อาชีพเท่ๆ ผู้หญิง (ก็) ทำได้
ใครบอกล่ะว่าอาชีพเท่ๆ สุดท้าทายที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความอดทน ความกล้า และความสามารถสูง
โดย...พงศ์ธร/กาญจนา/ภาดนุ ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
ใครบอกล่ะว่าอาชีพเท่ๆ สุดท้าทายที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความอดทน ความกล้า และความสามารถสูง อย่างการเป็นนักบินบอลลูน โชเฟอร์ขับรถบรรทุก และวิศวกรเครื่องบินโบอิ้ง จะเป็นอาชีพที่ถูกสงวนสิทธิไว้สำหรับผู้ชายร่างกำยำล่ำสันเท่านั้น เชื่อมั้ยว่าอาชีพเหล่านี้ผู้หญิงเก่งหลายคนก็ทำได้ ดูอย่าง 3 สาวเก่งที่เราภูมิใจนำเสนอนี้สิ
นักบินบอลลูนหญิงหนึ่งเดียวในประเทศไทย
"เหตุที่ประเทศไทยยังมีนักบินบอลลูนหญิงเพียงคนเดียวเป็นเพราะโอกาส" เอ๋-บุญจิรา ล้วนปรีดา นักบินบอลลูนหญิงคนแรกและคนเดียวของประเทศไทย กล่าวเช่นนั้น เพราะบอลลูนยังไม่ใช่กีฬา แต่ยังถูกจำกัดว่าเป็นแค่อากาศยานเพื่อการพาณิชย์เท่านั้น
"นักบินบอลลูนไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นหญิงหรือชาย แต่คนทั่วไปเข้าถึงบอลลูนยากต่างหาก ไม่รู้ว่าต้องไปเรียนที่ไหน ไม่รู้ว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการบอลลูนยังไง ทำให้นักบินถูกผลิตออกมาน้อย" อย่างเธอเริ่มคลุกวงในจากการเป็นล่ามให้นักบินต่างชาติที่เข้ามาบินในไทย ต่อมาก็เข้าร่วมเป็นลูกเรือ กระทั่งได้รับโอกาสเรียนจนยึดเป็นอาชีพเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันวงการบอลลูนไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะภาครัฐและเอกชนจัดเทศกาลบอลลูนต่อเนื่องทุกปี แต่การเรียนยังไม่เปิดกว้าง เพราะถูกกฎหมายจำกัดว่านักบินบอลลูนต้องทำงานเพื่อการพาณิชย์เท่านั้น ดังนั้นโรงเรียนสอนนักบินจึงอยู่ในบริษัท และบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตมีเพียงบริษัทเดียวคือ ฟลายอิ้ง มีเดีย
เอ๋ให้ข้อมูลว่า ในสหรัฐแบ่งนักบินบอลลูนออกเป็น 2 แบบ คือ นักบินอาชีพ และนักบินสมัครเล่นหรือเล่นเป็นงานอดิเรก คนที่สนใจสามารถไปเรียนและสอบใบอนุญาต PPL หรือ Personal Pilot License ที่อเมริกาเพื่อบินบอลลูนสัญชาติอเมริกันได้ ส่วนตัวเธอพอเรียนจบจากบริษัทและเก็บชั่วโมงบินครบ 35 ไฟลต์ ได้ไปสอบบัตรประจำตัวนักบิน (Pilot License) จากกรมการบินพลเรือน แต่ก็ถูกจำกัดเพียงเพื่อการทำงาน ไม่สามารถบินเป็นงานอดิเรกได้
ไม่ว่านักบินหญิงหรือชายแทบไม่มีความแตกต่างในการประกอบอาชีพ ผู้หญิงอาจเสียเปรียบบ้างในเรื่องความแข็งแรงของร่างกาย เพราะอุปกรณ์บางชิ้นอย่างถังก๊าซและเบิร์นเนอร์มีน้ำหนักมาก แต่ก็มีความได้เปรียบในการทำงานร่วมกับทีมชายล้วน เพราะลักษณะนิสัยที่ประนีประนอมทำให้สื่อสารกันง่ายขึ้น
"บางครั้งผู้ชายจะแสดงความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้ระวังคำพูด แต่ผู้หญิงเป็นคนชอบสังเกตและไวต่อความรู้สึก ทำให้ไม่มีปัญหาในการสื่อสาร และทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่เครียด"
