posttoday

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย

14 กันยายน 2558

กระแสของภาพยนตร์เรื่อง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” กำลังฟีเวอร์

โดย...พุสดี-กาญจนา

กระแสของภาพยนตร์เรื่อง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” กำลังฟีเวอร์ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเพราะเนื้อหาหนังที่โดนใจเด็กเจนวายยุคนี้ แต่อีกแรงขับสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้เลยที่ทำให้กระแสหนังเรื่องนี้กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ คือการหยิบอาชีพฟรีแลนซ์มาถ่ายทอดในอีกด้านว่า แม้การเป็นฟรีแลนซ์จะดูเป็นที่อิจฉาของใครหลายคน เพราะออกแบบชีวิตการทำงานของตัวเองได้ แต่จริงๆ แล้วฟรีแลนซ์เหล่านี้ต้องแข่งขันกับตัวเองและคู่แข่งในตลาดฟรีแลนซ์ที่ผุดขึ้นตลอดเวลา แถมยังทำงานหนักกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ

สำหรับคนที่ยังตั้งคำถามว่า แล้วจริงๆ อาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่ง วิชัย นราไพบูลย์ ผู้จัดการพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย ให้คำจำกัดความไว้ว่า “ฟรีแลนซ์” คือส่วนหนึ่งของแรงงานนอกระบบ ต้องทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมง/วัน ไม่มีระบบรักษาพยาบาล ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง รายได้ไม่แน่นอน แถมยังต้องเสียค่าน้ำค่าไฟเองจากการนั่งทำงานที่บ้าน ทำไมจึงเป็นอาชีพที่เด็กรุ่นใหม่ใฝ่ฝัน ลองฟังเสียงจากฟรีแลนซ์ตัวจริงเสียงจริงดู

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย ภิญญา ตันติวัตนะ

ติวเตอร์อิสระ... คืองานที่ใช่

อิม-ภิญญา ตันติวัตนะ ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 นิเทศศาสตรบัณฑิต และปริญญาโทคณะอักษรศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษสถาบันกวดวิชา ติวเตอร์ส่วนตัวสำหรับผู้ใหญ่ พิธีกรรายการ Coffee Venture และล่ามการประชุม อิมบอกว่า งานประจำงานเดียวที่อยากทำตอนนี้คือ รับราชการ แต่ถ้าเป็นงานในบริษัทเอกชนคงไม่ใช่คำตอบ

“สำหรับงานประจำที่ผ่านมามีผู้ใหญ่ทาบทามทั้งภาครัฐและเอกชน ถ้าอิมจะทำงานประจำคงทำภาครัฐสักระยะ เพราะถือเป็นการทดแทนคุณแผ่นดิน ส่วนงานในบริษัทเอกชน อิมมองว่าถ้าจะทำ อิมสามารถกลับไปช่วยธุรกิจที่บ้าน แต่ทางบ้านและอิมเห็นตรงกันว่าไปหาประสบการณ์ข้างนอกก่อนดีกว่า หรือในอนาคตอาจจะทำธุรกิจของตัวเองเลย”

หลังจากออกมาโลดแล่นในโลกการทำงาน อาชีพติวเตอร์อิสระ คือสิ่งที่อิมเลือก เพราะคืออาชีพในฝัน

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย ภิญญา ตันติวัตนะ

“อยากเป็นติวเตอร์ตั้งแต่ได้เรียนกับอาจารย์ปิงตอนอยู่ ม.5 แล้ว อยากทำงานที่ทำให้คนอื่นดีขึ้น ประกอบกับเป็นคนที่ถนัดด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะการพูด ก็เลยใฝ่ฝันอยากเป็นติวเตอร์ ที่ผ่านมาสถาบันต่างๆ ก็เสนอให้ทำประจำนะคะ แต่เงื่อนไขเวลาว่าต้องสอนจันทร์-พฤหัสฯ เฉพาะ 18.00-21.00 น. และเสาร์-อาทิตย์วันละ 7 ชั่วโมง อิมเลยไม่โอเค เพราะเท่ากับว่าวันหยุดเราจะไม่ได้เจอครอบครัวและไม่ได้เจอเพื่อนหลังเลิกงานเลย

การเป็นติวเตอร์อิสระเราสามารถให้โรงเรียนจัดตารางให้ได้ตามที่สะดวก ได้ค่าสอนเป็นชั่วโมง และยังมีเวลารับงานอื่นอีก ถ้าอยากหยุดก็หยุดได้เลย เพียงแค่แจ้งทางโรงเรียนล่วงหน้าเพื่อปรับตารางสอน เอานักเรียนของเรากระจายไปฝากติวเตอร์คนอื่นไว้ เราไม่ต้องกังวล”

อิม ยอมรับว่า ถึงตารางทำงานที่ยืดหยุ่นกับรายได้ที่ไม่ต่างจากการเป็นติวเตอร์ประจำมากนัก แต่ฟรีแลนซ์อย่างเธอไม่มีสวัสดิการดูแล ไม่มีการเลื่อนตำแหน่งเหมือนทำงานในองค์กร

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย ภิญญา ตันติวัตนะ

“ติวเตอร์ก็คือติวเตอร์ ใครสอนยิ่งดีก็ยิ่งมีนักเรียนจองชั่วโมงมาก แต่ร่างกายมีข้อจำกัด ต่อให้นักเรียนมากยังไงก็รับได้ไม่หมดค่ะ เช่น สอนคนละ 1.5 ชั่วโมง วันหนึ่งรับ 6 เคส สอน 9 ชั่วโมงก็เหนื่อยเกินไปแล้ว ส่วนใหญ่อิมเลือกรับวันละ 4-5 เคส 6.5-7.5 ชั่วโมง ดังนั้น รายได้จึงมีเพดานจำกัดค่ะ”

สำหรับอิมเสน่ห์ของการเป็นฟรีแลนซ์คือ เราไม่ใช่ลูกน้องที่ทำตามหัวหน้าสั่งหรือทำให้หัวหน้าพอใจ แต่เราคือคนที่ผู้จ้างจ้างมาเพื่อแก้ปัญหาให้เขา เพื่อช่วยเขาในสิ่งที่เขาไม่ถนัดให้สำเร็จ ส่วนเรื่องรายได้จะแล้วแต่ชั่วโมงที่รับงาน ทุกวันนี้รับสัปดาห์ละ 4 วัน มีรายได้ประมาณ 6 หมื่นบาท/เดือน นอกจากนี้ เธอยังถ่ายรายการเดือนละ 2-3 วัน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก และยังได้รับประสบการณ์ความรู้ด้านกาแฟที่สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้

วิชชา สุยะรา ฟรีแลนซ์ตลอดชีพ

ตั้งแต่ทำงานอิสระ ชีวิตของ ตุ้ย-วิชชา สุยะรา มีเวลาพักมากกว่าทำงานประจำ 

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย วิชชา สุยะรา

ตุ้ยเป็นฟรีแลนซ์มาตลอด 5 ปี โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำ แต่ตัดสินใจลาออก “ทำงานบริษัทต้องเข้างานตรงเวลา แต่เลิกงานไม่เคยตรงเวลาเลย” เขากล่าว “ช่วงแรกที่ลาออกก็มีคนมาเสนองานประจำให้ทำ บางที่เสนอเงินเดือนให้เป็นแสน แต่เราไม่ชอบวิธีการทำงานในออฟฟิศ ชอบอยู่คนเดียว สบายใจกว่า”

วิชชา ทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ คนตัดต่อ ตัดเทรลเลอร์โปรโมทหนัง ทำโปสเตอร์หนัง เป็นโปรดิวเซอร์กองถ่าย และยังสามารถคิดแคมเปญงานสร้างสรรค์และภาพยนตร์ได้ทั้งหมด ปีแรกที่ออกจากงานประจำมา เขายอมรับว่าต้องหาลูกค้าเองบ้าง แต่ก็มีลูกค้าจำนวนหนึ่งตามมาจ้างต่อ ทำให้คอนเนกชั่นเก่าแน่นปึ้กและคอนเนกชั่นใหม่ก็มีเข้ามาเรื่อยแบบที่ว่า นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนโทรมา

“ลูกค้าประจำเขาจะส่งงานให้ตลอด เราจะไม่ปฏิเสธลูกค้าประจำ เพราะส่วนใหญ่เขาจะจัดคิวที่ลงตัวมาให้แล้ว เราจะคุยงานกันผ่านไลน์ ถ้าอยากเห็นหน้าก็เฟซไทม์ ยกเว้นงานไหนที่เป็นความลับสุดยอดก็จะไปเจอกัน เวลาส่งงานก็ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต อัพโหลดขึ้นคลาวด์ ทำให้ทำงานคนเดียวที่บ้านได้เลย”

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย

เขายังกล่าวด้วยว่า สมัยก่อนทำงานหนักมากจนป่วย เมื่อกลายเป็นฟรีแลนซ์จึงมีกฎเหล็กของตัวเอง คือ... “นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง ไม่ว่าจะงานเยอะขนาดไหน เราก็ต้องเซฟตัวเอง” ดังนั้นช่วงที่งานล้นเขาจะส่งให้พาร์ตเนอร์ทำแทน ไม่กั๊กไว้กับตัวเอง เพราะไม่เช่นนั้นงานจะเสียไปหมด

ชื่อหนังฟรีแลนซ์ที่ว่า “ห้ามป่วย” นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ “ห้ามพัก” ตุ้ยยืนยันว่าไม่ใช่ ตัวเขาเองสามารถนอนครบ 8 ชั่วโมง มีเวลาเที่ยวปีละครั้ง หรือขณะทำงานก็ยังเล่นเฟซบุ๊ก ฟังเพลง และถ้าไม่ยุ่งมากก็จะดูหนังวันละ 1 เรื่อง

กฎเหล็กอีกข้อคือ ความรับผิดชอบ สาเหตุที่ตุ้ยมีงานเข้ามาทั้งปีและลูกค้าเก่ายังใช้บริการต่อเนื่อง เขาคิดว่าเป็นเพราะความรับผิดชอบ “ผมไม่ได้แข่งกับใคร ผมแข่งกับเดดไลน์” เขากล่าว อีกทั้งยังเป็นเรื่องของฝีมือ รสนิยม และราคาที่ไม่สูงเกินไปจนลูกค้าหนีไปหาเจ้าอื่น

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย

อย่างไรก็ตาม ชีวิตฟรีแลนซ์ก็ยากกว่าพนักงานประจำบางเรื่อง เช่น การกู้เงินธนาคาร เพราะฟรีแลนซ์ไม่มีเงินเดือนทำให้กู้เงินลำบาก เขาจึงต้องให้ลูกค้าเขียนใบรับรองเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน ส่วนเรื่องรายได้ เขาบอกว่า มีเข้ามาทุกเดือนพอที่จะผ่อนบ้านได้ และยังยืนยัน “จะเป็นฟรีแลนซ์ตลอดไป ส่วนเรื่องจะเปิดบริษัทของตัวเองก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดให้ดี”

งานชิ้นล่าสุดของเขาคือ โปสเตอร์หนังเรื่อง คืนนั้น Red Wine in the Dark Night และยังเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับหนังเรื่องนี้ด้วย ติดตามชีวิตฟรีแลนซ์ของตุ้ยได้ที่ Facebook.com/OfficialWitchaSuyara

ต้องการทำเพื่อสังคม ลัพธวรรณ ลีรพงษ์กุล

ชีวิตการทำงานของ แตงโม-ลัพธวรรณ ลีรพงษ์กุล เคยผ่านทั้งงานประจำและงานอิสระ ซึ่งชีวิตฟรีแลนซ์ของเธอเรียกว่าฟรีแลนซ์ประจำ เพราะได้รับเงินเดือนแต่ไม่มีสวัสดิการ และสามารถรับงานอื่นได้แบบเปิดเผย

