posttoday

ชีวิตต้องไปต่อ

02 มกราคม 2559

ไม่ว่าจะยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ขออนุญาตกระเดียดใช้คำภาษาอังกฤษ The show must go on เป็นสำนวนของฝรั่ง

โดย...วุฒิ นนทฤทธิ์

ไม่ว่าจะยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป

ขออนุญาตกระเดียดใช้คำภาษาอังกฤษ The show must go on เป็นสำนวนของฝรั่ง แปลความแบบเข้าใจเอาเองว่า ไม่ว่าชีวิตจริงจะเป็นอย่างไรไม่ว่าจะมีอุปสรรคหลังฉากคืออะไร แต่การแสดงหน้าฉากหรือบนเวทีก็จะต้องดำเนินต่อไป ด้วยจิตวิญญาณความรับผิดชอบของนักแสดง

ไม่รู้เหมือนกันว่าสำนวนฝรั่งสำนวนนี้มีที่มาอย่างไร เท่าที่ค้นเจอเป็นเรื่องเล่าในหมู่อเมริกันชนว่า เจมส์ วิลค์ส บูธ นักแสดงละครเวที ถูกผู้ชมเกลียดชัง เพราะเป็นพี่ชายของ จอห์น วิลค์ส บูธ นักแสดงละครเวทีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ลอบสังหารประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ที่โรงละครฟอร์ดส

ผู้จัดการละครเวทีขอร้องเจมส์ไม่ให้ขึ้นเวที แต่เจมส์ปฏิเสธพร้อมกับกล่าวว่า The show must go on แล้วก็ก้าวขึ้นเวทีไป ท่ามกลางเสียงโห่ด่าทอ ขว้างปาสิ่งของใส่ แต่เจมส์ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ กลายเป็นหนึ่งในตำนานที่มาของสำนวนนี้

ใครที่ไม่เคยผ่านจุดนี้มาอาจคิดว่าเป็นแค่สำนวนหรือวลีที่พูดเอาเท่ แต่สำหรับคนที่เคยเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้าย จากที่เคยมีทุกอย่างเพียบพร้อม เวลาแค่ชั่วข้ามคืนทุกอย่างมลายหายไป ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือของตัวเองที่มี สำนวนนี้เป็นทั้งคำปลอบใจและเป็นกำลังใจ ทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ขอยืนยัน

จากประสบการณ์ในการบริหารหน่วยงานที่มีพนักงานกว่าร้อยชีวิต เช้าของวันต้นเดือนหลังจากที่พนักงานทุกคนได้รับเงินเดือนงวดล่าสุดไปแล้ว ได้มีพนักงานพร้อมใจกันยื่นใบลาออกมากกว่า 50 คน โดยขอให้มีผลทันที (เนื่องจากเป็นบริษัทที่เพิ่งตั้งขึ้นมาได้แค่หนึ่งปี) ขณะที่งานที่รับผิดชอบคือรายการทีวีหยุดออกอากาศไม่ได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านได้เพราะคำว่า The show must go on

ที่นำเรื่องนี้มาคุยก็เพื่อเป็นภูมิต้านทานให้กับคนไทยทุกคนที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ได้เตรียมความพร้อมที่จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากในปี 2559 แค่คาถาที่ให้ท่องขึ้นใจว่า อย่าสร้างหนี้ คงไม่พอ เพราะจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีข้อจำกัดในเวทีระดับโลก สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังฟุบต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยปริมาณการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐคงไม่ช่วยอะไรมากนัก ที่สำคัญสหรัฐดูเหมือนจะเลือกช่วยชาติอื่นก่อนจะนึกถึงประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่ต้องไปรอคอยความหวังอะไรจากมหาอำนาจอย่างสหรัฐ

หันมามองประเทศจีนในปี 2559 รัฐบาลจีนก็ส่งสัญญาณชัดว่าจะลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลงเพื่อประคองตัวเองให้รอด ขณะที่สหภาพยุโรปก็มีท่าทีกับไทยอย่างที่รู้ๆ กัน การบริโภคภายในประเทศแม้กระทั่งดัชนีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังแย่ ความจริงไม่ต้องรอดูดัชนีอะไรเปิดกระเป๋าสตางค์ตัวเองดูก็รู้ว่าฝืดขนาดไหน การลงทุนภาครัฐที่เร่งอัดเข้าระบบด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ก็คงจะเข้าพกเข้าห่อเป็นหย่อมๆ ไม่แตกต่างจากการก่อสร้างโครงการที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม The show must go on ขอเพียงแค่ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุดโดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่าย ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน

ข่าวล่าสุด

DITP พา 30 บริษัทไทยบุกจีนตะวันตก ปิดดีลอาหาร–สัตว์เลี้ยง 102 ล้าน