เอ๋ยังกล่าวด้วยว่า ใครที่สนใจอยากเป็นนักบินบอลลูนอยากให้มาลองเป็นลูกเรือดูก่อน เพื่อให้รู้ตัวเองว่าชอบจริงหรือไม่ เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนค่อนข้างสูง การขึ้นบินแต่ละครั้งไม่เพียงใช้เชื้อเพลิงราคาแพง แต่ยังต้องมีลูกทีมอย่างต่ำ 3 คนเวลาขึ้นและลงบอลลูน
ตอนนี้เอ๋เปิดบริษัทของตัวเองชื่อ ไรท์เตอร์ แดน แอร์ (เอเชีย) (Lighter Than Air (Asia)) รับจัดงานบอลลูนทั้งในไทยและต่างประเทศ และเมื่อกรมการบินพลเรือนให้ใบอนุญาตทำการบินพาณิชย์ก็จะเปิดบริการให้คนทั่วไปขึ้นบินบอลลูนในแง่ท่องเที่ยว โดยมีฐานบินหลักอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
"เอ๋เชื่อว่าหลายคนมีความฝันว่าอยากบินได้ แต่วิธีการบินมันต่างกันทั้งขึ้นเครื่องบิน เล่นพาราไกลดิ้ง รวมถึงบอลลูนที่ต่างจากการบินแบบอื่น เพราะมันเป็นการบินไปกับสายลม ผู้กำหนดทิศทางคือลม แต่เราก็สามารถเลือกที่จะไปซ้ายหรือขวาได้จากการเปลี่ยนความสูง เอ๋ว่ามันเป็นเสน่ห์ มันคือความท้าทายที่ต้องเล่นกับธรรมชาติ"
นอกจากนี้ เธอยังฝากไปถึงผู้หญิงทุกคนว่า ถ้าทุกคนมีความตั้งใจ มีความพยายาม และมีทัศนคติว่าสามารถทำได้ ทุกความฝันจะไม่เกินความสามารถ..."ถ้าคุณทำแล้วมันไม่สำเร็จก็ทำใหม่ ครั้งต่อไปมันจะดีกว่าเดิม เพราะคุณได้เรียนรู้จากครั้งก่อนแล้ว ขอเพียงเดินต่อไปในทางที่เลือกเดิน ถ้าใจเรายังสู้ ยังพยายาม สักวันมันต้องสำเร็จ" ในฐานะนักบินบอลลูนเธอจะเป็นผู้หนึ่งในการผลักดันให้บอลลูนเปิดกว้างสำหรับทุกคน
โชเฟอร์สิบล้อหญิง ขับไม่ซิ่ง มาแบบนิ่งๆ ปลอดภัย
“โชเฟอร์สิบล้อ” ถือเป็นอาชีพที่น้อยคนจะฝันถึง ยิ่งเฉพาะผู้หญิงแล้ว งานการเช่นนี้คงเป็นเรื่องไกลตัวเหลือเกิน เพราะผู้หญิงกี่คนกันล่ะที่อยากทำอาชีพขับรถสิบล้อ แต่ทว่า “โรส-รสสุคนธ์ กรอกรวม” กลับคิดต่างไป เธอบอกว่าเธอรักอาชีพนี้เหลือเกิน เพราะเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงชีวิตและทำให้ลูกๆ เติบโตมาแบบไม่ลำบากเช่นที่เธอเคยผ่านมา
ปัจจุบันหญิงสาวหุ่นจ้ำม่ำคนนี้ทำงานที่บริษัท พันธ์ทิพย์ ทรานส์เซอร์วิส โดยเป็นพนักงานขับรถบรรทุกมากว่า 12 ปี ผู้หญิงวัย 35 ปีผู้นี้ เล่าถึงอาชีพของเธอให้ฟังด้วยรอยยิ้ม ในวันที่สาวเจ้าเสร็จจากงานแข่งขัน Fuel Watch หรือการแข่งขับรถบรรทุกประหยัดน้ำมันที่จัดขึ้นโดยบริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย)
“ด้วยความที่เราต้องติดตามสามีซึ่งทำงานขับรถบรรทุกส่งของเป็นระยะทางไกลๆ อยู่ตลอด และระหว่างทางที่จุดพักรถก็พบว่ามีพนักงานขับรถหญิงที่ขับรถบรรทุกอยู่บ้างเหมือนกัน เราเลยขอให้สามีและรุ่นพี่ช่วยสอนขับรถบรรทุกให้ โดยหัดจากรุ่นพี่ที่ชื่อ ‘ดา’ ซึ่งเป็นพนักงานหญิงที่ขับรถบรรทุกเหมือนกัน เราจึงเกิดแรงบันดาลใจว่าอยากจะช่วยสามีหาเงิน เลยตั้งใจจะทำอาชีพนี้เพราะเห็นว่าผู้หญิงก็ทำได้
