ฝาก (ไข่) ไว้ก่อนได้ เอาไว้มี (ลูก) เมื่อพร้อม
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก บางคนคว้ารถไฟฟ้ามาหานะเธอได้เที่ยวสุดท้ายอย่างหวุดหวิด
โดย...กองบรรณาธิการ ภาพ : tnew/instargram เมย์ เฟื่องอารมย์
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก บางคนคว้ารถไฟฟ้ามาหานะเธอได้เที่ยวสุดท้ายอย่างหวุดหวิด แต่เมื่อถึงเวลาที่คิดว่าพร้อมจะมีลูก ถึงตอนนั้นก็ไม่เหลือ “ไข่” คุณภาพที่จะให้กำเนิดบุตรที่สมบูรณ์แข็งแรงได้แล้ว แล้วหญิงอย่างเราจะทำอย่างไร คำตอบที่หลายคนอาจรู้แล้วแต่ยังไม่กล้า ไข่...ฝากไว้ก่อนก็ได้นะเธอ
นพ.บุญแสง วุฒิพันธุ์ สูตินรีแพทย์-เวชศาสตร์การเจริญพันธ์ภาวะผู้มีบุตรยาก โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท กล่าวว่า ผู้หญิงสมัยนี้กว่าจะเรียนจบปริญญาโทหรือเอก กว่าจะทำงานมีแฟนแต่งงานก็ปาเข้าไป 30 กว่า เตรียมสร้างเนื้อสร้างตัวกว่าจะมีลูกได้ก็อายุเกิน 35 ไปแล้ว ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ยากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์มีตัวช่วยทำให้การเป็นแม่สะดวกสมบูรณ์แบบได้ง่ายขึ้น โดยคุณสาวๆ สามารถมาฝากไข่ของตัวเองเอาไว้ได้ เมื่อแต่งงานพร้อมจะมีลูกก็นำไข่ไปผสมกับสเปิร์มของสามีได้ โดยไข่ที่เก็บไว้จะมีอายุคงที่ ณ เวลาที่คุณฝาก การเก็บไข่ที่ดีที่สุด คือ ช่วงอายุ 28-34 ปี ถ้าหลังจากนั้นอัตราการตั้งครรภ์จะลดลง
“เช่นคุณฝากไข่ตอนอายุ 30 มาตั้งครรภ์ตอนอายุ 40 ไข่ก็จะเป็นไข่ตอนอายุ 30 ที่ต่างประเทศก็นิยมทำกันเยอะขึ้น การฝากไข่สามารถเก็บได้เป็นสิบปี การตกไข่แต่ละครั้งของผู้หญิงจะตกครั้งละ 10-15 ใบ แต่แพทย์จะเก็บไข่ที่สมบูรณ์ที่สุดไว้ 8-10 ใบ โดยจะทำการเก็บไข่สัก 2 ครั้ง จะได้ไข่ไว้เกือบ 20 กว่าใบ”
วิธีการก็คือจะมีการกินยาหรือฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ ก่อนการฝากไข่ประมาณ 1-2 เดือน เมื่อใกล้เวลาตกไข่แพทย์จะทำการคัดเลือก ค่าใช้จ่ายในการกระตุ้นและคัดไข่ก็ประมาณหลักหลายหมื่นจนถึงแสน ส่วนการฝากไข่ปีละหลักพันบาท หากจะใช้ไข่ก็นำมาละลายผสมกับสเปิร์มของสามี แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงแต่คุณแม่จะได้ไข่ที่สมบูรณ์คุณภาพดี ป้องกันการเสี่ยงการไม่สมบูรณ์ของทารกน้อย
เนื่องจากหากมาตั้งครรภ์ตามธรรมชาติเมื่อตอนอายุ 40 ปี โอกาสการตั้งครรภ์จะยากแล้ว จะมีภาวะสุ่มเสี่ยงต่างๆ ได้ เช่น ลูกเสี่ยงกับการเป็นออทิสติกหรืออื่นๆ เพราะการตั้งครรภ์ครั้งแรกไม่ควรเกิน 35 ปี ส่วนข้อจำกัดในการฝากไข่ก็มีน้อยมาก ยกเว้นคุณผู้หญิงมีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเลือดทาลัสซีเมีย นอกจากนั้นก็แทบจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ
“ตอนนี้มีสาวๆ มาฝากกันเยอะขึ้น บางคนเป็นสาวโสดยังไม่มีแฟนก็มาฝากไว้ก่อน หรือพวกสาวๆ ที่เรียนหนักกว่าจะแต่งงานก็ช้า เขาก็จะมาฝากไว้ก่อน แต่หากคุณแต่งงานและตั้งครรภ์ก่อนอายุ 35 ปี ก็ไม่จำเป็นต้องมาฝากไข่ก็ได้ ในกรณีที่คุณอายุเยอะแล้วการฝากไข่ไว้เป็นทางเลือกที่ดีของคุณสาวๆ”
ดาราสาวคนดัง เมย์ เฟื่องอารมย์คุณแม่ยังสาวของน้องมายู หรือน้องภูรดา กำเนิดพลอย ที่ตอนนี้อายุได้ขวบเศษแล้ว ให้ทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เธอเห็นด้วย เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้เป็นพ่อแม่อยากมีลูกแต่มีลูกไม่ได้ โดยเธอก็เป็นคนหนึ่งที่มีภาวะมีบุตรยาก ตัดสินใจทำกิฟต์ และได้ของขวัญที่พิเศษสุดในชีวิตนั่นคือน้องมายู
“ก็เห็นด้วยนะ ถ้าวิธีธรรมชาติไม่ได้ ก็ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย ความรู้สึกของคนเป็นแม่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหลอดแก้วหรือเด็กคลอดธรรมชาติก็เหมือนกันแหละ ลูกใครใครก็รัก เติมเต็มชีวิตและความเป็นครอบครัวได้สมบูรณ์เหมือนกันหมด” เมย์เล่า
เมย์ เล่าว่า บางทีคุณพ่อคุณแม่อายุมากทั้งคู่ เกิน 35 ปีนี่ก็ยากแล้ว หรือในภาวะที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีข้อจำกัด เช่น โรคทางพันธุกรรม ปัญหารังไข่ การมีถุงน้ำหรือซีสต์ หรือก้อนเนื้อที่รังไข่ ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ป่วย เครียด ขาดการพักผ่อน ฯลฯ ปัญหามากมายล้วนส่งผลต่อการตั้งครรภ์ของคนเป็นแม่ได้ทั้งสิ้น กรณีของเมย์นั้นเคยผ่าตัดซีสต์มาก่อน ทำให้รังไข่ผลิตไข่ได้ยาก
ข้อดีของการฝากไข่ เมย์ กล่าวว่า สำหรับเธอแล้วนี่คือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์เปิดช่องให้เราสามารถเลือกหรือสรรหาไข่ที่แข็งแรงที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และมีคุณภาพที่สุด รวมทั้งเลือกเพศที่ต้องการ ขณะเดียวกันก็ตัดปัญหาความเสี่ยงที่ยากจะเสี่ยง
ดาราสาวกล่าวต่อไปว่า เธอและสามียังมีแผนที่จะฝากไข่เอาไว้เพื่อมีลูกคนที่สองด้วย หากแพทย์แนะนำว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรัดหรือรีบตัดสินใจในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นก็รอๆ ไว้ก่อน (ฮา) โดยเฉพาะสามีที่เห็นใจว่าเราเป็นฝ่ายหญิงก็มีความลำบาก รวมทั้งก็ไม่อยากให้เครียด หรือกดดันจนเกินไป
“เมย์อยากมีอีกแหละ แต่ก็จะค่อยเป็นค่อยไป เพราะไม่อยากเครียด เรื่องนี้หารือกับพี่หนุ่มเรียบร้อยแล้ว สามีก็โอเคค่ะ สำหรับผู้หญิงที่อยากฝากไข่เหมือนกัน เมย์แนะนำว่าทำได้และตอบโจทย์มาก ในรายที่ยังโสดก็สามารถเก็บและฝากไข่ไว้ได้เช่นกัน เมื่อเจอสามีในอนาคตแล้วค่อยเอามาผสมกันก็ยังได้”
