posttoday

กษมา ศิลาชัย เลี้ยงลูกตามสัญชาตญาณ

16 กันยายน 2558

เอ่ยถึงพี่น้องสุดแซ่บ ที่มียอดฟอลโลว์ในไอจีไม่แพ้ซุป’ตาร์แถวหน้าของเมืองไทยนาทีนี้ ต้องยกให้พี่น้องสองออ “ออกัส-ศิศิรา และ ออก้า-นครา ศิลาชัย”

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช

เอ่ยถึงพี่น้องสุดแซ่บ ที่มียอดฟอลโลว์ในไอจีไม่แพ้ซุป’ตาร์แถวหน้าของเมืองไทยนาทีนี้ ต้องยกให้พี่น้องสองออ “ออกัส-ศิศิรา และ ออก้า-นครา ศิลาชัย” ลูกสาวและลูกชายของคุณพ่ออารมณ์ดี เปิ้ล-นาคร และจูน-กษมา ศิลาชัย ที่เรียกว่า ไม่ว่าสองออจะทำอะไร ก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เรียกความเอ็นดูจากแฟนคลับได้แบบถล่มทลาย งานนี้ต้องยกความดีให้คุณแม่จูนที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำรูปและคลิปน่ารักๆ ของพี่น้องสองออ

จูน-กษมา คุณแม่ยังสวย ซึ่งตอนนี้กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3 เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ท้องที่ 3 นี้เป็นเด็กผู้ชาย ตั้งชื่อไว้แล้วว่า ออกุช เป็นชื่อที่แฟนคลับของพี่น้องสองออโหวตมา คิดว่าลูกคนที่ 3 น่าจะเลี้ยงง่ายแล้ว เพราะเรามีประสบการณ์จากลูก 2 คนแรก ที่เป็นทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย

จูน บอกว่า ตอนนี้เป็นคุณแม่แทบจะฟูลไทม์ ดูแลลูกเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจส่วนตัว อย่างร้านโคขุน โพนยางคำ คุณทอง และผลิตภัณฑ์เสริมความงามสำหรับครอบครัว (Madamegusga) สำหรับเรื่องแบ่งเวลาระหว่างงานกับลูก จูน บอกว่า ไม่มีปัญหา

“จูนว่าคนเราจะมีเวลาหรือไม่ อยู่ที่การจัดสรร อย่างของจูน เช้าตื่นมาไปส่งลูก เสร็จแล้วก็กลับบ้าน ไปเล่นโยคะ มาเข้าบริษัท พอบ่ายไปรับลูก กลับบ้าน ดูแลให้เขากินข้าว ทำการบ้าน พาเข้านอน แล้วก็ออกไปดูกิจการที่ร้านอาหารประมาณ 2 ทุ่ม 4-5 ทุ่ม กลับบ้าน เช้าไปส่งลูก เป็นกิจวัตรประจำวัน มีบ้างที่ต้องออกจากบ้านตอนลูกยังไม่หลับ เราก็จะอธิบายเหตุผลให้ลูกเข้าใจ อย่างมีช่วงหนึ่งลูกติดจูนมาก แต่เราต้องออกไปทำงาน จูนก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่า แม่ต้องไปทำงาน หาเงินให้ลูก จะได้มีเงินซื้อของเล่นให้ จูนคิดว่า ถ้าเราอธิบายให้เขาฟัง เขาจะเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องโกหกลูกว่าไปซื้อของแล้วหายไปเลย”

ถามถึงหลักการเลี้ยงลูก คุณแม่จูนตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า เลี้ยงตามสัญชาตญาณ และเลี้ยงเขาให้เป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งที่สุด จูนบอกว่า ด้วยความที่ตั้งแต่เด็กจนโตเธอเป็นนักเรียนประจำตลอด พอเข้ามหาวิทยาลัยก็อยู่หอพัก ชีวิตในครอบครัวสำหรับเธอแทบไม่เคยสัมผัส ขณะที่สามีพอคุณพ่อเสียตั้งแต่เด็กก็อยู่กับคุณตาคุณยาย เราทั้งคู่เลยเหมือนกันตรงที่ไม่ได้สัมผัสกับคำว่า ครอบครัว หรืออยู่กับพ่อแม่มากนัก พอมีลูก ตอนแรกก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเลี้ยงเขายังไงดี

“จูนคุยกับพี่เปิ้ลเลยตัดสินใจว่า เราจะเลี้ยงลูกตามสัญชาตญาณ คิดว่าสิ่งนี้น่าจะใช่ น่าจะถูกก็ทำ อาศัยการสังเกตดูครอบครัวอื่นว่าเขาทำอย่างไร แล้วเอามาปรับใช้ โชคดีที่ลูกคนแรกเป็นลูกสาว เลี้ยงง่าย อาจด้วยความที่เขาเป็นผู้หญิงเหมือนเรา เราเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร แต่พอมีลูกคนที่ 2 ออก้านี่คนละเรื่องเลย ทฤษฎีที่เลี้ยงลูกคนแรกเอามาใช้ไม่ได้เลย แต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้ เลี้ยงเขาแบบธรรมชาติไป พยายามเลี้ยงลูกแบบไม่เครียด เพราะเมื่อไหร่ที่พ่อแม่เครียด เราจะเอาความเครียดไปลงที่ลูกโดยไม่รู้ตัว”

อย่างไรก็ตาม จูน ยอมรับว่า บางครั้งลูกดื้อหรือซนมากๆ ก็มีอารมณ์ แต่เมื่อไหร่ที่เธอรู้ว่าทำผิด เธอกล้าที่จะเอ่ยคำว่า “ขอโทษกับลูก” เช่นกัน ถามว่าจูนเป็นคุณแม่ที่ดุมั้ย จูนบอกว่า ดุ แต่ดุทุกวัน จนลูกเริ่มไม่กลัว ต่างกับคุณพ่อที่นานๆ ดุที แต่เอาจริงลูกจะค่อนข้างกลัว

“จูนพยายามเลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ แทบจะไม่มีกรอบ กรอบอย่างเดียวที่มี คือ ไม่ทำร้ายคนอื่น ด้วยความที่ออกัส-ออก้า อายุห่างกันไม่เยอะ จะเล่นจะตีกันแทบทุกชั่วโมง จูนไม่ห้ามนะ เพราะจูนว่าเขายังไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวเขาก็ดีกัน แต่พอผ่านจุดนั้นไปเราก็จะเรียกเขามาสอน อย่างออกัส จูนจะสอนเสมอว่าต้องอดทน เข้มแข็ง อย่ายอมให้น้องรังแก ส่วนออก้า จูนจะสอนเขาเสมอว่า อย่ารังแกคนอื่น อย่ารังแก่ผู้หญิงหรือทำร้ายผู้หญิง พูดไปก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจหรือเปล่า แต่จูนจะพูดซ้ำๆ ย้ำๆ ไปเรื่อยๆ ให้เข้าไปอยู่ในใจเขา ติดเป็นนิสัย”

ถามถึงความคาดหวังต่อลูกทั้งสอง จูน บอกว่า หวังให้เขาเป็นเด็กที่มีจิตใจดี อารมณ์ดี เป็นธรรมชาติเหมือนที่เราพยายามปลูกฝังให้เป็นนิสัยติดตัวเขาไปตั้งแต่เด็ก ต่อไปโตไปเป็นผู้ใหญ่ในสังคมจะได้ไม่เป็นปัญหา ส่วนที่เหลือเขาจะเป็นอย่างไรนั้น จูนไม่ได้จำกัดเขาเลย

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย