กันติชา ชุมมะ ติช่า ผู้ไม่ได้มาเล่นๆ
ผ่านพ้นการเป็น เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ คนที่ 2 ของเมืองไทยมาได้ 15 วันแล้ว ใครหลายคนคงได้เห็น ติช่า-กันติชา ชุมมะ ดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร-เบญจมาศ กวนศักดิ์ ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
ผ่านพ้นการเป็น เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ คนที่ 2 ของเมืองไทยมาได้ 15 วันแล้ว ใครหลายคนคงได้เห็น ติช่า-กันติชา ชุมมะ ดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง ออกหน้าจอโทรทัศน์และสื่อต่างๆ มากมาย แต่บทสัมภาษณ์บทนี้ก็เป็นอีกบทสัมภาษณ์หนึ่งที่ผมในฐานะผู้สัมภาษณ์ เชื่อมั่นว่ามันจะเป็นบทสัมภาษณ์ที่พูดถึงความเป็นติช่าในมุมมองที่น่าสนใจไม่แพ้ใคร
และเมื่อคุณอ่านบทสัมภาษณ์นี้จบลง
คุณจะรักผู้หญิงคนนี้เพิ่มมากขึ้นอีกเป็นกอง!
“สำหรับการได้เป็น เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ คนที่ 2 ของเมืองไทย ถือเป็นเป้าหมายที่หนูได้ทำสำเร็จแล้ว หลังจากนี้หนูจะลองทำงานในวงการบันเทิงให้หมด เท่าที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส หนูเป็นคนที่ต้องได้ลองทำก่อน ทำจนกว่าจะรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร อะไรที่ชอบ อะไรที่ทำแล้วดี ทำแล้วเวิร์กสำหรับตัวเรา หนูถึงจะมุ่งตรงไปยังสิ่งนั้น แต่ที่แน่ๆ อย่าให้หนูได้ร้องเพลงเลยค่ะ หูคนฟังคงจะแตกเป็นเลือด และคงบอกว่า หยุดเถอะ! ติช่าอย่าร้องเพลงเลยดีกว่า (หัวเราะ)”
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่กันติชาจะคว้าตำแหน่ง เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ คนที่ 2 ของเมืองไทย เธอเกิดที่เมืองไทย ย้ายไปอยู่ที่สวีเดนตอนอายุ 7 ขวบ อยู่จนเรียนจบไฮสกูล จากนั้นไม่นาน เพื่อนที่อิตาลีก็ได้แนะนำให้เธอลองมาสมัครประกวดรายการ เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ดู เธอรู้สึกว่าท้าทายความสามารถดี เธอจึงตัดสินใจมาสมัคร แต่ก่อนมาสมัคร เธอดูรายการ เดอะ เฟซ ทุก เดอะ เฟซ รวมทั้ง เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 1 ด้วย เพื่อศึกษาแนวทาง รวมทั้งกลยุทธ์ที่จะใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้
“หนูบินมาไทยสามวันก่อนออดิชั่น หนูคิดในใจว่า เมื่อตัดสินใจทำแล้ว จะได้หรือไม่ได้ ก็ถือว่าเราได้ลองทำ แต่พอผ่านเข้ารอบมาเรื่อยๆ เลือดนักสู้ก็มาของมันเอง หนูถึงบอกกับตัวเองว่า มาถึงจุดนี้แล้ว ถอยหลังกลับไปไม่ได้ ชีวิตของหนูในตอนที่แข่งขัน จึงไม่ได้มีแผนบี มีแต่แผนเอ นั่นคือ การได้เป็น เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ซึ่งกลยุทธ์ที่หนูเลือกใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ นั่นก็คือ ทำอะไรที่ตัวเราในอนาคตจะมาขอบคุณเราทีหลังว่าเราทำถูกแล้ว”
กันติชา เผยว่า ในระหว่างการแข่งขัน เธอต้องต่อสู้กับความโดดเดี่ยวที่เข่นฆ่าเธออยู่ข้างในใจ “ตอนอยู่ในการแข่งขัน ยิ่งนานไป ยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะต้องไปไหน ทำอะไร ด้วยตัวคนเดียว แต่ความรู้สึกโดดเดี่ยวนี้ หนูก็ไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็น ทางออกของหนูคือ คิดบวก พยายามอยู่ในเส้นทางที่แฮปปี้ ยิ่งเราอยู่ในที่ที่มีคนมองเห็นง่าย รักก็รักใจหาย ร้ายก็ร้ายจนน่ากลัว การคิดบวกและอยู่ในเส้นทางที่แฮปปี้ ก็ทำให้เราเข้าใจว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแต่คนรักเรา หรือเกลียดเรา มันเป็นสิ่งที่มาคู่กัน อยู่ที่เราเป็นคนเลือกรับมาไว้กับตัว เอาเป็นว่า คนที่รักหนู หนูก็ขอบคุณ ส่วนคนที่ไม่ชอบหนู หนูก็อยากให้เปิดใจให้หนูหน่อย หนูไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร”
สำหรับไลฟ์สไตล์ของกันติชา เธอเผยว่า เธอชอบนอนเฉยๆ อยู่ที่บ้าน “ไม่ก็อยู่บ้านเล่นเกม บางทีก็ไปยิม หนูเป็นคนไม่ค่อยชอบไปเดินห้าง เพราะเป็นคนไม่ชอบซื้ออะไร”
ท้ายที่สุด สิ่งที่จะทำให้กันติชาก้าวเดินไปแต่ละก้าวได้ นั่นคือ การใช้ชีวิตให้ได้อย่างมีความสุข “สมมติว่าเราจะตายภายใน 3 วัน เราคงอยากทำให้ชีวิตมีความสุขมากที่สุด ซึ่งทำไมเราไม่ทำวันนี้ ไม่ใช้ชีวิตให้มีความสุขเสียเลยตั้งแต่ตอนนี้”
ถ้าให้กันติชาพูดกับตัวกันติชาเองในวันนี้ เธอเผยว่า เธอจะพูดกับตัวเองในวันนี้ว่า ติช่าชอบติช่านะ “ติช่าในวันนี้ก็ยังคงเหมือนกับติช่าในเมื่อวาน ยังเป็นตัวของตัวเอง ยังเป็นคนเดิม สิ่งที่เพิ่มคือความภาคภูมิใจในตัวเอง ที่ได้เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข และหนูก็เชื่อว่าติช่าในวันข้างหน้าก็จะภูมิใจในตัวติช่าในวันนี้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ”