ด้าน 3 นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ ได้แก่ อุ้ม–ลักขณา วัธนวงส์ศิริ พิม-พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ และเอมี่-เอมิกา กลิ่นประทุม ก็ให้การตอบรับเทรนด์ก้าวล้ำนี้ โดยทั้งสามนักแสดงสาววางแผนว่าจะไปฝากไข่ โดยเฉพาะสองคนหลังตัดสินใจจะไปฝากเร็วๆ นี้ และให้เหตุผลตรงกันว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ของพวกเธอที่บางคนแต่งงานช้า หรือแต่งงานแล้ว เวลาส่วนใหญ่ทุ่มให้กับงานด้านการแสดงและธุรกิจส่วนตัว รวมทั้งยังไม่อยากมีลูกตอนนี้ “การฝากไข่” จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับการมีทายาทในอนาคต
อุ้ม ลักขณา ได้เปิดใจขณะที่ไปร่วมงาน “ดาว คะนอง เฟสติวัล” ที่จัดขึ้นที่สกาย ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ว่า ปัจจุบันเธออายุ 32 ปีแล้ว ซึ่งเธอยังไม่รู้ว่าจะสามารถมีครอบครัวได้เมื่อไหร่ หากไปฝากไข่ในขณะที่วัยยังสาวอยู่ เป็นเรื่องที่ดีซึ่งเธอก็ให้ความสนใจมากๆ หากอยากมีลูกเมื่อไหร่จะได้พร้อม ตัดปัญหามีลูกยากเมื่อผู้หญิงเราอายุมากขึ้น
“ตอนนี้อุ้มอายุ 32 ปีแล้ว และหากยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ตั้งใจจะไปฝากไข่ไม่เกินอายุ 34 ปี เพราะอุ้มรักเด็กมาก อีกทั้งสิ่งที่ทำแล้วเป็นการดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลูกที่แข็งแรงของเราในอนาคตเป็นสิ่งที่ดี แม้อนาคตของลูกตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเรามีกำลังที่จะจ่ายได้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ”
ด้าน พิม พิมพ์พรรณ ที่ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะไปฝากไข่ ไม่ปลายปีนี้ก็ต้นปีหน้า เพราะปัจจุบันนอกจากทำธุรกิจปลาร้าทอดกรอบทรงเครื่องรุ่งแล้ว ยังมีงานละครรุมมากกว่า 6 เรื่อง ทำให้เธอไม่มีเวลาไปคิดเรื่องการมีแฟนหรือการมีครอบครัว และทุ่มให้กับการทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ ซึ่งโดยส่วนตัวเธอสนใจเรื่องการฝากไข่มากๆ เพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่เก่ง สามารถทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย จึงไม่มีเวลาให้กับการมีแฟน และยอมรับว่าตนเองเป็นผู้หญิงมีสเปกสูงเกี่ยวกับเรื่องคู่ครอง คือหากมีแล้วต้องเกิดความสุขไม่ใช่ความทุกข์ และควรมีศีลที่เสมอกัน จึงทำให้ครองตัวเป็นโสดถึงวัย 37 ปีแล้ว