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย ลัพธวรรณ ลีรพงษ์กุล

“ตอนเป็นฟรีแลนซ์ประจำ มันคือสวรรค์” เธอลาออกจากงานประจำ แล้วไปทำงานร่วมกับองค์กรสร้างเสริมสุขภาพแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ดูแลเนื้อหาและผลิตรายการทีวี “เราไม่ต้องเครียดเรื่องเงินเพราะรับเป็นเงินเดือน แค่ต้องบริหารเวลาทำงานให้ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ไม่ต้องตอกบัตร ทำงานที่บ้านได้ ซึ่งเป็นช่วงที่ได้สัมผัสรสชาติของความเป็นฟรีแลนซ์จริงๆ”

แตงโมยังกล่าวด้วยว่า งานฟรีแลนซ์ประจำคือ คอมฟอร์ตโซนของเธอ เพราะเธอยังมีเวลาว่างให้ไปทำงานอาสาสมัครด้วย

หากอีกมุมหนึ่ง การมีเวลามากๆ ทำให้เธอไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร “ตอนแรกมันเหมือนจะดี เรามีเวลาทำงาน 24 ชั่วโมง 7 วัน เวลามันเยอะ ทำให้ช่วงแรกปรับตัวไม่ได้ เพราะชอบคิดว่าเดี๋ยวค่อยทำ และชอบออกไปทำงานร้านกาแฟ กลายเป็นว่าเราต้องเสียเงินเยอะกว่าเดิม แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีวินัยกับตัวเอง ทำให้ตัวเองทำงานที่บ้านได้ แค่อย่าตามใจตัวเองมากเกินไป”

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย

พอถึงช่วงหนึ่ง แตงโมต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อมีคนมาเสนองานประจำให้ “เราปฏิเสธไปหลายรอบ เขาตื๊ออยู่ประมาณ 6 เดือน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าไป เพราะงานมันสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย” เธอทำงานในสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งรับหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายโปรแกรม แต่ก็ทำได้เพียง 1 ปี ก็ลาออกหลังจากถามตัวเองว่า “ทำไมถึงกลับมาสู่จุดเดิม” และเธอยังกดดันกับงานที่ต้องเกี่ยวโยงกับคนหลายคน ต้องดูแลความรู้สึกของผู้อื่น จนถึงจุดหนึ่งเธอก็รู้สึก “เฟลหนักมาก”

หลังจากนั้นเธอจึงถามตัวเองว่าอยากทำอะไร คำตอบที่ได้ไม่ใช่การเป็นฟรีแลนซ์หรือพนักงานประจำในองค์กรใหญ่ แต่เธออยากทำงานเพื่อสังคมจึงร่วมงานกับอโชก้า (Ashoka Thailand) องค์กรภาคประชาชนที่ค้นหาและสนับสนุนผู้ประกอบการสังคม ในตำแหน่ง Knowledge & Communication Manager

ถามเธอว่า ไม่อยากกลับไปในคอมฟอร์ตโซนของตัวเองแล้วหรือ เธอตอบ “เราเจอแล้วว่าอยากทำอะไร ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปทำไม เราโอเคกับงานหนัก ทำงาน 5-6 วัน/สัปดาห์ แต่เราแฮปปี้กับงานนี้มากๆ เพราะมันคือสิ่งที่เราอยากทำ ถ้าจะทำงานประจำก็ต้องทำงานนี้แหละ” ชีวิตฟรีแลนซ์ของเธอจึงต้องหยุดไว้ก่อน เพราะตอนนี้กำลังเต็มที่กับงานที่รัก

‘ฟรีแลนซ์’ รสชาติชีวิตหอมหวานของเจนวาย ลัพธวรรณ ลีรพงษ์กุล

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?