แก้พฤติกรรม 'กัดเล็บ'
การติดนิสัย “กัดเล็บ” นอกจากจะโดนคนอื่นมองว่าดูบุคลิกภาพไม่ดีแล้ว ยังอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
โดย...วราภรณ์
การติดนิสัย “กัดเล็บ” นอกจากจะโดนคนอื่นมองว่าดูบุคลิกภาพไม่ดีแล้ว ยังอาจนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าพฤติกรรมการกัดเล็บทำให้เสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้าสู่ปาก และหากโชคร้ายก็อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดจนถึงอาจตายได้เชียวนะ แต่ทางด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพจากสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ลลิดา ลีละยูวะ กล่าวว่า การกัดเล็บ เป็นปัญหาส่วนบุคคล ซึ่งอาจเกิดจากการเลี้ยงดูและเป็นเรื่องของจิตวิทยามากกว่า จนเกิดแรงกดดันอะไรบางอย่างทำให้เกิดอาการไม่มั่นใจ ไม่กล้าแสดงอะไรบางอย่างออกมา ซึ่งพฤติกรรมการกัดเล็บเมื่อเจ้าตัวรู้สึกเผลอดูเป็นบุคลิกภาพด้านลบที่ไม่ช่วยให้เราดูดีเลย แต่ใช่ว่าพฤติกรรมนี้จะแก้ไขไม่ได้
1.คนรอบข้าง หากเห็นพฤติกรรมนี้ในตัวของเพื่อนสนิทในวัยเรียนหนังสือหรือตอนวัยทำงาน เมื่อเราเห็นแล้วควรแนะนำเขาทันที บอกไปเลยว่า การกัดเล็บเป็นบุคลิกภาพด้านลบ ควรบอกเขาให้ปรับพฤติกรรมโดยเร็ว เพราะบางครั้งการกัดเล็บขณะที่เผลอเจ้าตัวก็ไม่ทราบ ทำด้วยความเคยชิน แต่มันทำให้เขาดูด้อยลง เพราะเมื่อใดที่เราเผลอกัดเล็บจะสะท้อนว่า ณ ขณะนั้นคุณเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง
2.ต้องชี้ให้ผู้ชอบกัดเล็บเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเกิดจากสภาวะภายในจิตใจ เกิดจากความไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง หรือไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจในบางเรื่อง ต้องหาสาเหตุนั้นให้เจอแล้วปรับแก้ทัศนคติ
3.เมื่อสังเกตตัวเองและหาสาเหตุได้แล้ว ต้องรีบแก้ไขดังที่กล่าวตั้งแต่ข้อ 1 เนื่องจากพฤติกรรมนี้ทำมานานแล้ว วิธีแก้คือต้องหากิจกรรมอย่างอื่นให้เขาทำ เช่น เวลานั่งทำงานเพลินๆ คิดอะไรไม่ออก หรือเวลาเดินๆ ชอบเอาเล็บขึ้นมากัด หรือเวลารอใครเพลินๆ แล้วต้องยกนิ้วขึ้นมาแทะ
วิธีแก้คือเวลาเดินลองให้เขาเดินแล้วเอามือมาประสานกัน เพื่อเอามือไปโฟกัสอยู่ที่จุดอื่น หรือเวลายืนก็เอามือประสานกันไว้ด้วย หรือเวลาเดินก็ให้เดินแกว่งแขนสองข้างตามจังหวะ อย่ายกมือขึ้นมาแทะ ค่อยๆ ฝึกแก้ไขพฤติกรรมไป ซึ่งการนำสิ่งใหม่ไปให้เขาทำจะช่วยเสริมให้เขาดูดี ทำไปพักใหญ่ๆ จนให้เขาทำจนติดเป็นนิสัย พฤติกรรมการกัดเล็บก็จะดีขึ้น จริงๆ พฤติกรรมนี้แก้ไขไม่ยาก แต่ต้องใช้ ต้องทำซ้ำๆ จนสมองจดจำได้