“พิมสนใจมากเกี่ยวกับเรื่องการฝากไข่ เพราะผู้หญิงเราอายุหาก 35 ปีแล้ว ร่างกายผู้หญิงก็จะผลิตไข่ได้น้อยลง แต่ชีวิตลูกผู้หญิงชีวิตหนึ่งก็อยากมีลูก พอดีน้องสาวเพื่อนของพิมไปฝากไข่มาแล้ว และส่งลิงค์มาให้อ่าน ตอนนี้พิมศึกษามาหมดแล้วว่ามีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 4 หมื่น-2 แสนบาทต่อการทำ พอมีนวัตกรรมนี้พูดได้คำเดียวว่าโล่งอก เพราะพิม 37 แล้วต้องรีบฝากนิดหนึ่งค่ะ”
ฟากสาวเอมี่ เอมิกา วัย 33 ปี ที่แม้แต่งงานกับ ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แล้ว แต่ก็ยังไม่มีแพลนว่าจะมีลูกเร็วๆ นี้ จึงตัดสินใจแน่แล้วว่าจะไปฝากไข่ หากถึงเวลาที่อยากมีแล้วอายุจะเกิน ประกอบกับรุ่นพี่ๆ แนะนำให้ไปฝากไข่ไว้ในขณะที่วัยและร่างกายแข็งแรงอยู่ดีกว่า จึงตั้งใจจะไปฝากไข่ในปีหน้า
“จากที่ศึกษาคือสามารถเก็บไข่ไว้ได้นานเป็นสิบปี เริ่มเก็บไข่ตั้งแต่สามสิบต้นๆ ก็มีความแข็งแรงของไข่ที่มากกว่า จึงอยากเก็บตอนนี้ซึ่งจะได้ผลหรือไม่เดี๋ยวค่อยว่ากัน แล้วสามีก็เห็นดีด้วยว่าให้เก็บไข่ไว้ก่อน ซึ่งตอนนี้เพื่อนนอกวงการหลายๆ คนก็ฝากแล้ว เพื่อนดาราก็เคยพูด ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมี่รับได้ ฝากไข่ไว้ตอนนี้ดีกว่าวันข้างหน้าคิดจะฝากแล้วไข่ไม่สมบูรณ์เหมือนตอนเราสาวๆ แล้วเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แล้วจะเสียดายย้อนหลัง ด้วยความที่เราใช้ชีวิตเที่ยวเดินทาง ต้องเจอกับมลพิษทุกวันนี้มากขึ้น ถ้า ณ ตอนนี้ ไม่ได้คิดว่ามันเป็นการลงทุน แต่เพื่ออนาคตที่ดีของลูกเรา มี่ก็คิดว่าดีกว่าไม่ทำค่ะ”
“การฝากไข่” ไว้กับธนาคารไข่ ฟากสาวสังคมส่วนใหญ่นิยมไปทำกันหลายคน แต่ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยชื่อ บางคนเผยว่าการฝากไข่กลายเป็นเทรนด์ของนวัตกรรมซึ่งคล้ายๆ กับนวัตกรรมด้านความงามเลยก็ว่าได้ บางคนที่ถึงแม้อายุจะมากขึ้นแล้ว หากย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากฝากไว้เหมือนกัน เพราะถือเป็นทางเลือกใหม่ของผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานเก่งและแต่งงานช้ากันมากขึ้น การฝากไข่จึงถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับสาวโสด และสาวที่ไม่โสดที่ยังไม่อยากมีทายาทเร็วๆ นี้
ผู้หญิงยุ่งขิงก็แต่ด้วยเรื่องไข่ แต่อย่างน้อยครั้งนี้เป็นไข่ของเราเอง โดยเฉพาะไข่ในหญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก ก็สามารถมาฝากไข่ไว้กับธนาคารไข่ ที่ซึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาทั้งการมีบุตรยาก และแก้ปัญหาคุณภาพของไข่ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้หญิงยุคใหม่แต่งงานช้า มีบุตรช้า ขึ้นรถไฟเที่ยวหน้า หรือรถไฟขบวนสุดท้ายก็ได้ไม่เห็นเป็นไร เวลาเหลือจะทัน