ครั้งแรกที่จับพวงมาลัยก็เริ่มหัดขับรถบรรทุก 6 ล้อก่อน พอขับคล่องแล้วก็เลยมาหัดขับรถบรรทุก 18 ล้อบ้าง ก็เริ่มขับรถสลับกับสามีตอนเดินทางไกลๆ กระทั่งมาสมัครงานที่บริษัทก็ผ่านการคัดเลือก ตอนนั้นดีใจมากเลยที่เขารับเรา”
โรสขับรถบรรทุกมาหลายปี เรียกว่าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย ทำให้เธอได้รับคัดเลือกจากบริษัทให้เป็นตัวแทนมาแข่งขันขับรถบรรทุกประหยัดน้ำมันอยู่หลายครั้ง ซึ่งต้องแข่งกับผู้ชาย และเมื่อได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าอาชีพขับรถบรรทุกต้องใช้ความอดทนสูง ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถทั้งวันทั้งคืน ต้องมีวินัยในการขับแบบสุดๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดอันตรายได้ บางครั้งต้องขับทางไกล บางครั้งต้องขับข้ามประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าค่าตอบแทนถือว่าสมเหตุสมผล รายได้ในแต่ละครั้งจะอยู่ที่น้ำมันในถังว่าเหลือเท่าไหร่ ก็จะได้เงินตามราคาน้ำมันเป็นลิตร
นอกจากนั้นยังมีเงินเดือนให้ต่างหากซึ่งมากกว่า 2 หมื่นบาท ทำให้ชีวิตของผู้หญิงที่มีอาชีพขับสิบล้ออยู่ได้อย่างสบาย ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้หญิงมาขับรถสิบล้อมากขึ้น ซึ่งหากใครสนใจอาชีพนี้ก็คงต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองให้หนัก เพราะฟังจากที่โรสเล่าแล้ว การขับรถบรรทุกเป็นงานที่ต้องรักจริงๆ ถึงจะประสบความสำเร็จได้
“ก่อนขับรถบรรทุกจะต้องนอนหลับให้เพียงพอ กินอาหารให้พออิ่ม และต้องมีสติทุกครั้งว่าจะขับรถแล้วนะ ยิ่งเราเป็นรถใหญ่ ต้องระวังทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมทางด้วย ที่สำคัญการเคารพกฎจราจรเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เคยมีประสบการณ์เห็นเหตุการณ์รถชนเพราะฝ่าไฟแดงมาแล้ว ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย เพียงแค่หยุดรถตามสัญญาณไฟ น่าจะทำได้ จะได้ไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับคนอื่นและตัวเอง ซึ่งงานอย่างเรายิ่งต้องทำตามกฎโดยเคร่งครัด เพราะรถเรามันคันใหญ่ ซึ่งจะอันตรายมากหากเกิดอุบัติเหตุ”
นักขับสิบล้อหญิงเผยประสบการณ์ของเธอไว้เช่นนั้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจและรายได้ดีทีเดียว
วิศวกรหญิงเครื่องบินโบอิ้ง ท้าทาย ทำด้วยใจรัก
ภัทรา โชติวิทยะกุล หรือ ลูกน้ำ เล่าย้อนว่า หลังจากที่เธอเรียนจบปริญญาตรีทางด้าน Industrial and System Engineering และปริญญาโท Engineering Management จากมหาวิทยาลัยเซาท์แคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส สหรัฐแล้ว เธอก็ก้าวสู่อาชีพวิศวกรทันที
“ช่วงที่เรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ดิฉันมีโอกาสได้ทำงานกับบริษัท โบอิ้ง ในโครงการของนาซ่า เพราะสอบติด 1 ใน 4 ของการคัดเลือกบุคคลจากทั่วสหรัฐเพื่อเข้าสู่โปรแกรมแมเนจเมนต์ระดับสูง เมื่อสอบติดแล้วบริษัท โบอิ้ง ยังให้ทุนเรียนต่อปริญญาโทด้วยค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เรียนวิศวกรที่สมัยนั้นในชั้นเรียนมีผู้หญิงแค่ 2 คนเท่านั้น เนื่องจากวิศวกรค่อนข้างจะเรียนยาก ต้องลุยเยอะ เพราะเรียนเกี่ยวกับเครื่องจักรกล แถมยังต้องไปลุยโรงงานด้วย”
ลูกน้ำ บอกว่า จริงๆ แล้วตอนเรียนมัธยมปลายปลายที่โรงเรียนประจำในสหรัฐ เธอเคยได้ทุนเรียนปริญญาตรีทางด้านศิลปะ แต่พอเรียนไปได้แค่ 1 ปี ก็รู้สึกว่าตัวเองมีความชอบด้านวิศวกร เธอจึงเปลี่ยนใจมาเรียนทางด้านนี้แทน
“เมื่อไปเรียนวิศวกรแล้วดิฉันรู้สึกว่ามันสนุก ท้าทาย และรู้สึกว่าพวกเครื่องบินหรือยานอวกาศนั้นเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น น่าสนใจ มีนวัตกรรมที่สุดยอด แล้วมีคนไม่มากนักหรอกที่จะได้เข้ามาเรียน ได้เข้ามาใกล้ชิดกับสิ่งเหล่านี้ ที่สำคัญยังได้ร่วมงานกับบุคคลระดับหัวกะทิจากทั่วโลกด้วย
ตอนที่ทำงานอยู่บริษัท โบอิ้ง มันน่าตื่นเต้นมาก เพราะได้เห็นการส่งดาวเทียมโดยใช้กระสวยอวกาศยิงออกไปนอกโลก เลยรู้สึกว่าเป็นงานที่สนุกและท้าทาย ต่อมาดิฉันได้ย้ายไปทำงานที่บริษัท ยูไนเต็ด แอร์ไลน์l ซึ่งที่นี่ดิฉันได้เป็นวิศวกรเต็มตัวเลยค่ะ มีหน้าที่ดูแลการซ่อมบำรุงเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งทันสมัยที่สุดในช่วงนั้น หน้าที่หลักของดิฉันคือดูแลโปรแกรมการบิน ทำให้ต้องเดินทางบ่อยมากในช่วงนั้น
นอกจากนี้ ดิฉันยังต้องปีนเครื่องบินเพื่อตรวจสอบ ทั้งห้อยทั้งโหนตัวลงไปตามจุดต่างๆ ของเครื่องบิน จุดไหนที่เอื้อมไม่ถึงก็จะให้เจ้าหน้าที่คนอื่นช่วยจับขาไว้กันร่วง (หัวเราะ) ซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก ทำอยู่ได้พักใหญ่ ดิฉันก็มาทำงานให้กับบริษัท อินเทล โดยได้เป็นวิศวกรอาวุโสตอนอายุ 25 ปี ซึ่งต้องบินไปบินมาตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เรียกว่าตอนนั้นรู้สึกสนุกกับงานมากค่ะ”
สาวเก่งเสริมว่า ในความคิดเธอแล้วงานทุกอาชีพนั้นมีความเสี่ยงในตัวอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่อาชีพวิศวกรเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเธอกลับมองว่าอาชีพวิศวกรเป็นงานที่สนุกและท้าทายซะมากกว่า แน่นอนว่ารายได้ดีมากด้วย
”ปัจจุบันนี้แม้ดิฉันจะไม่ได้ทำอาชีพวิศวกรแล้ว เพราะย้ายกลับมาทำงานอยู่ที่เมืองไทยได้เกือบ 10 ปี และตั้งบริษัท ธราภา ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางแทน แต่ตลอดช่วงหลายปีที่ได้เป็นวิศวกรการบิน ดิฉันรู้สึกภูมิใจมากที่เป็นหนึ่งในผู้หญิงไทยที่เคยได้ทำอาชีพสุดท้าทาย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักคิดว่ามีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำได้ แต่ในความคิดของดิฉันแล้ว ถ้าเราชอบ เรามีความพยายาม และไม่ยอมแพ้ซะอย่าง อาชีพไหนๆ ผู้หญิงก็ทำได้ค่ะ”


