เฟย-ภัทร เอกแสงกุล เลือกที่จะเป็นตัวเอง
เฟย-ภัทร เอกแสงกุล นิสิตหนุ่มหน้าตาดีจากคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดย...เสน่ห์จันทน์-วิภาคย์ พูนพันธุ์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
เฟย-ภัทร เอกแสงกุล นิสิตหนุ่มหน้าตาดีจากคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บุคลิกโดดเด่นที่ส่งออกมาจากความเป็นตัวของตัวเอง หล่อจนได้ขึ้นแท่น 8 หนุ่มเกรียน Possible ได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับทางจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ แถมยังติดโผเป็น 50 หนุ่มโสดในฝันคลีโอ ปี 2558 ด้วย ถึงตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ไฟแรง
เฟยไม่คิดถึงจุดที่เขาต้องเข้ามาในวงการบันเทิง ถ้ามีโอกาสจริงคงได้ทำเบื้องหลังมากกว่า เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูปมาก สนใจกล้อง แต่เมื่อมีโอกาสได้เล่นละครนิเทศฯ ตอนปีที่หนึ่ง ก็เริ่มหลงในเสน่ห์การแสดง รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็มีผลงานออกมาให้ได้ชมทางจีเอ็มเอ็ม 25 ถึง 2 เรื่องแล้ว คือ GPA สถาบันพันธุ์แสบ และปริศนาอาฆาต
“เข้าวงการมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป จากคนไม่รู้จักผมเลยก็รู้จักมากขึ้น เมื่อก่อนเราเป็นคนไม่ได้แคร์ใครเลย แต่พอเป็นนักแสดงต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนผมไว้หนวดด้วย เป็นคนเซอร์ๆ (หัวเราะ) ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เดี๋ยวนี้ต้องทาครีม คีพลุคไว้ตลอดครับ ความเปลี่ยนแปลงอาจจะอึดอัดบ้างแต่มันก็โอเค ส่วนเรื่องการวางตัวมันก็ต้องปรับเปลี่ยนนิดหนึ่ง เราจะไปใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนก็ไม่ได้แล้ว แต่ผมไม่ได้เปลี่ยนไปมากขนาดนั้น ผมยังเลือกเป็นตัวเองอยู่ดี เพราะรู้สึกว่าผมชอบที่ผมเป็นแบบนี้ ผมไม่อยากเหมือนใคร เราเลือกทางของตัวเอง”
แม้ GPA สถาบันพันธุ์แสบจะเป็นเรื่องแรกแต่เฟยก็ผ่านมันมาได้ไม่ยากนัก เหตุเพราะบทใกล้เคียงกับตัวเอง มีความมั่นใจ เป็นตัวเองสูง เขาไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น จำบท จำสิ่งที่จะต้องเข้าไปในฉาก แล้วก็แสดงได้เลย ไม่ต้องจำคาแรกเตอร์ตัวละครเยอะ แต่สำหรับเรื่องที่สอง ปริศนาอาฆาต หินกว่า แต่นักแสดงน้องใหม่ก็ยินดี เพราะยิ่งยากยิ่งได้พัฒนา และมันคือเป้าหมายต่อทุกๆ เรื่องที่จะเข้ามาในอนาคต
“ผมก็กลัวผีนิดๆ ครับ แล้วเรื่องนี้ถ่ายในสถานที่จริงด้วย เป็นโรงพยาบาลร้างจริงๆ มาสิบปีแล้ว ไม่พอแค่นั้นเตียงที่ผมเข็นก็เป็นของจริง เวลาแสดงจะกดดันเรื่องความคิด จินตนาการว่าผีอยู่ตรงไหน มายังไง ในความรู้สึกยากหมดครับ ถ้าเป็นในเรื่องของการแสดงเรื่องนี้เล่นฉากหนึ่งกินพลังมาก ความคิดจะเยอะ ปั่นป่วนไปหมด เพราะต้องแสดงออกทางสีหน้าท่าทางเยอะด้วย ยากมากเพราะเราเพิ่งผ่านงานมาไม่กี่เรื่อง เราต้องทำความเข้าใจกับบทอยู่เสมอ ต้องตีความตลอด ผมทำการบ้านมาก่อนเสมอ มีคนสอนมาว่าต้องทำการบ้าน และคิดเองด้วยว่าต้องแสดงท่าทางยังไง เพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องจริงจังกับงาน ซึ่งมันทำให้เราง่ายขึ้น ทุกอย่างเดินเร็วขึ้น ไม่ต้องไปจำบทหน้าเซต และปรับแก้ง่ายกว่า การทำการบ้านมาก่อนทำให้เรามั่นใจมากขึ้นด้วย”
เพียงเวลาเกือบปีที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดง แต่มีผลงานที่โดดเด่น ถูกพูดถึง ผู้ใหญ่ป้อนงานให้ต่อเนื่อง เฟยมองโอกาสที่ได้รับมานั้นมีค่ายิ่งและทำมันให้ดีที่สุดสมกับโอกาสที่ได้มา
“เอาจริงๆ นะครับ ตอนนี้ผมยังไม่กล้าบอกเลยว่าเป็นดารา ผมทำงานแสดง ผมเป็นนักแสดง เพื่อให้คนที่ดูศิลปะที่ผมทำลงไป ผมรู้สึกดวงดีที่ได้รับโอกาส ผมก็ทำหน้าที่ให้เต็มที่ พัฒนาต่อไป เพราะผมเชื่อว่างานยากแต่เราตั้งใจมันก็สำเร็จได้ อนาคตผมก็อยากได้รับบทที่แตกต่างได้แสดงฝีมือ เพราะผมมีไอดอลทางการแสดงคือ พี่อนันดา (เอเวอร์ริ่งแฮม) เขาแสดงนิ่ง แต่สามารถส่งอารมณ์ออกมาได้ดี ผมอยากทำได้แบบนั้นครับ”
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสมาเป็นดาวประดับวงการบันเทิงไทย แต่สำหรับคนที่ได้โอกาสมาแล้ว แล้วทำมันให้เกิดประโยชน์ เส้นทางนี้ก็คงยังทอดยาวให้เดินต่อไปได้อีก


