กรมควบคุมโรคแนะวิธีรับมือ ‘ไวรัสกินคน’
“โรคลิชมาเนีย” อาจไม่คุ้นชินสำหรับคนไทย แต่เชื่อหรือไม่ว่าทั่วโลกมีแหล่งแพร่เชื้อไม่ต่ำกว่า 80 ประเทศ
“โรคลิชมาเนีย” อาจไม่คุ้นชินสำหรับคนไทย แต่เชื่อหรือไม่ว่าทั่วโลกมีแหล่งแพร่เชื้อไม่ต่ำกว่า 80 ประเทศ
โรคลิชมาเนีย หรือ “ไวรัสกินเนื้อคน” ตามที่สื่อมวลชนเรียกขาน เคยระบาดในประเทศซีเรียมาตั้งแต่ปี 2555 และช่วงต้นปี 2556 พบผู้ป่วยประมาณ 4.1 หมื่นราย
ล่าสุด โรคดังกล่าวได้รับความสนใจอีกครั้งภายหลังเกิดกระแสข่าวพบการแพร่ระบาดในประเทศซีเรียอีกระลอก แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประเทศซีเรียจะยังไม่ได้แจ้งเตือนถึงสถานการณ์ดังกล่าว
สำหรับอาการของผู้ป่วยด้วยโรคไวรัสกินเนื้อคน เริ่มแรกผิวหนังจะมีตุ่มนูนพองใสและแดงทั่วตัว ลุกลามจากแผลเล็กๆ หลายๆ แผล จนกลายเป็นแผลใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดแผลตามใบหน้า โพรงจมูก ปาก รวมทั้งลำคอ โดยแผลอาจจะทำให้รูปหน้าผิดไปจากเดิม รวมทั้งมีอาการไข้ ซีด อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หากปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้
โรคดังกล่าวเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสู่คนได้ โดยมีพาหะเป็น “ริ้นฝอยทราย” ส่วนการรักษาก็มีตั้งแต่ทายาภายนอก รับประทานยา หรือแม้แต่การฉีดยา
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรคให้ข้อมูลว่า สถานการณ์โรคลิชมาเนียในประเทศไทย พบผู้ป่วยประปรายตั้งแต่ปี 2503-2558 โดยพบผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 66 ราย ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคลิชมาเนียส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเชื้อ HIV ร่วมด้วย เฉพาะในปี 2558 มีรายงานพบผู้ป่วย 2 ราย ใน จ.แม่ฮ่องสอน และ
เชียงราย
นพ.อำนวย อธิบายเพิ่มว่า โรคลิชมาเนียเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ซึ่งมีการติดต่อของโรคนำโดยแมลง มีริ้นฝอยทรายเป็นพาหะนำโรค ปัจจุบันมีรายงานแหล่งแพร่โรคลิชมาเนียไม่ต่ำกว่า 80 ประเทศ อาทิ จีน อินเดีย ประเทศในแถบตะวันออกกลาง แถบเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกาเหนือ และตอนเหนือของอเมริกาใต้
สำหรับการระบาดส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับการอพยพและเคลื่อนย้ายของประชาชน นอกจากนี้ในประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งไม่ได้มีการจัดการสุขาภิบาลที่ดีก็สามารถเกิดการระบาดได้
“ในส่วนของการระบาดในประเทศซีเรียนั้นพบว่ามีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดการแพร่ระบาดข้ามประเทศและมีความเป็นไปได้น้อย หรือไม่มีความเป็นไปได้ที่จะนำเชื้อชนิดนี้ไปทำอาวุธชีวภาพ เนื่องจากเชื้อลิชมาเนียจะมีการแพร่กระจายได้ก็ต่อเมื่อมีพาหะนำโรคเท่านั้น” อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ
พร้อมกันนี้ กรมควบคุมโรคยังได้แนะนําวิธีการสำหรับป้องกันตัวเองจากโรค ได้แก่ 1.ป้องกันตนเองอย่าให้ริ้นฝอยทรายกัด เช่น การทายากันยุง สวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกายเมื่อเข้าป่า โดยเฉพาะในช่วงพลบค่ำที่ริ้นฝอยทรายออกหากินมาก 2.ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทั้งในบ้านและนอกบ้านให้สะอาดเป็นระเบียบ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ริ้นฝอยทราย
3.ควบคุมรังโรคในสัตว์ เช่น วัว ควาย ต้องเลี้ยงห่างจากบ้านประมาณ 5-10 เมตร 4.ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด ควรมีการเฝ้าระวังโรค เช่น แรงงานไทยทุกคนที่เดินทางกลับจากประเทศที่เป็นแหล่งแพร่โรคควรได้รับการตรวจร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็นโรคลิชมาเนียเนื่องจากผู้ป่วยมักไม่ทราบ เพราะไม่มีอาการรุนแรง ประชาชนที่มีความสนใจ
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422


