ดอยหนอก เสียว ชัน สวย
ดอยหนอกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง อาณาเขตอุทยานฯ กินพื้นที่เชียงราย ลำปาง และพะเยา
โดย...ทวีชัย ธวัชปกรณ์
ดอยหนอกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง อาณาเขตอุทยานฯ กินพื้นที่เชียงราย ลำปาง และพะเยา ดอยหนอกเป็นภูเขาหินหัวโล้นขนาดใหญ่ที่โผล่พ้นแนวเทือกเขาสีเขียว ลักษณะคล้ายหนอกที่อยู่บนหลังวัว ทำให้ถูกตั้งชื่อว่า “ดอยหนอก” และเป็นจุดแบ่งอาณาเขตตามธรรมชาติสันปันน้ำระหว่างลำปางและพะเยา มีความสูงประมาณ 1,694 เมตรจากระดับน้ำทะเล
เริ่มต้นการเดินทางขึ้นดอยหนอกจากบ้านปงถ้ำ ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เส้นทางทั้งหมดยาว 8 กิโลเมตร มีให้เลือกสองรูปแบบ คือ หนึ่ง จ้างรถอีแต๊กของชาวบ้านที่มีบริการไปจนถึงทางขึ้นเขาระยะทาง 4 กิโลเมตร และเดินต่ออีก 4 กิโลเมตร และสอง เดินรวดเดียวจากบ้านปงถ้ำ อันนี้ก็แล้วแต่สมรรถนะและความแข็งแกร่งของแต่ละคนว่าจะฟิต อึด ขนาดไหน และนอกจากรถอีแต๊กแล้วที่บ้านปงถ้ำยังมีศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งให้คำปรึกษาในการเดินทาง รวมถึงบริการคนนำทาง ลูกหาบ และบริการอาหารต่างๆ ที่จะนำไปกินระหว่างทาง
สำหรับครั้งนี้ขอเลือกวิธีที่หนึ่ง ระยะทาง 4 กิโลเมตรแรก ก่อนถึงจุดลงเดินเท้าไม่ได้ราบเรียบอย่างที่คิด มีทั้งทางลูกรัง ลำธาร ดิน และก้อนหิน ชนิดที่นั่งรถอีแต๊กยังต้องนั่งเกร็งกันเมื่อยเอวและทุลักทุเลกันพอสมควร แต่ยังดีที่มีทิวทัศน์สองข้างทางเป็นไร่นาของชาวบ้านพอให้ลืมความเมื่อยไปได้บ้าง ซึ่งใช้เวลาเดินทางถึง 1 ชั่วโมงเต็ม บนระยะทางเพียง 4 กิโลฯ
จุดลงเดินเป็นป่ากล้วยรกทึบ ระยะทางในช่วงแรกไปจนถึงจุดพักที่หนึ่งเป็นทางเดินสบายๆ ไม่ชันมากนัก พอให้ร่างกายได้วอร์มอัพ มีเสียงน้ำจากลำธารคลอเคลียให้ดูชุ่มชื่น โดยจุดพักแต่ละจุดจะอยู่ห่างกันประมาณ 800 เมตร
เมื่อผ่านจุดพักแรกไปแล้วทางเดินจะเริ่มชันมากขึ้นและแคบลงเรื่อยๆ รายล้อมด้วยป่าเบญจพรรณที่ความชื้นดูจะน้อยลงกว่าช่วงแรกที่สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ากล้วยและป่าไผ่ หลายคนในช่วงนี้เริ่มร้องขอให้คนนำทางที่เป็นชาวบ้านตัดไม้มาทำเป็นไม้เท้าช่วยพยุงกันแล้ว กว่าจะเดินขึ้นถึงจุดพักที่สามและสี่ใช้เวลากันพอสมควรตามความชันของภูมิประเทศทำให้ต้องใช้เกียร์ต่ำตลอดทาง
จากจุดที่สามถึงจุดที่สี่ใช้เวลาเดินรวม 4 ชั่วโมง โดยจุดนี้มีเพิงสังกะสีเล็กๆ สร้างไว้บนลานหินไว้พักกินข้าวและมีน้ำที่ชาวบ้านทำท่อจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้และดื่มกัน พวกเราก็จะใช้เป็นที่กินข้าวกลางวันเติมพลังให้เต็มที่ เพราะหนทางข้างหน้าจะโหดกว่าที่ผ่านมา
จากจุดที่สี่เหลือระยะทางเพียง 1 กิโลเมตร ก่อนถึงยอดดอย เส้นทางเดินเต็มไปด้วยหญ้าคาสูงท่วมหัวและความชันที่ระห่ำมากขึ้น 500 เมตร ต่อมาจะถึงลานหินขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป (พระเจ้าทันใจ) ผู้ที่อยากจะมาพักค้างคืนเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นทางฝั่งพะเยาและตกทางฝั่งลำปาง สามารถกางเต็นท์ได้ที่จุดนี้พวกเราถือโอกาสนมัสการพระเจ้าทันใจก่อนเดินต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่เนินหินด้านหลังองค์พระ นั่นคือหนอกที่รอให้ไปพิชิต
ดอยหนอกอยู่ข้างหน้าห่างเพียง 500 เมตร แต่ด้วยลักษณะที่เป็นเขาหินหัวโล้นชันๆ ดูแล้วน่าจะเป็นทางของเลียงผามากกว่า จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “จะขึ้นไปอย่างไร” แต่สุดท้ายก็มีเพียงคำตอบเดียวคือ “ปีน”
ช่วงสุดท้ายนี้ต้องบอกว่าเป็นจุดพีกที่สุดของเส้นทางที่ต้องปีนป่าย ไต่ระห่ำ จริงๆแล้วต้องพูดว่าทางเดินไม่มีแม้แต่ทางปีน เพราะเป็นหินล้วน ชันมาก ไม่มีที่เกาะ จะมีก็เพียงลวดสลิงช่วงหนึ่งคอยเป็นแสงนำทางให้กับผู้พิชิตดอยหนอก ออกแนวลุ้นกันทุกฝีก้าวกว่าจะขึ้นไปยังจุดสูงสุด
ทว่า ความเหนื่อยทั้งหลายมลายหมดสิ้นเมื่อถึงจุดนั้น สิ่งแรกที่ทำคือ กราบไหว้พระธาตุดอยหนอกที่อยู่บนยอด และพลันคิดถึงคนที่นำพาความศรัทธาขึ้นมา จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายหามุมส่วนตัว (ที่ไม่ค่อยมีให้เลือก) แล้วดื่มด่ำกับทิวทัศน์รอบตัวในแบบ 360 องศา เก็บภาพ สูดอากาศ ตากเหงื่อ และล้างความเหนื่อยล้า พร้อมเก็บเกี่ยวความชื่นใจ นอกจากนี้ดอยหนอกยังมีคอนเซ็ปต์ ดอยเดียวเที่ยวสี่จังหวัด เห็นทั้งลำปาง พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่
เมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นป่ากล้วยอยู่ลิบๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นก้าวแรก มันน่าทึ่งว่า “เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร” แต่ไม่มีใครสักคนที่ถาม “เราขึ้นมาทำไม” เพราะทุกคนทราบดีว่า ดอยหนอกไม่ใช่จุดชมวิวที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แต่คราบเหงื่อบนใบหน้าต่างหากที่เป็นคำตอบ และไม่ว่าจะเคยพิชิตมาแล้วกี่ยอดดอย ทุกดอยต่างให้ประสบการณ์ชีวิตไม่ซ้ำบทเรียน


