆ ไป ก็โดนก๊อบปี้ได้ไม่ยากเลยครับ แต่ผมเลือกความพิเศษตั้งแต่การย้อมสี กำหนดการทอลายให้ลดความซับซ้อนลง ผ้าที่ผมเลือกใช้จึงบอกสัญลักษณ์ของแบรนด์ได้ชัดเจน
“ผ้าไหมไทยชาวบ้านทอจากวิถีชีวิตอย่างแท้จริงครับ ถ้าเข้าหมู่บ้านไปในช่วงทำนา เก็บเกี่ยวข้าว ผ้าไหมหรือฝ้ายทอมือก็มีสีคล้ายๆ กันทั้งหมู่บ้าน สีเขียวอ่อน สีทอง สีเหลือง หรือถ้าเข้าไปในช่วงฤดูแล้งผ้าทอก็ออกในโทนสีน้ำตาลหม่น จนถึงสีดำเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เข้าไปทรงงานตั้งมูลนิธิศิลปาชีพขึ้นมาเพื่อเพิ่มรายได้ให้ราษฎร จึงมีการแนะนำชาวบ้านที่เคยทอผ้าสีเดิมๆ หรือใช้สีตรงกันข้าม เช่น เส้นยืนสีม่วงเส้นพุ่งสีชมพู ซึ่งขายไม่ได้ในตลาดใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างประเทศ การเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้หันมาทอผ้าในโครงสีใหม่ให้ทันสมัยขึ้น
“เรียกว่าเป็นการทำงานร่วมกันดีกว่าครับ ผมทำงานกับป้าๆ ยายๆ ฝีมือทอผ้าระดับศิลปิน ทอผ้าลวดลายยากๆ ลายแสดงภูมิปัญญาส่งต่อกันมาแต่โบร่ำโบราณ ทั้งใน จ.บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม ซึ่งมีจุดอ่อนที่เลือกใช้สีที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยกล้าใช้เพราะสีสันตัดกันเหลือเกิน ลวดลายผ้าก็ซับซ้อนมากแบบผ้าโบราณที่ในผ้าหนึ่งผืน มีลวดลายนับสิบๆ ลาย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะผืนผ้านุ่ง คนทอก็ต้องโชว์ฝีมือไว้ให้มากที่สุด เมื่อนำผ้าที่เป็นเครื่องนุ่งห่มมาทำกระเป๋า ผมจึงเลือกเพียง 1 ลายในกระเป๋า 1 ใบ และให้ลายสมมาตร Symmetry เท่ากันที่สุดครับ ดูเข้าใจง่ายขึ้น อย่างเช่น คลัตช์ผ้าฝ้ายย้อมครามลายก้างปลา
“การคุยเรื่องสีไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับที่ให้ชาวบ้านเข้าใจ ก็เคยทอมาแบบนี้สีก็สวยสดดี แต่คนใช้ยากนะครับสีแบบนี้ ผมก็ต้องใช้ตัวช่วย เช่น Pantone Color Guide จับคู่สีให้นุ่มนวลขึ้น เขาก็เปลี่ยนความคิดได้เพราะเห็นคนถือกระเป๋าแล้วสวยกว่าเดิม เมื่อตอนที่ผมทำคอลเลกชั่น “คราม-Indigo” ผมก็ได้เรียนรู้ว่าไม่ได้มีแค่ผ้าสีน้ำเงินเข้มๆ ที่ป้าๆ ใส่กัน แต่การเข้าไปในหมู่บ้านย้อมครามกับนักออกแบบแบรนด์ Mann Craft ที่ฝีมือเรื่องย้อมสีและโด่งดังในเรื่องนี้
“ผมก็ได้เห็นผ้าครามที่ย้อมได้หลากหลายสี ตั้งแต่สีออกเขียว สีเทอร์คอยส์ ไล่โทนไปจนสีฟ้าใส การกำหนดสีให้ชาวบ้านย้อมเพื่อทำกระเป๋าในแต่ละคอลเลกชั่น เป็นสีหาไม่ได้ทั่วๆ ไป โดยรักษาลวดลายโบราณไว้ แล้วนำผ้าเส้นใยธรรมชาติเมื่อจับคู่กับหนัง หรือโลหะหมุดกระเป๋าคุณภาพดีทำให้กระเป๋าขายได้ต่อเนื่อง คนชอบของไม่เหมือนใครก็เลือกใช้ และใช้ได้ทุกเพศทุกวัยด้วยครับ” สุทธิรักษ์ อธิบายถึงวิธีการออกแบบที่มีโจทย์คำว่า “อัตลักษณ์ไทยร่วมสมัย” วันนี้แฟชั่นนิสต้าก็รู้จักกระเป๋าแบรนด์นี้กันดี ทั้งความสวยโดดเด่น และคุณภาพคงทนใช้ได้คุ้มราคาไม่แพ้แบรนด์ชั้นดี
แฟชั่นไทยก้าวสู่เวทีโลก
เทคนิคการสร้างแบรนด์ออกสู่ตลาดโลก และโกอินเตอร์ไปประสบความสำเร็จสร้างชื่อในตลาดต่างประเทศได้อย่างงดงาม แบรนด์ไทยของพี่น้องสามใบเถา ที่นำความฝันในวัยเยาว์ สิงสาราสัตว์และตัวละครในเทพนิยายมาสร้างสรรค์บนเสื้อผ้า ทำให้หญิงสาวที่สวมเสื้อผ้า “สเรทซิส” ดูซุกซน และอิสรเสรีในโลกจินตนาการ สเรทซิส เปิดตลาดในญี่ปุ่นได้สำเร็จวางจำหน่ายในห้างอิเซตันที่ทรงอิทธิพลในด้านแฟชั่น และตอกย้ำความสำเร็จกับร้านแฟล็กชิปสโตร์ เต็มรูปแบบ ที่ห้างมินามิ อาโอยาม่า
สเรทซิส วางจำหน่ายในร้านมัลติแบรนด์ชั้นนำ ทั้งในฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี รัสเซีย ออสเตรเลีย ขึ้นเวทีเสวนา แบรนด์ได้ส่งตัวแทนสาวสวยเก๋ คล้ายเดือน สุขะหุต มาเผยความสำเร็จ โดยเฉพาะในโตเกียวเมืองหลวงโลกแฟชั่นฝั่งเอเชีย ที่หลายคนคิดว่าต้องแต่งตัวจัดๆ บ้าแฟชั่นมากๆ แต่นั่นไม่ใช่บุคลิกการแต่งกายของคนญี่ปุ่นเลย
“ตลาดญี่ปุ่นคือฐานหลักของแบรนด์ เราใช้เวลานับสิบปีค่ะ กว่าจะได้ลูกค้ากลุ่มสาวๆ ญี่ปุ่น และได้เรียนรู้ว่าเขาแต่งตัวอนุรักษนิยมมาก ไม่ใส่เสื้อผ้าเนื้อบางเบา เช่น ผ้าชีฟองที่ไม่มีซับใน ของขายดีในญี่ปุ่นไม่ใช่ของขายดีในเมืองไทย สาวไทยกล้าแต่งตัวกล้ามิกซ์แอนด์แมตช์ที่สุดแล้วค่ะ (หัวเราะ) เดรสคอลเลกชั่นซัมเมอร์ 2016 โทนสีพาสเทลปักทรีดีทั้งชุดงานฝีมืองานปักละเอียดๆ พิถีพิถัน คือการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ไทยค่ะ แต่สำหรับญี่ปุ่นใส่แล้วต้องไม่เป็นจุดเด่นเกินไป เดรสผ้าไหมใส่แล้วต้อง Practical ใส่วิ่งขึ้นรถไฟใต้ดินได้ นี่คือโจทย์ใหม่ๆ ที่เรียนรู้เลยค่ะ” คล้ายเดือน บอกในสิ่งที่คนวงนอกไม่เคยรู้
ปฏิพัทธ์ ชัยภักดี ดีไซเนอร์แบรนด์ Dry Clean Only เสื้อไทยแบนด์นี้ก็ได้วางขายที่ห้างอิเซตัน ชินจูกุ ยืนยันว่าการทำตลาดแฟชั่นในโตเกียวถือว่าหินที่สุด ตลาดญี่ปุ่นหยิ่งเพราะตัวเลือกเยอะ แต่เมื่อเขาทดลองความสามารถโดยสั่งจองเสื้อ 60-70 ตัวแล้วทำได้ตามออร์เดอร์ บายเออร์จึงยอมคุยธุรกิจต่อ ซึ่งการใช้เวลาพิสูจน์ก็ไม่ใช่แค่ปีหรือสองปี
การสร้างแบรนด์คือมีตัวเดียวในโลก ด้วยการนำเสื้อยืดวินเทจสกรีนลายมาปรับใหม่ ใช้วัสดุเหลือใช้ใกล้ตัว เข็มกลัด ไข่มุก โชว์ไอเดียและฝีมือในการปักกับผ้าลูกไม้ การตัด เจาะเนื้อผ้า รวมไปถึงผ้าปักประดิษฐ์ลวดลายแบบไทยๆ เป็นการสร้างธีมให้เกิดภาพชัดเจน บายเออร์ก็เข้าใจง่าย และเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากบายเออร์ในปารีส ดรายคลีนโอนลี่ มีจำหน่ายในร้านมัลติแบรนด์ระดับโลก Colette เสื้อยืดวินเทจตกแต่งโชว์งานฝีมือให้อารมณ์ขัดแย้ง ก็ได้รับความนิยมในกลุ่มศิลปินเกาหลี จางกึนซอก โคจุนฮี นักร้องวง T-ARA เสื้อยืดวินเทจโชว์งานปักอลังการแบรนด์นี้จำหน่ายในร้านมัลติแบรนด์อีกหลายๆ ประเทศ ในยุโรป สหรัฐอเมริกา
“งานไทยคือการนำเสนอฝีมือครับ จุดเด่นคืองานคราฟท์คุณภาพดี ดรายคลีนโอนลี่ เริ่มออกสู่ตลาดญี่ปุ่น เมื่อปี 2555ผมทำคอลเลกชั่นเดียวส่งไปทั่วโลก ไม่แยกลุคนี้สำหรับญี่ปุ่น ปารีส แล้วทำลิสต์ว่าในแต่ละประเทศขายชิ้นไหนได้ดี ฝั่งยุโรปก็ชอบเสื้อไม่เหมือนฝั่งญี่ปุ่น พอรู้พฤติกรรมผู้บริโภคก็ทำให้พัฒนาแบรนด์ง่ายขึ้นด้วย แบรนด์เริ่มต้นเมื่อปี 2551 ไม่เปลี่ยนคอนเซ็ปต์ครับ คือ เมก รียูส แต่จากแค่เสื้อยืด ก็มีกระโปรง มีเอี๊ยมเพิ่มเป็นตัวเลือกพัฒนาสินค้าเรื่อยๆ ครับ” ปฏิพัทธ์ กล่าวถึงเสื้อยืดที่โชว์ฝีมือล้วนๆ
แบรนด์สุดท้ายที่ไปวางขายในห้างดังในตะวันออกกลาง ห้างสรรพสินค้าดังในอังกฤษ Selfridges ลอนดอน และอิตาลี Luisa Via Roma ฟลอเรนซ์ ซึ่งที่นี่ก็ถูกทักอย่างแปลกประหลาดใจว่า Made in Thailand เพราะกระเป๋าดีที่สุดต้องตัดเย็บที่อิตาลีเท่านั้น?!!
ณัชชา เมฆรักษาวานิช ดีไซเนอร์กระเป๋าหนังเริ่มต้นแบรนด์ด้วยชื่อตัวเอง Nasa Mekraksavanich ชื่อไทยแท้แต่มีความตั้งใจแน่วแน่ไปวางขายในต่างประเทศ ที่พร้อมรองรับงานอัตลักษณ์เฉพาะตัวสูงกว่าไทย ในช่วงเปิดแบรนด์ ปี 2555
“แบรนด์ใหม่จากเอเชียถูกถามอย่างนี้ ก็เข้าใจได้ค่ะ และต้องตอบโจทย์นี้ด้วยคุณภาพล้วนๆ ว่าจะดึงดูดบายเออร์ได้หรือไม่ ก็ถามเขากลับแล้วหนังดีไหมล่ะ? (หัวเราะ) ใช้หนังแพะ หนังวัว กระเป๋ายี่ห้อนี้ไม่ได้มีแรงบันดาลใจจากแฟชั่น แต่เกิดจากงานสถาปัตยกรรม รูปทรงจึงเป็นเรขาคณิตเย็บด้วยฮาร์ดแวร์โลหะใช้ช่างเย็บที่มีฝีมือ นอกจากยุโรปที่ชอบ ในตะวันออกกลางก็ชอบด้วย แต่ก็จะมีสั่งตัดพิเศษ หนังสีสดขึ้น กระเป๋าทรงเด่นสะดุดตาขึ้นซึ่งก็ไม่มีปัญหา เพราะเรามีโรงงานตัดเย็บเอง มีช่างฝีมือดีที่เติบโตมาพร้อมกับแบรนด์” ณัชชา เล่าย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่นโฟกัสไปต่างประเทศ สาวเก๋ร่างเล็กจึงแบกกระเป๋ากว่า 10 ใบ ไปหาเอเยนต์ระดับโลกด้วยตัวเอง คือ Delfina Delettrez และ Shourouk ซึ่งมีโชว์รูมดังในเรื่องแอกเซสซอรี่
จากตลาดยุโรป ณัชชา มีโจทย์ใหม่ขยายไปตลาดฝั่งเอเชีย ทั้งไทยและญี่ปุ่น ซึ่งได้ไปออกงานแฟร์ในแฟชั่นวีก 3 ซีซั่นแล้ว และกระเป๋าหนังคุณภาพดีแบรนด์ไทยแท้ก็กำลังเป็นที่จับตามอง


